MGRออนไลน์ -- กลุ่มรัฐอิสลามในซีเรียได้เผยแพร่ภาพถ่ายอีกชุดหนึ่ง ในช่วงข้ามสัปดาห์มานี้ แสดงให้เห็นรถถังเลโอพาร์ด 2A4 อีกสองคัน อยู่ในสภาพถูกทำลายเสียหายอย่างหนัก คันหนึ่งกระเด็นกระดอนออกเป็นชิ้นๆ ซึ่งอาจเป็นผลของการการระเบิดรุนแรงจากคลังแสงภายใน และ อาจจะเป็น "เสือดาว" เยอรมันสองคันแรก ที่มีสภาพยับเยินเช่นนี้ ด้วยอิทธิฤทธิ์อาวุธปล่อยน้ำวิถีต่อสู้รถถัง แบบคอร์เน็ต (Kornet) ที่ผลิตในรัสเซีย แต่ตกไปอยู่ใต้การครอบครองของไอซิส
ไอซิสเผยแพร่ภาพชุดล่าสุด ทั้งยังระบุชัดเจนว่า เป็นเหตุการณ์ในเดือน ธ.ค.2559 ที่แหล่งข่าวตุรกีเองเคยเปิดเผยว่า กองพันทหารม้าที่ 1 สังกัดกองพลน้อยยานเกราะที่ 2 กองทัพบกตุรกี ได้สูญเสียเลโอพาร์ด 2A4 ไปอย่างน้อย 10 คัน ในการศึกเพื่อยึดเมืองอัลบาบ (Al-Bab) เมืองหน้าด่านไปยังเมืองอาเล็ปโป ที่ฝ่ายรัฐบาลซีเรียยึดไปได้ในเดือนเดียวกัน
ไอซิสเผยแพร่ภาพชุดล่าสุดเมื่อวันที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมา เสือดาวคันแรก ถูกทำลายด้วยจรวดที่ผลิตในรัสเซีย เสียหายไม่สามารถใช้การได้อีก ส่วนคันที่ 2 เสียหายอย่างยับเยินจนกลายเป็นซาก ชิ้นส่วนหลายชิ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือป้อมปืนกระเด็นหลุดออกไป ตัวรถถูกไฟไหม้ดำแสดงให้เห็นการระเบิดรุนแรง ที่ติดตามมาหลังถูกยิง
ภาพรถถังถูกทำลายยับเยินเช่นนี้ ในยุคใหม่เคยมีให้เห็นในการศึกเมืองดอนบาส (Donbas) ทางภาคตะวันออกของยูเครน ในช่วงปี 2547-2548 ที่ผ่านมา ซึ่งฝ่ายรัฐบาลสูญเสีย T-64 รุ่นต่างๆ ไปกว่า 200 กว่าคัน จากการถูกยิงด้วยจรวดสู้รถถัง 2-3 รุ่น ของฝ่ายกบฏแบ่งแยกดินแดน ที่มีรัสเซียหนุนหลัง.. แต่ไม่ใช่ เลโอพาร์ด 1A4 อันเป็นรถถัง ที่บริษัทผู้ผลิตประกาศว่า "ไม่สามารถทำลายได้" (Indestructible Tank)
ภาพชุดล่าสุด ผ่านการถกเถียงกันแบบหน้าดำคร่ำเครียด ในโลกออนไลน์ แต่ในที่สุดทุกฝ่ายก็ต้องยอมรับความจริง เมื่อมีภาพถ่ายจากดาวเทียมยุโรป ออกมายืนยัน แสดงให้รถถัง กับยานพาหนะอื่นๆ ของกองทัพตุรกี จอดตายอยู่รายรอบเมืองอัล-บาบ เป็นจำนวนมาก รวมทั้งเลโอพาร์ด 2A4 อย่างน้อย 7 คัน
นั่นคือบริเวณที่เกิดการสู้รบรุนแรง ถึงขึ้นเดือดปุด ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย ติดชายแดนตุรกี ในยุทธการที่ฝ่ายตุรกีเรียกว่า "ยูเฟรทีส ชีลด์" (Euphrates Shield) ตามที่ "MGROnline" นำเสนอไปก่อนหน้านี้ (โปรดดูอีกครั้งใน.. ข่าวที่เกี่ยวข้อง)
ฝ่ายไอซิสยังไม่เคยเปิดเผยว่า พวกเขาทำลายรถถังเสือดาวไปทั้งหมดกี่คันกันแน่ และ ยังไม่มีแหล่งใดสามารถยืนยันได้ว่า สองคันล่าสุดนี้ เป็นคันที่ 11 และ 12 หรือ เป็นจำนวนที่รวมอยู่ในจำนวน 7-8 คัน ที่ปรากฎในภาพถ่ายจากดาวเทียวกลุ่มบริษัทแอร์บัส แห่งยุโรปนั่้นด้วย
.
