พม่าคุมเข้มห้ามนำเข้ารถมือสอง ดันยอดขายรถผลิตในประเทศ

เอเอฟพี - พม่าเริ่มจำกัดการนำเข้ารถยนต์มือสองที่ขับขี่ด้วยพวงมาลัยขวา ในความพยายามที่จะกระตุ้นการผลิตในท้องถิ่น ดึงดูดการลงทุนต่างชาติ และสลายพฤติกรรมการขับขี่ที่สับสนวุ่นวายให้หมดไปจากประเทศ

รถยนต์บนท้องถนนของพม่าเกือบทั้งหมดนั้นเป็นรถยนต์มือสอง โดย 90% มาจากญี่ปุ่น แม้ทั้งสองประเทศจะขับรถบนถนนคนละฝั่งกันก็ตาม

การนำเข้ารถยนต์มือสองเพิ่มสูงขึ้นนับตั้งแต่รัฐบาลคลายข้อจำกัดในปี 2555 หนึ่งปีหลังรัฐบาลเผด็จการทหารยุติการปกครองประเทศ แต่จนกระทั่งเมื่อไม่นานนี้ มาตรการคว่ำบาตรทางการค้าของชาติตะวันตกขัดขวางการนำเข้ารถยนต์ที่ขับด้วยพวงมาลัยซ้ายจากยุโรป และสหรัฐฯ เป็นผลให้ผู้ขับขี่ยวดยานหันไปหายานพาหนะของญี่ปุ่น

ด้วยเหตุนี้ทำให้ผู้ขับขี่ที่บีบแตรอยู่ตลอดเวลา ต้องเบี่ยงรถออกไปกลางเลนเพื่อดูว่าปลอดภัยพอที่จะแซงหรือไม่ และรถโดยสารที่ปล่อยผู้โดยสารลงจากรถไปยังกลางถนนที่แสนวุ่นวายเหตุเพราะประตู และริมถนนอยู่คนละด้าน

แต่สิ่งเหล่านี้กำลังจะเปลี่ยนแปลงไปหลังรัฐบาลห้ามนำเข้ารถยนต์พวงมาลัยขวาตั้งแต่เดือนนี้ ในความเคลื่อนไหวที่มีเป้าหมายจะกระตุ้นการผลิตในท้องถิ่น และดึงดูดการลงทุนต่างชาติ ซึ่งเป็นความสำคัญสูงสุดสำหรับรัฐบาลชุดใหม่ของพม่า

ผู้ผลิตรถยนต์ต่างชาติในเวลานี้ต่างจับจ้องมายังตลาดที่ยังไม่เคยถูกแตะต้องของผู้บริโภคราว 55 ล้านคน ในฐานะเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพในช่วงเวลาที่ยอดขายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไม่สดใส

ยูทากะ ซานาดะ รองประธานอาวุโสส่วนภูมิภาคของบริษัทนิสสัน ระบุว่า มีชาวพม่าแค่ 7 คนในทุกๆ 1,000 คน เท่านั้นที่มีรถ เมื่อเทียบกับไทยมีถึง 200 คน

“ในแง่ของโอกาส พม่านั้นมีโอกาสมากกว่าเพื่อนบ้านในกลุ่มอาเซียน” นายซานาดะ กล่าว ที่งานเปิดตัวรถของนิสสันที่ผลิตขึ้นในพม่าเป็นครั้งแรก

ผู้อำนวยการอาวุโสของบริษัท Tan Chong Group หุ้นส่วนของนิสสัน คาดการณ์ว่า ยอดขายต่อปีจะขยายตัวที่ 5-10% ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

“หากมองที่ตลาดพม่าในตอนนี้ 95% เป็นรถมือสอง และประเทศนี้ได้ตัดสินใจว่าต้องการที่จะเปิดตลาดเสรี” ผู้อำนวยการอาวุโสของบริษัท Tan Chong Group กล่าว

พม่าเป็นตลาดสำคัญสำหรับการส่งออกรถมือสองของญี่ปุ่นในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ตามการระบุขององค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น

ฝ่ายนักรณรงค์ความปลอดภัย ระบุว่า การห้ามนำเข้ารถมือสองขับด้วยพวงมาลัยขวานั้นจะช่วยรักษาชีวิตผู้คน และบรรดารถเก่าจวนพังก็จะหายไปจากท้องถนน นอกจากนั้น ยังหวังว่ามาตรการใหม่นี้จะช่วยบรรเทาความแออัดของการจราจรในนครย่างกุ้ง ซึ่งเป็นเมืองที่มีรถหนาแน่นที่สุดในประเทศ

แต่คนท้องถิ่นอีกมากบ่นว่าการห้ามนำเข้ารถมือสองทำให้ราคารถมือสองพุ่งขึ้น และพวกเขาก็ไม่มีเงินมากพอที่จะซื้อรถใหม่ ซึ่งนับตั้งแต่การห้ามนำเข้ารถมือสองถูกประกาศออกมาในเดือน พ.ย. ราคารถขยับขึ้น 20-30% และอาจเพิ่มขึ้น 2 เท่าในปีนี้

“หากผมจะซื้อรถสักคัน ผมต้องการที่จะซื้อรถนำเข้าจากญี่ปุ่น อย่างโตโยต้า และนิสสัน ผมมีงบจำกัด และรถมือสองก็มีราคาถูก” เจ้าของร้านขายข้าว กล่าว.
.

.