xs
xsm
sm
md
lg

ทหารพม่าจับแกนนำชาวคริสต์อ้างเป็นสายให้กลุ่มก่อความไม่สงบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

<br><FONT color=#000033>ภาพถ่ายจากกลุ่มความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมของรัฐกะฉิ่น เผยให้เห็นผู้คนจำนวนมากอพยพหลบหนีการต่อสู้ระหว่างทหารพม่าและกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์มาถึงแม่น้ำที่เป็นพรมแดนกั้นระหว่างพม่าและจีน โดยมีทหารจีนเฝ้ารักษาความปลอดภัย และในความขัดแย้งที่เกิดขึ้นระหว่างทหารพม่าและกลุ่มติดอาวุธชนกลุ่มน้อย ทหารยังได้จับกุมตัวแกนนำทางศาสนาด้วยอ้างว่าเป็นสายลับสอดแนมข่าวให้กับกลุ่มก่อความไม่สงบ. -- Agence France-Presse/Joint Strategy Team.</font></b>

เอเอฟพี - กองทัพพม่าควบคุมตัวแกนนำชาวกะฉิ่นแบ๊บติสต์ 2 คน จากการให้ข้อมูลแก่นักข่าวเกี่ยวกับโบสถ์ที่อ้างว่าถูกทหารโจมตีทางอากาศ โดยระบุว่า ทั้งคู่เป็นสายให้แก่ผู้ก่อความไม่สงบ

แกนนำทั้ง 2 คน ที่กองทัพระบุว่า ชื่อ ดีดี หม่อง ลัต และ ลานจอ แกมสาย ถูกจับกุมตัวเมื่อวันที่ 24 ธ.ค. ในรัฐชาน พื้นที่ที่ประชาชนหลายพันคนหลบหนีการต่อสู้รุนแรงระหว่างกองทัพ และกลุ่มติดอาวุธที่ดำเนินมาเป็นเวลาหลายสัปดาห์

ในคำแถลงที่ประกาศถึงการจับกุมที่ออกเมื่อค่ำวันพฤหัสฯ (19) สำนักงานผู้บัญชาการกองทัพบก กล่าวหาชายทั้ง 2 คนว่า เป็นผู้เกณฑ์กำลังพล คนแจ้งข่าว และคนปล่อยข่าวลือให้แก่กลุ่มก่อความไม่สงบ รวมทั้งกองทัพกะฉิ่นอิสระ (KIA)

ประชาชนราว 4,000 คน ต้องอพยพออกจากที่อยู่อาศัยนับตั้งแต่การสู้รบระหว่างกองทัพพม่า และกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ 4 กลุ่ม ซึ่งรวมทั้ง KIA ปะทุขึ้นในเดือน พ.ย.

เหตุไม่สงบเกิดขึ้นเป็นระลอกทั่วรัฐชาน และรัฐกะฉิ่น คุกคามการเจรจาสันติภาพรอบถัดไประหว่างรัฐบาล ทหาร และกลุ่มชาติพันธุ์ ที่มีกำหนดจัดขึ้นในเดือน ก.พ.นี้

การจับกุมตัวแกนนำทางศาสนา 2 คน (ในรัฐกะฉิ่นมีชุมชนผู้นับถือศาสนาคริสต์ขนาดใหญ่) ได้ก่อให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิในพื้นที่ ด้วยทหารพม่าเผชิญต่อข้อกล่าวหามายาวนานเกี่ยวกับการสังหาร การทรมาน การข่มขืน และการบังคับใช้แรงงาน

กลุ่มสิทธิมนุษยชนกล่าวว่า แกนนำศาสนาทั้ง 2 คน ถูกควบคุมตัวจากการแสดงความเสียหายของโบสถ์ต่อช่างภาพ และกลุ่มเฝ้าระวังสิทธิมนุษยชน 2 กลุ่ม คือ ฮิวแมนไรท์วอช และฟอร์ติฟายไรท์ ระบุในสัปดาห์นี้ว่า การหายตัวไปเพิ่มความวิตกถึงความปลอดภัยของชายทั้ง 2 คน และพยานที่เห็นเหตุการณ์

สำหรับการเยือนพม่าของยางฮี ลี ผู้แทนพิเศษด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ ที่ปฏิบัติภารกิจตรวจสอบความรุนแรงและปัญหาสิทธิมนุษยชนเป็นเวลา 12 วัน ที่สิ้นสุดลงในวันนี้ (20) ไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลในการเข้าถึงพื้นที่บางส่วนที่เกิดเหตุรุนแรงในรัฐชาน และรัฐกะฉิ่น.
กำลังโหลดความคิดเห็น