รอยเตอร์ - ทนายความชาวมุสลิมชื่อดังของพม่าที่ถูกลอบสังหารในนครย่างกุ้ง ถูกจับตาดูอย่างใกล้ชิดโดยเจ้าหน้าที่ข่าวกรอง ตามการระบุของเพื่อน และผู้ร่วมงาน และยังถูกข่มขู่คุกคามเนื่องจากหน้าที่การงานที่ทำอยู่ในตำแหน่งที่ปรึกษาของพรรครัฐบาลของนางอองซานซูจี
คนใกล้ชิดกับโก นี ที่ถูกสังหารดับเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ ซึ่งรัฐบาลระบุว่า เป็นความพยายามที่จะบ่อนทำลายเสถียรภาพของประเทศ กล่าวว่า พวกเขาได้เตือนโก นี ให้ระมัดระวังดูแลความปลอดภัยตัวเองให้มากขึ้น แต่เขาไม่สนใจคำเตือนเหล่านั้น
“ผมเป็นห่วงเจ้านายผมทุกครั้ง ผมมักจะเดินตามหลังเขาเพื่อดูแลความปลอดภัยตอนที่เขาเดินกลับบ้าน” พนักงานในสำนักงานของโก นี กล่าว
มือปืนบุกเดี่ยวจ่อยิงโก นี ที่ศีรษะ เมื่อวันอาทิตย์ (29) ขณะที่กำลังอุ้มหลานชายรอแท็กซี่อยู่บริเวณด้านนอกสนามบินนานาชาติย่างกุ้ง
การสังหารทนายความที่รู้กันว่ากำลังทำงานแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับที่ทหารร่างขึ้น เกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างศาสนา และชุมชนในประเทศที่ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ และความรุนแรงทางการเมืองที่เกิดขึ้นนี้ยังสร้างความเสียหายต่อการเปลี่ยนแปลงไปสู่ระบอบประชาธิปไตย ที่ได้รับการชื่นชมกว้างขวาง หลังประเทศปกครองโดยรัฐบาลเผด็จการทหารมานานหลายสิบปี
แรงจูงใจของมือปืนซึ่งอยู่ในความควบคุมของตำรวจยังคงไม่แน่ชัด แต่ดูเหมือนมือปืนรายนี้จะทราบเวลาที่โก นี เดินทางถึงสนามบิน
ตำรวจกล่าวว่า พวกเขาเชื่อว่าเป็นการวางแผนร่วมกันอย่างกว้างขวางที่นำมาสู่การสังหารครั้งนี้ และผู้ต้องสงสัยรายที่ 2 ถูกจับกุมตัวได้ใกล้กับพรมแดนพม่า-ไทย เมื่อวันจันทร์ (30) ตามการระบุของรองผู้บัญชาการตำรวจในรัฐกะเหรี่ยง ขณะที่สำนักงานประธานาธิบดีกล่าวว่า จากการสอบสวนมือปืนเบื้องต้นชี้ว่ามีเจตนาที่จะทำลายความมั่นคงของรัฐ
โก นี ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายรัฐธรรมนูญ วัย 63 ปี เป็นผู้ออกแบบตำแหน่งที่ปรึกษาแห่งรัฐ ให้แก่ นางอองซานซูจี โดยตำแหน่งดังกล่าวทำให้ซูจีสามารถนำรัฐบาลได้อย่างมีประสิทธิภาพแม้จะถูกมาตราในรัฐธรรมนูญขัดขวางจากการนั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีก็ตาม เหตุเพราะสมาชิกในครอบครัวของซูจี เป็นชาวต่างชาติ
โก นี กำลังทำงานแก้ไขกฎหมายที่ร่างขึ้นโดยกลุ่มนายพลที่เคยปกครองประเทศ ซึ่งสงวนที่นั่ง 1 ใน 4 ของสภาให้แก่กองทัพ รวมทั้งตำแหน่งรัฐมนตรีในกระทรวงที่เกี่ยวข้องต่อความมั่นคง
เพื่อนร่วมงานของโก นี กล่าวว่า ทนายความที่มีประสบการณ์ผู้นี้กำลังทำงานในประเด็นอ่อนไหวเรื่องอื่นๆ อีกด้วย
โก นี ต้องการที่จะถอดเจ้าหน้าที่ทหารออกจากการบริหารงาน และยังเป็นหัวหอกในการร่างกฎหมายปรองดองระหว่างศาสนา ที่รวมทั้งมาตรการที่จะจัดการกับการใช้ถ้อยคำสร้างความเกลียดชัง อาชญากรรมจากความเกลียดชัง และการเลือกปฏิบัติ
