xs
xsm
sm
md
lg

รูปดอกบัว, ใบมะพร้าว, กอไผ่.. เปิด 3 ดีไซน์สุดท้ายสนามบินใหญ่เจ็ดชั่วโคตรเวียดนาม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

<br><FONT color=#00003>อาคารรูปทรงดอกบัว หนึ่งในสามดีไซน์มาแรง สำหรับสนามบินลองแถ่ง 16,000 ล้านดอลลาร์ เวียดนามประกาศเดือน ก.ค.ปีที่แล้ว จะต้องเริ่มก่อสร้างเฟสที่หนึ่งให้ได้ ในอีก 2 ปีข้างหน้า. </b>

MGRออนไลน์ -- โครงการก่อสร้างสนามบินลองแถ่งงวดเข้ามาทุกทีๆ ด้วยดีไซน์ที่แสดงถึงอัตลักษณ์แห่งชนชาติ และ ดินแดนเวียดนาม ที่เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จทั้งสามระยะ จะมีมูลค่ารวมสูงถึง 16,000 ล้านดอลลาร์ แต่จะช่วยแก้ไขสภาพ การแออัดคับคั่งของ สนามบินนครโฮจิมินห์ ซึ่งเป็นท่าอากาศยานขนาดใหญ่เพียงแห่งเดียว ในภาคใต้ของประเทศปัจจุบัน

ถึงแม้ว่ากระทรวงขนส่ง กับการท่าอากาศยาน ซึ่งเป็นรัฐวิสาหากิจจะเคยเผยแพร่ภาพสนามบินใหม่ ที่ออกแบบโดยคอมพิวเตอร์มาบ้างแล้ว แต่ก็ยังไม่เคยมีการ นำมาเปรียบเทียบให้เห็น วิดีโอคลิปชิ้นหนึ่ง ที่สำนักข่าวเวียดนามเอ็กซ์เพรส เผยแพร่ไม่กี่วันมานี้ ได้เป็นการรวมเอา 3 แบบสุดท้าย จากการหยั่งเสียงจากสังคมที่ผ่านมา มาแสดงเปรียบเทียบกัน

รัฐบาลคอมมิวนิสต์เวียดนาม จะสรุปออกมาในเร็วๆ นี้ว่าจะเป็นแบบใด สำหรับสนามบินแห่งใหม่ ที่จะเป็นท่าอากาศยานทันสมัย ใหญ่ที่สุดของประเทศในวันข้างหน้า สำนักข่าวภาษาเวียดนามกล่าว

ทั้งสามดีไซน์ในวิดีโอคลิปดังกล่าว ได้ผ่านการคัดเลือกของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เป็นการออกแบบอาคารผู้โดยสารและที่ทำการเป็นรูปดอกบัว อันเป็นสัญลักษณ์ของเวียดนาม แบบที่สองเป็นรูปลักษณ์ใบมะพร้าว ที่หาพบได้ทั่วไปในประเทศนี้ กับแบบที่สามเป็นรูปลักษณ์ต้นไผ่ (กอไผ่) โครงหลังคาด้านในยึดโยงด้วยโลหะ ที่ทำเป็นรูปไม้ไผ่ไขว้กันไปมา

ทั่งหมดดีไซน์ออกมาได้สวยงาม และมีความหมายในเชิงชนชาติ สำนักข่าวของทางการกล่าว

สนามบินลองแถ่ง (Long Thanh) จะสร้างขึ้นในเนื้อที่ 5,000 เฮกตาร์ (31,250 ไร่) ในท้องที่อำเภอชื่อเดียวกัน อยู่ห่างจากนครโฮจิมินห์ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือราว 40 กิโลเมตร ใน จ.โด่งนาย (Dong Nai) เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จทั้งสามเฟส จะมีขนาดใหญ่โตกว่าสนามบินเตินเซินเญิ๊ต (Tan Son Nhat) นครโฮจิมินห์ถึง 4 เท่าตัว รองรับผู้โดยได้กว่า 100 ล้านคนต่อปี

แผนการก่อสร้างสนามบินแห่งนี้ เริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1980 หรือ เมื่อกว่า 20 ปีก่อน แต่ปัญหาด้านเศรษฐกิจ เกี่ยวกับเงินกู้และการลงทุน รวมทั้งการติดขัดทางด้านการเมือง ซึ่งรัฐสภาเวียดนามเกรงว่า จะทำให้หนี้สาธารณะของประเทศพอกพูนขึ้น ในขณะที่เวียดนาม ยังต้องการเงินลงทุนในแขนงอื่น ที่มีความเร่งด่วนพอๆ กัน หรือ ยิ่งกว่า จึงทำให้โครงการเลื่อนออกไป ครั้งแล้วครั้งเล่า จนหลายคนเรียกเป็น "สนามบินเจ็ดชั่วโคตร"
.