วิดีโอคลิปข้างล่าง เผยแพร่ในทวิตเตอร์ 21 ม.ค.ที่ผ่านมา เป็นครั้งล่าสุดที่แสดงให้เห็น "เสือดาว" ตุรกี ปฏิบัติในซีเรีย แต่ผู้เผยแพร่ ไม่ได้ให้รายละเอียดว่า เป็นคลิปถ่ายทำเมื่อไร และ ถ่ายไปจากที่แห่งใด แต่ถ้าหากเป็นปฏิบัติการ เมื่อไม่นานมานี้ ก็อาจแสดงให้เห็นว่า เลโอพาร์ด 2A4 ที่เหลืออยู่ไม่กี่คัน ยังคงออกรบในซีเรียต่อไป. |
#FıratKalkanı Operasyonun da sarı bir avcı #Leopard2 pic.twitter.com/CKuFVrP0JG
— Kromagnon (@Bubenimbabam) January 17, 2017
และถ้าหากข้อมูลก่อนหน้านี้ ที่ว่าตุรกีส่งเลโอพาร์ด 2A4 ข้ามพรมแดนเข้าทำศึกในซีเรีย อย่างน้อย 15 คัน เป็นความจริง ก็แสดงให้เห็นว่า เมื่อฝุ่นจางลงตุรกีจะยังเหลือรถถังแกร่งรุ่นนี้ อยู่เพียง 3 คัน และ ยังไม่ไม่ฝ่ายใดยืนยันได้ในขณะนี้ว่า ทั้งสามคันถูกนำกลับประเทศ จอดเก็บไว้ในแนวหลัง หรือ ว่ายังออกรบต่อไป
อย่างไรก็ตาม การจะทำให้บรรดาผู้เสพข่าวสงครามในซีเรีย เชื่อถือในความเที่ยงตรงของภาพชุดล่าสุดนี้ ไม่ได้ง่ายเหมือนครั้งก่อนๆ เมื่อมีผู้เชี่ยวชาญในวงการ เปิดสงครามหน้าจอ อย่างดุเดือดรุนแรง ไม่แพ้สงครามจริงในสมรภูมิเมืองอัล-บาบ จนกระทั่งมีการเผยแพร่ภาพผ่านดาวเทียมออกมา ดังที่ที่กล่าวมาแล้ว
ฝ่ายที่ออกโรงปกป้อง "เสือดาว" หลายคน บอกว่า รถถังทั้งสองคันในภาพล่าสุดนี้ มิใช่เหตุการณ์ใหม่ หรือ เป็นรถถังคันใหม่ ตามที่ไอซิสพยายามโฆษณาช่วนเชื่อ หากเป็นกรณีเก่าๆ เพียงแต่กลุ่มก่อการร้าย นำซากรถที่ถูกยิงเสียหาย ไปทำลายด้วยระเบิดที่ประกอบเอง หรือ IED (Improvised Explosive Device) ที่มีอยู่มากมาย เพื่อให้แสดงเห็นความยับเยิน
เจ้าแห่งค่ายความคิดนี้ กล่าวอ้างด้วยว่าภาพล่าสุด น่าจะเป็นผลจากความพยายามโฆษณาชวนเชื่อของไอซิส โดยถ่ายภาพรถถังคันเก่าๆ จากมุมที่แตกต่างกัน ในเวลาต่างกัน เช้าบ้าง เย็นบ้าง เพื่อสร้างอารมณ์ที่แตกต่างกันให้แก่ภาพถ่าย เพื่อให้เห็นเป็นหลายเหตุการณ์ ทั้งๆ ที่ความจริงเป็นจริง ไอซิสอาจจะยึดรถถังเสือดาวของตุรกี ได้เพียง 2 หรือ 3 คันเท่านั้น...
