เอเอฟพี - เจ้าของร้านอาหารญี่ปุ่นถูกกล่าวหาว่ากำกับดูแลขบวนการค้ามนุษย์ที่บังคับผู้หญิงให้ขายบริการทางเพศในญี่ปุ่น ถูกตั้งข้อหาค้ามนุษย์ในกัมพูชาวันนี้ (7) พร้อมกับภรรยา และพนักงานร้านอาหาร
การตั้งข้อหาครั้งนี้เกิดขึ้นหลังเหตุการณ์ช่วยเหลือหญิงชาวกัมพูชา 7 คน จากร้านอาหารในเมืองกุนมะ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงโตเกียว เมื่อเดือน ธ.ค. ซึ่งหนึ่งในผู้หญิงที่ตกเป็นเหยื่อได้ร้องขอความช่วยเหลือผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์เฟซบุ๊ก
และในวันอังคาร (7) ศาลแขวงกรุงพนมเปญ ได้ตั้งข้อหาต่อเจ้าของร้านอาหารญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่ในเมือง พร้อมภรรยาชาวเขมร และพนักงานท้องถิ่น ฐานกระทำความผิดค้ามนุษย์
ตำรวจได้กล่าวหาชายชาวญี่ปุ่นชื่อ ซุซุมะ ฟุกุอิ อายุ 52 ปี ลวงหญิงสาวด้วยสัญญาทำงานค่าจ้างสูง และยังจัดส่งผู้หญิงเหล่านี้ให้แก่คนที่ติดต่อด้วยในเมืองกุนมะ ในเดือน พ.ย. โดยผู้หญิงที่ตกเป็นเหยื่อเหล่านั้นคิดว่าตนเองกำลังเดินทางไปทำงานเป็นพนักงานร้านอาหาร แต่ในที่สุดกลับพบว่าตนเองถูกบังคับให้มีเพศสัมพันธ์กับลูกค้า
ส่วนภรรยาชาวเขมรของฟุกุอิ อายุ 28 ปี และพนักงานร้านอาหารอายุ 30 ปี ก็ถูกกล่าวหาด้วยเช่นกัน
เมื่อเดือนที่ผ่านมา ตำรวจญี่ปุนได้เข้าทลายแหล่งค้ากาม และสามารถจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 3 คน เป็นชาวญี่ปุ่น 2 คน และชาวไทย 1 คน ที่นำไปสู่การช่วยเหลือหญิงไทยได้อีก 10 คน ที่เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นกล่าวว่า ผู้หญิงเหล่านี้อาจเป็นเหยื่อลวงขายบริการทางเพศเช่นเดียวกัน
เมื่อเดือน ส.ค. ทางการฟิลิปปินส์ได้เตือนพลเมืองของตนเองเกี่ยวกับการเดินทางไปญี่ปุ่นเพื่อหางานทำอย่างผิดกฎหมาย โดยระบุว่า อาจเสี่ยงที่จะตกเป็นเหยื่อลวงขายบริการทางเพศ หรือการบังคับใช้แรงงาน
รายงานประจำปีของสหรัฐฯ เกี่ยวกับการลักลอบค้ามนุษย์ได้ระบุว่า ญี่ปุ่นยังคงเป็นจุดหมายปลายทางของแหล่ง และทางผ่านของขบวนการค้ามนุษย์ แม้การปราบปรามจะเพิ่มขึ้นในช่วงหลายปีมานี้ก็ตาม
“ขบวนการค้ามนุษย์มักควบคุมความเคลื่อนไหวของเหยื่ออย่างเข้มงวด ด้วยการใช้ข้อผูกมัดเรื่องหนี้สิน การข่มขู่ใช้ความรุนแรง หรือส่งตัวกลับประเทศ แบล็กเมล์ ยึดหนังสือเดินทาง และวิธีการทางจิตวิทยาเพื่อบีบบังคับ” รายงานของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ปี 2559 ระบุ
และจากข้อมูลล่าสุดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติญี่ปุ่น ระบุว่า ในปี 2558 ตำรวจญี่ปุ่นสามารถช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์ได้ทั้งหมด 49 ราย.