.
อย่างไรก็ตามเดือน ก.ค.ปีที่แล้ว นายจีง ดิ่ง ยวุ๋ง (Trinh Dinh Dung) รองนายกรัฐมนตรี ผู้กำกับดูแล ภายใต้รัฐบาลชุดใหม่ ได้กำหนดกรอบเวลาทำงาน ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมการก่อสร้างให้ได้ในปี 2562 หรือในสองปีข้างหน้า โดยจะมี 1 รันเวย์ อาคาร 1 หลัง กับ สิ่งปลูกสร้างสนับสนุนอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งจะสามารถรับผู้โดยสารได้ 25 ล้านคน กับสินค้าอีก 1.2 ล้านตันต่อปี

ทุกอย่างกำลังดำเนินไปในทิศทางนั้น ซึ่งเป็นครั้งแรกที่โครงการสนามบินลองแถ่ง มีกำหนดและกรอบเวลาอันชัดเจน รองนายกรัฐมนตรียังกำชับด้วยว่า เฟสที่ 1 จะต้องแล้วเสร็จและใช้การได้ในปี 2568 หรือ สองปีข้างหน้า และ สั่งการไปยังทางการ จ.โด่งนาย ให้ร่วมกับกระทรวงขนส่ง และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งเวนคืนที่ดินและจ่ายเงิยชดเชยให้แล้วเสร็จโดยเร็ว

เฟสที่ 2 และ 3 จะเพิ่มและขยายรันเวย์ กับอาคารผู้โดยสารอีก 1 หลัง ขยายขีดความสามารถให้รับผู้โดยสารได้ 100 ล้านคน สินค้าอีก 5 ล้านตันต่อปี ซึ่งคาดว่าจะต้องเงินทุนรวม 16.03 พันล้านดอลลาร์ โดยเฟสแรกจะใช้ประมาณ 5,450 ล้านดอลลาร์

ท่าอากาศยานนานาชาติโฮจิมินห์ ออกแบบมาเพื่อรับผู้โดยสาร 25 ล้านคนต่อปี แต่จำนวนคนไปใช้ ได้เพิ่มขึ้นเป็น 32 ล้านคนต่อปี ตั้งแต่ 2-3 ปีที่แล้ว ปัจจุบันมีสภาพแออัดเป็นอย่างมาก ถูกขนาบล้อมรอบด้วยตัวเมือง ถนนหนทางที่ตัดผ่านไม่สามารถขยับขยายได้อีก ทำให้การจราจรติดขัดถึงขั้นวิฤกฤต

ทางการนครมีความพยายามแก้ไข หาวิธีเดินทางสู่สนามบินแห่งนั้น ให้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยคิดสร้างระบบขนส่งมวลชน หลายรูปแบบ ซึ่งรวมทั้งรถไฟฟ้าใต้ดินสายสั้นๆ 1-2 กม. แม้กระทั่งระบบรถกระเช้าลอยฟ้า แต่ทั้งหมดก็ไม่สามารถลดความแออัดภายในสนามบินลงได้

ขณะเดียวกันเวียดนาม ก็จะขยายสนามบินโนยบ่าย (Noi Bai) ในกรุงฮานอย ที่จะต้องใช้เงินลงทุนอีกราว 5,500 ล้านดอลลาร์ เพื่อให้รับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นสองเท่า เป็น 50 ล้านคนต่อปีในปี 2573 โดยใช้พื้นที่ราว 720 เฮกตาร์ (4,500 ไร่) ทางฝั่งตรงข้ามถนนหวอ งเวียน ย้าป มีรายงานเรื่องนี้ในเว็บไซต์ของรัฐบาล.
กำลังโหลดความคิดเห็น