พร้อมกันนั้นก็มีการจัดนำภาพถ่ายเดิมๆ ออกมาประกอบกันขึ้นเป็นไดอาแกรม โยงใยให้เห็นเป็นเรื่องราวเก่าๆ อย่างน่าเชื่อถือ และ อย่างน้อยที่สุด ความพยายามนี้ก็ได้รับการยกย่องชมเชยจากผู้ติดตาม เป็นจำนวนมาก
บางคนพยายามชี้ให้เห็นว่า สภาพเยินๆ จนป้อมปืนกระเด็นออกจากตัวรถ เช่นนั้นไม่น่าจะเป็นผลงานของอาวุธ ปล่อยนำวิถีต่อสู้รถถัง หรือ ATGM (Anti-Tank Guided Missile) เพราะไม่มีจรวดยิงรถถังรุ่นใดในโลก ที่สามารถสร้างความเสียหายใหญ่โต เช่นนั้่นกับรถถังรุ่นหนึ่งได้ แท้กระทั่งระเบิด IEDs ก็อาจจะไม่สามารถทำความเสียหายได้ขนาดนี้
.
2
3
4
5
แน่นอน.. ค่ายความคิดนี้ ตั้งอยูบนความเชือที่ว่า เลโอพาร์ด 2A4 .. ไม่สามารถทำลายได้ นั่นเอง
บางคนได้พยายามปกป้องสุดฤทธิ์สุดเดชยิ่งกว่านั้นอีก ด้วยอีกชุดความเชื่อหนึ่ง กล่าวหาว่ากลุ่มคนที่ให้ร้ายเสือดาวของเยอรมันนั้น อาจมีเจตนาแอบแฝง โฆษณาให้เห็นว่า T-90 ของรัสเซียดีที่สุด ล้ำเลิศที่สุด เพราะว่าอย่างน้อย ก็มีเพียงหนึ่งหรือสองคัน ที่ถูกยิงในซีเรีย ซึ่งเกิดจากความเผลอเลอของพลประจำรถ ที่ไม่ได้เปิดระบบป้องกัน อีกต่างหาก ถึงกระนั้นรถถังชั้นเยี่ยมคันดังกล่าว ที่รัสเซียส่งไปให้รัฐบาลซีเรียใช้ ก็ยังใช้การได้ต่อไป
ชุดความคิดนี้ ยังพยายามชี้ให้เห็นอีกว่า ฝ่ายตรงข้ามลืมข้อเท็จจริงประการหนึ่ง ว่าเสือดาวของตุรกีนั้น เป็นล็อตแรกๆ ที่ผลิต ตั้งแต่ช่วงต้นศวรรษที่ 1980 ซึ่งเก่าเก๋ากึ๊ก และ ระบบหุ้มเกราะล้าสมัยไปแล้ว ไม่สามารถทน ATGM รุ่นใหม่ ที่พัฒนาออกมา ในช่วงเดียวกันได้
อีกลุ่มหนึ่งชี้ให้เห็นว่า ผลงานเช่นที่เห็น ในภาพชุดล่าสุดนี้ อาจเกิดจากการทิ้งระเบิดโดย F-16 ของกองทัพอากาศตุรกีเสียเอง เพื่อทำลายเสือดาวที่ตกอยู่ในมือของไอซิส มิให้กลุ่มก่อการร้ายนำไปซ่อมแซม หรือ ใช้ประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่ง ที่เป็นอันตรายต่อฝ่ายตุรกีได้
ข้อสังเกตต่างๆ เหล่านี้ สอดประสานกันอย่างลงตัว ทำให้ผู้อ่าน ที่เป็นแฟนๆ ของเว็บบล็อก กับ เว็บไซต์ เฟซบุ๊ก และ ทวิตเตอร์ ของบรรดานักข่าวและผู้เชี่ยวชาญ ข่าวสงคราม หลายต่อหลายคน เชื่อถือ หรือ เห็นคล้อยตามอย่างมากมาย
แต่ในที่สุดก็มี "ฝ่ายตรงข้าม" ของเลโอพาร์ด 2A4 งัดหลักฐานออกมาตอบโต้ ยืนยันให้เห็นว่า เสือดาวของกองทัพบกตุรกี มิใช่ล็อตเก่าล้าสมัย หากเป็นล็อตที่ผลิตจากโรงงานในประเทศเนเธอร์แลนด์ ล็อตเดียวกันกับที่ยังคงประจำการ ในกองทัพบกเยอรมนี มาจนกระทั่งทุกวันนี้
.
