เอเอฟพี - ทนายความชาวมุสลิมชื่อดังที่ถูกสังหารอย่างอุกอาจนอกสนามบินย่างกุ้งเป็นเป้าโจมตีอย่างจงใจ พรรครัฐบาลพม่าระบุ และอธิบายว่าการลอบสังหารครั้งนี้เป็นการก่อการร้ายต่อนโยบายของพรรค
โก นี ที่ปรึกษาด้านกฎหมายของพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) ที่แสดงความเห็นต่อต้านการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายที่ขยายตัวขึ้นในประเทศ ถูกมือปืนจ่อยิงที่ศีรษะขณะรอรถนอกสนามบิน พร้อมกับอุ้มหลานชายเมื่อบ่ายวันอาทิตย์ (29) พร้อมกันนั้น คนขับรถแท็กซี่ที่พยายามจะเข้าสกัดมือปืนยังถูกยิงเสียชีวิตอีก 1 ราย ในเหตุการณ์ที่สร้างความตกตะลึงให้แก่ทั้งประเทศ
ผู้โจมตีที่ไม่ระบุชื่อ ถูกจับกุมตัวได้ในเวลาต่อมาในบริเวณที่เกิดเหตุ และถูกสอบปากคำโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ทางการยังคงไม่เผยถึงแรงจูงใจของผู้ก่อเหตุ
ในคำแถลงฉบับหนึ่งที่ออกเผยแพร่เมื่อค่ำวันอาทิตย์ (29) พรรค NLD ระบุว่า โก นี เป็นผู้ช่วยคนสำคัญของนางอองซานซูจี ที่ไม่มีใครมาแทนที่ได้
“เราขอประณามการลอบสังหารโก นี การกระทำเช่นนี้เป็นดั่งการก่อการร้ายต่อนโยบายของพรรค NLD” คำแถลงระบุ
โก นี อายุ 63 ปี เป็นสมาชิกเก่าแก่ของพรรค และด้วยการเป็นสมาชิกพรรคที่เป็นชาวมุสลิม โก นี ได้แสดงความเห็นเรียกร้องให้สนับสนุนการยอมรับความต่างทางศาสนาและพหุนิยม และวิพากษ์วิจารณ์อิทธิพลทางการเมืองของกองทัพ
บุตรสาวของโก นี กล่าวว่า เธอพาลูกชายไปรับพ่อที่สนามบิน และให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า พ่อของเธอน่าจะมีศัตรู เนื่องจากเขาเป็นตัวแทนชาวมุสลิมที่มีชื่อเสียงในประเทศที่ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวพุทธ
“เพราะเรามาจากต่างศาสนา คงมีหลายคนที่ไม่ชอบ และรู้สึกเกลียด ฉันคิดว่าสิ่งนี้อาจเป็นสาเหตุของการสังหาร” ยิน เน ข่าย ลูกสาวของโก นี กล่าวต่อสถานีโทรทัศน์ DVB นอกโรงพยาบาลที่รับศพของโก นี
แม้พื้นที่ชายแดนของพม่าจะเกิดเหตุไม่สงบของชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์มานานหลายสิบปี แต่การสังหารบุคคลทางการเมืองที่มีชื่อเสียงเป็นสิ่งที่เกิดได้ยากในนครย่างกุ้ง แต่อย่างไรก็ตาม ในช่วงหลายปีมานี้ ความรู้สึกต่อต้านชาวมุสลิมขยายตัวขึ้นมากในประเทศ ที่ถูกโหมกระพือโดยกลุ่มชาวพุทธชาตินิยมหัวรุนแรง และชาวมุสลิมในประเทศมีสัดส่วนเพียงร้อยละ 5 ของประชากรทั้งหมด
ด้านนางอองซานซูจี เองก็เผชิญต่อการวิจารณ์อย่างรุนแรงจากต่างชาติถึงความล้มเหลวที่จะวิพากษ์วิจารณ์การปราบปรามของทหารต่อชนกลุ่มน้อยมุสลิมโรฮิงญาในรัฐยะไข่
นับตั้งแต่ทหารดำเนินการปราบปรามในเดือน ต.ค. มีชาวโรฮิงญาอย่างน้อย 66,000 คน ได้หลบหนีเข้าไปในฝั่งบังกลาเทศ พร้อมกับกล่าวหาว่า กองกำลังรักษาความมั่นคงก่อเหตุข่มขืน ทรมาน และสังหารหมู่ ซึ่งซูจี และทหารได้กล่าวปฏิเสธข้อกล่าวหาการล่วงละเมิดเหล่านั้น
โก นี เพิ่งเดินทางกลับจากการเยือนอินโดนีเซียพร้อมคณะผู้แทนของรัฐบาล ในการหารือถึงความตึงเครียดที่เกิดขึ้นในรัฐยะไข่ และยังได้พบกับยางฮี ลี ผู้แทนพิเศษด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติเมื่อช่วงต้นเดือน
องค์การนิรโทษกรรมสากลยังระบุว่า โก นี เป็นนักรณรงค์สิทธิมนุษยชนที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย และว่าการตายของโก นี เป็นความสูญเสียเสียงสำคัญในการต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนในพม่า
ชารล์ส ซานติอาโก ประธานกลุ่มสมาชิกรัฐสภาอาเซียนเพื่อสิทธิมนุษยชน กล่าวว่า เสียงสนับสนุนของโก นี ต่อสิทธิชนกลุ่มน้อยเป็นแรงบันดาลใจให้แก่ทุกคนที่ต่อสู้กับความเกลียดชัง ความคลั่งศาสนา และการข่มเหงรังแก
คาดว่าบรรดาญาติ และผู้สนับสนุนจะรวมตัวกันที่นครย่างกุ้งในวันนี้ (30) เพื่อร่วมงานศพของโก นี.
.
.
.