MGRออนไลน์ -- รัฐบาลลาวได้ประกาศมาตรการเพื่อตรวจสอบ และ แก้ปัญหารถลักลอบนำเข้าผิดกฎหมายจากประเทศเพื่อนบ้าน ที่พบว่าในขณะนี้มีอยู่กว่า 5,600 คันในแขวงต่างๆ ทั่วประเทศ รวมทั้งให้ตรวจสอบ-ลงโทษเจ้าหน้าที่รัฐ ผู้อนุญาตให้นำเข้า ทางการจะเปิดโอกาสให้เจ้าของรถ แสดงเอกสารและชี้แจงที่มาที่ไปของยานพาหนะทั้งหมด เพื่อเสียภาษีให้ถูกต้อง แต่หากชี้แจงไม่ได้ ให้กระทรวงการเงิน ดำเนินการยึดเป็นของรัฐทันที
นอกจากนั้น ยังพบอีกว่ามีรถยนต์อีกเกือบ 2,000 คัน ที่นำเข้าจากต้นทางไม่มีการเปิดเผย เพื่อส่งออกไปยังประเทศที่สาม ทั้งหมดตกค้างอยู่ที่คลังสินค้าทัณฑ์บน สะพานมิตรภาพ 1 เวียงจันน์-หนองคาย โดยรัฐบาลมอบให้กระทรวงการเงิน เร่งตรวจสอบ หากชี้แจงไม่ได้ หรือ เกินกำหนดเวลา และ ยังไม่ส่งออก ให้ยึดเป็นของรัฐเช่นกัน
มาตรการดังกล่าว เป็นมติของที่ประชุมรัฐบาล ประจำเดือน ม.ค.2560 ที่จัดขึ้น ระหว่างวันที่ 23-25 โดยนายทองลุน สีสุลิด นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน สำนักข่าวของทางการรายงาน
ที่ประชุมได้ระดมความเห็น พิจารณาหาทางแก้ไขปัญหารถผิดกฎหมาย นำเข้าไม่ถูกต้อง ที่พบแล้วทั้งหมด 5,639 คัน ทั่วประเทศในขณะนี้ โดยถือเป็นปัญหาระดับชาติ และ เป็นปัญหาเร่งด่วน ที่ประชุมมอบให้กระทรวงการเงิน จัดตั้งคณะกรรมการพิเศษขึ้นมา 2 ชุด เพื่อ ลงตรวจตราตรวจสอบชุดหนึ่ง กับอีกชุดหนึ่งดำเนินการ ด้านภาษีและเก็บยึด ถ้าหากตรวจพบการนำเข้าผิดกฎหมายอย่างโจ่งแจ้ง สามารถยึดเป็นสมบัติของรัฐได้ทันที่
สำหรับรถที่นำเข้าโดยการปลอมแปลงเอกสาร ให้ยึดเป็นของรัฐ "และ ดำเนินมาตรการต่อผู้กระทำผิด ตามระเบียบกฎหมายอย่างเข้มงวด ถ้าหากบริษัทใด (หรือบุคคลใด) กระทำความผิด ให้เพิกถอนใบอนุญาตประกอบการ ได้ทันที" สำนักข่าวสารปะเทดลาวรายงาน
รัฐบาลยังได้มีมติ ใช้มาตรการอีกจำนวนหนึ่ง สำหรับรถที่ทางการแขวงต่างๆ ได้ยึดและขึ้นบัญชี ตีราคาแล้ว ก่อนวันที่ 31 ธ.ค.2558 รวมทั้งรถที่แจ้งในบัญชี หลังวันที่ 31 ธ.ค.2558 ให้ปฏิบัติตาม ระเบียบการกำหนดราคากลางของกระทรวงการเงิน และ ปฏิบัติการซื้อขายอย่างถูกต้อง ปฏิบัติระเบียบการเสียภาษีให้ถูกต้อง
"ถ้าหากเจ้าของพาหนะไม่ยินยอม (เสียภาษี) ให้ดำเนินการริบมาเป็นของรัฐ ตามกฎหมาย" ขปล.รายงาน
.
2
3
นอกจากนั้่นยังมีรถนำเข้า เพื่อส่งไปยังประเทศที่สาม อีกจำนวน 1,947 คัน ตกค้างอยู่ที่ คลังสินค้าทัณฑ์บน ด่านสะพานมิตรภาพ 1 ในนั้นมีรภนำเข้าเกินกำหนดเวลา 4 เดือนแล้ว จำนวน 435 คัน (ยังไม่ดำเนินการส่งออก) ให้กระทรวงการเงิน เรียกบริษัทที่เกี่ยวข้องไปตักเตือน หากไม่สามารถปฏิบัติได้ให้ยึดเป็นของรัฐ
ส่วนรถจำนวนที่เหลือ หากไม่ส่งออกตามกำหนดเวลา และ เมื่อครบ 4 เดือนแล้ว ให้ปฏิบัติเช่นเดียวกันกับกรณีแรก คือ ยึดเป็นของรัฐ สื่อของทางการรายงานเรื่องนี้ โดยไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับที่มาที่ไปของรถเหล่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เป็นรถประเภทใดบ้าง นำเข้าจากต้นทางใด และ จะส่งไปยังประเทศใด
อย่างไรก็ตาม มติของคณะรัฐมนตรี ยังมอบให้กระทรวงโยธาธิการและขนส่ง กระทรวงป้องกันประเทศ และ กระทรวงป้องกันความสงบ เข้าตรวจสอบ จุดประสงค์การนำเข้ารถ เพื่อส่งไปยังประเทศที่สาม รวมทั้งประเทศเป้าหมาย และ ให้ตรวจสอบการออกป้ายทะเบียนรถ ที่ไม่ถูกต้องในระยะที่ผ่านมา และ รายงานต่อรัฐบาล
คณะรัฐมนตรียังมีมติให้กระทรวงกับหน่วยงานต่างๆ เคร่งครัดดำเนินการตามกฎหมาย ต่อบริษัทที่กระผิดกฎหมายเกี่ยวกับ แผ่นป้ายทะเบียนรถ และ ลงโทษทางวินัยอย่างเด็ดขาด ต่อเจ้าหน้าที่ของวรัฐ ที่สมรู้ร่วมคิด ในการนำเข้ารถไม่ถูกต้อง ตามระเบียบกฎหมาย ขปล.กล่าว
มติ ครม.ล่าสุดนี้ เมื่อเผยแพร่ผ่านสื่อออนไลน์ต่างๆ ได้รับความสนใจ จากผู้อ่านเป็นจำนวนมาก ชาวลาวหลายร้อยคนเข้าไปแสดงความคิดเห็น สนับสนุนมาตรการของรัฐบาล ที่ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ยกย่องชมเชยการตัดสินใจของการนำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนายกรัฐมนตรี โดยมองว่าเรืองนี้เป็นการแก้ไขความไม่ยุติธรรมในสังคม อีกขึ้นตอนหนึ่ง
ผู้อ่านหลายรายแสดงความเห็นว่า ในบรรดารถที่ลักลอบนำเข้าผิดกฎหมายนั้น นำเข้าผ่านแขวงสะหวันนะเขต (มุกดาหาร) กับแขวงคำม่วน (นครพนม) มากที่สุด และ หากตรวจสอบมากกว่านี้ ก็จะพบมากกว่า 5-6 พันคันอย่างแน่แท้.