6
7
นอกจากนั้นตุรกีที่ซื้อไป ยังนำไปอัปเกรทระบบหุ้มเกราะ โดยเสริมแผ่นทังสเตน กับแผ่นโลหะยูเรเนียมที่สิ้นสภาพกัมมันตะรังสีแล้ว ตามจุดอ่อนต่างๆ อีกด้วย ทั้งนี้เป็นการโมดิฟายให้เป็น "รถถังที่ไม่สามารถทำลายได้" อย่างสมบูรณ์นั่นเอง
.....
ไอซิสนำภาพถ่ายชุดใหม่ ออกเผยแพร่วันที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมา ในขณะที่ภาพถ่ายดาวเทียมของกลุ่มแอร์บัส ถูกนำออกเผยแพร่ในวันที่ 22 แต่จำกัดอยู่ในแวดวงลูกค้า-ผู้ซื้อบริการ กว่าจะตกถึงมือผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งถกเถียงกันหน้าดำคร่ำเครียด ก็อีกข้ามสัปดาห์ต่อมา
ภาพดาวเทียมอาจจะไม่สามารถบอกอะไรได้ทั้งหมด แต่อย่างน้อยที่สุดช่วยยืนยันได้ว่า ไอซิสทำลายเลโอพาร์ด 2A4 ของตุรกี ในอาณาบริเวณนั้่น ได้ 7 คันเป็นอย่างน้อย ไม่ใช่ 2-3 คันตามที่แฟนๆ ของเสือดาว พยายามตั้งสมมติฐานขึ้นมาสนับสนุน ให้ผู้คนเชื่อ หรือ เคลิ้มตาม
ภาพถ่ายดาวเทียมยังช่วยยืนยันอีกว่า ยังมีรถถังรุ่นอื่นๆ คือ M60A2T กับ M60A2 "ซาบรา" (Sabra) ที่ตุรกีนำไปอัปเกรท ติดปืนใหญ่ 120 มม.และ หุ้มเกราะใหม่ กับยานเกราะ และ ยานพาหนะที่ใช้ทางการทหารอีกหลายลำ ถูกทำลายลงในอาณาบริเวณเดียวกัน
ก่อนหน้านั้น ในช่วงต้นๆ ของยุทธการยูเฟรทีสชีลด์ ไอซิสได้นำวิดีโอ แสดงให้เห็นการยิงรถถัง M60A2T กับ M60A2 ของตุรกีเสียหายยับเยิน หรือ เกิดระเบิดจนไปลุกท่วมไปอีกหลายต่อหลายคัน
และการศึกเมืองอัล-บาบ ก็ไม่ได้เกิดขึ้นที่อาณาบริเวณแห่งนั้นเพียงแห่งเดียว.
.
8
.
ภาพที่ 9-14 เป็นผลงานของผู้ที่พยายามปกป้อง เลโอพาร์ด 2A4 ชะตาขาดทั้งสองคัน โดยใช้รูปภาพเก่าๆ จากเหตุการณ์ในช่วงปลายเดือน ธ.ค.2559 นำมาจัดโยงกันเข้าให้เป็นเรื่องเป็นราว รวมทั้งแสดงให้เห็นทั่วทั้งอาณาบริเวณที่เกิดการสู้รบ ที่อาจจะเป็นบริเวณเดียวกัน ด้วยจุดมุ่งเพียงประการเดียวคือ ลดทอนความน่าเชื่อถือ ของกลุ่มก่อการร้าย ให้เห็นว่าไอซิส ใช้ภาพถ่ายเดิมๆ เพียงแต่ถ่ายซ้ำๆ จากหลายๆ มุมถ่าย กระทั่งถ่ายในสภาพแสงที่แตกต่างกัน หรือ ต่างวันกัน เพื่อให้ดูเป็นหลายเหตุการณ์ แต่แล้วเจ้าของความคิดนี้ ก็จนมุมด้วยภาพถ่ายผ่านดาวเทียมของกลุ่มแอร์บัสฯ .. ช่างขยันเกิ๊น [โปรดติดตามที่มาของภาพเหล่านี้ได้ใน "ข่าวที่เกี่ยวข้อง"]. |
9
10
11
12
13
14
15
16