เขาต้องการที่จะแก้ไขกฎหมายปี 2525 ที่จำกัดสิทธิพลเมืองของคนที่ไม่ได้ถูกพิจารณาว่าเป็นสมาชิกของกลุ่มชาติพันธุ์ในประเทศ เช่น ชาวมุสลิมโรฮิงญาราว 1.1 ล้านคน ในพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ
หลังชาวพุทธชาตินิยมบังคับให้ NLD ยกเลิกการหารือในเรื่องที่ โก นี และชาวมุสลิมคนอื่นๆ ต้องการจะพูดคุยด้วย โก นี กล่าวว่า ความใกล้ชิดกับซูจี และงานของเขาเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องอ่อนไหวอย่างมาก
“ผมตกเป็นเป้า ผมดูแลตัวเอง และพยายามไม่ทำตัวให้โดดเด่น ผมเพียงแค่ให้ความรู้เรื่องกฎหมาย และรัฐธรรมนูญเท่านั้น” โก นี กล่าวต่อองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนฟอติฟายไรท์ เมื่อเดือน ส.ค.2558
เมื่อโก นี เริ่มรณรงค์หาเสียงให้แก่พรรค NLD ก่อนการเลือกตั้งในเดือน พ.ย.2558 เขาเริ่มได้รับคำเตือนว่าเขาควรหยุดงานทางการเมืองของตัวเอง โอน หล่าย ทนายความที่ทำงานในบริษัททนายความที่ โก นี ก่อตั้ง กล่าว
“หากเขาไม่ฟัง พวกนั้นจะฆ่าเขา ผมไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้น” โอน หล่าย กล่าวต่อรอยเตอร์
.
.
หลังพรรค NLD ก้าวเข้าสู่อำนาจ ความกังวลเรื่องความปลอดภัยเพิ่มขึ้นสองเท่าด้วยสัญญาณของการตกเป็นเป้าจับตาโดยเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองเพิ่มมากขึ้น ตามการระบุของเพื่อนร่วมงาน 3 คน และญาติอีก 2 คน
เพื่อนร่วมงานของโก นี กล่าวว่า พวกเขาถูกเจ้าหน้าที่เข้าหาโดยตรงเพื่อสืบข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมของโก นี
ยิน เน ขิ่น ลูกสาวของโก นี กล่าวว่า พ่อของเธอพูดถึงภัยคุกคาม หรือการถูกตรวจสอบกับครอบครัวแค่เพียงเล็กน้อย
“เขาบอกแก่พวกเราว่า เขากำลังถูกจับตามองโดยใครบางคน แต่เราไม่รู้ว่าใคร” ยิน เน ขิ่น กล่าว
เอ ลา เจ้าหน้าที่ฝ่ายกิจการความมั่นคงทางทหารในเมืองโบตะต่อง พื้นที่ของนครย่างกุ้งที่โก นี อาศัยอยู่ กล่าวต่อรอยเตอร์ว่า เขาได้รับมอบหมายให้จับตาดูโก นี ที่เป็นการตรวจตราดูแลบุคคลท้องถิ่นมีชื่อเสียงตามปกติ ฝ่ายเจ้าหน้าที่ที่สำนักงานข่าวของกระทรวงกลาโหมปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบประชากรมีอย่างแพร่หลายในช่วงการปกครองของทหารในพม่า และหน่วยข่าวกรองภายในประเทศก็ไม่ได้ถูกยกเลิกลงไปแต่อย่างใด
“เรารายงานไปยังเบื้องบนเกี่ยวกับกิจกรรมของโก นี เช่น การประชุมนัดหมาย ที่ที่เขาไป และสิ่งที่เขาทำ” เอ ลา กล่าว
เมียว วิน ผู้ก่อตั้งมูลนิธิสไมล์ เอ็ดดูเคชั่น ที่ทำงานกับโก นี ในการส่งเสริมการยอมรับความต่างทางศาสนา กล่าวว่า การตรวจสอบแบบนี้เคยเกิดขึ้นเมื่อครั้งที่ โก นี เดินทางออกนอกย่างกุ้ง เมียว วิน อ้างถึงการเดินทางไปยังเมืองลาเฉียว ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ในเดือน ต.ค. ซึ่งในช่วงนั้นเจ้าหน้าที่ข่าวกรองได้เดินทางไปยังโรงแรมที่โก นี เข้าพัก
แต่ โก นี ดูเหมือนไม่สนใจเกี่ยวกับการถูกติดตาม และความปลอดภัยของตัวเอง เมียว วิน กล่าว
“เขายังคงนั่งแท็กซี่ไปทุกที่ พรรค NLD ควรมีการรักษาความปลอดภัยบางอย่างแก่คนสำคัญของพวกเขา” เมียว วิน กล่าว.