MGRออนไลน์ -- ภาพชุดเด็กหญิงชาวลาวคนหนึ่ง จัดแจงหน่อไม้ที่เก็บจากป่า นำออกวางขายริมทาง กำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก จากประชาคมออนไลน์ของชาวลาว ซึ่งจำนวนไม่น้อยแสดงความเอ็นดู และ แบ่งปันความรู้สึกสงสารอย่างจับใจ หลายคนบอกว่าอยากจะร้องไห้ แต่ในขณะเดียวกัน อีกหลายคนบอกว่า ภาพชุดนี้ได้ทำให้เกิดมีกำลังใจสู้ชีวิตต่อไป อย่างมีความหวัง
เมื่อสืบกลับไปังต้นตอ ก็จะพบว่าภาพชุดนี้ถูกนำขึ้นแสดงในโลกออนไลน์ครั้งแรก ตั้งแต่กลางปีที่แล้ว ผู้นำขึ้นโพสต์ในเฟซบุ๊กรายหนึ่งได้ให้เครดิตภาพชุดนี้เป็นผลงานของ Kham Kham แต่กลับได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม เมื่อ "ปิ้งไก่นาป่ง" (หรือไก่ย่างนาป่ง) นำขึ้นโพสต์อีกครั้งหนึ่ง เมื่อวันที่ 5 ม.ค. และ ถูกนำไปเผยแพร่ต่อผ่านเฟซบุ๊ก และ เว็บไซต์ข่าวสารอีกหลายแห่ง เพียง 4 วันมานี้มีผู้กด ห้คะแนน แสดงความชื่นชมรวมกันร่วมหมื่นครั้ง และ มียอดแชร์กว่า 5,000 ราย
ผู้ที่ใช้นามว่า Kham Kham เป็นช่างภาพระดับโปรคนหนึ่ง เขานำผลงานภาพถ่าย ที่สวยงาม ในหลากหลายเนื้อหา เผยแพร่ในเฟซบุ๊ก และ ใน Flickr.Com สำหรับภาพที่สมบูรณ์ขนาดใหญ่ ส่วน "ปิ้งไก่นาป่ง" เป็นร้านอาหารลาวยอดนิยมแห่งหนึ่งในนครเวียงจันทน์ รวมทั้งมีสาขาในต่างแขวง
เจ้าของภาพถ่ายไม่ได้ให้รายละเอียดว่า ภาพชุดเด็กหญิงขายหน่อไม้ป่า ถ่ายตั้งแต่เมื่อไร หรือปีไหน และ จากสถานที่แห่งใด ถึงกระนั้นภาพชุดที่มีอยู่เพียงไม่กี่ภาพ ก็ยังเต็มไปด้วยคุณค่า สร้างพลังจิตใจ รวมทั้งเรียกน้ำตาจากผู้ชมได้จำนวนไม่น้อย
เด็กหญิงในภาพ น่าจะอายุระหว่าง 10-11 ปี หน้าตาคมคาย เธอรวบผมยาวมัดเอาไว้บนไหล่ข้างขวา เสื้อกับผ้าถุงเปื้อนดินโคลน ที่คลุกมากับหน่อไม้ ขณะนำออกวางขายบนพื้น เธอกำลังจัดแจง "สินค้า" ของป่าของดงให้เป็นระเบียบ และ ด้วยสีหน้าที่จริงจัง ซึ่งทำให้ผู้ชมหลายคนมองว่า เด็กหญิงคนนี้กำลังต่อสู้ชีวิตอย่างโหดร้าย และ ทำงานหนักเกินตัว เนื่องจากความยากจน ในขณะที่สินค้าที่เธอนำออกขายนั้น ไม่มีราคาค่างวดอะไรมากมาย
ผู้ชมบางคนกล่าวว่า หน่อไม้ป่าที่เรียกกันทั่วไปว่า "ตับเต่า" นี้ ซื้อขายกันริมทางในราคาเพียง 1,500 กีบ (ราว 6.50 บาท) ต่อกิโลกรัม แต่ตามตลาดในนครเวียงจันทน์ขายกันกิโลกรัมละ 15,000 กีบ หรือ 10 เท่าตัว
.
2
หลายคนมองชีวิตของเธอผ่านรูปภาพชุดนี้อย่างน่าสงสาร จนอดน้ำตาซึมไม่ได้ และ ส่งกำลังใจให้เด็กหญิงคนต่อสู้ต่อไป สักวันหนึ่งเธอจะพบแต่สิ่งดีๆ ด้วยความมุ่งมั่น ความขยัน ซื่อสัตย์และอดทน
"ສູ້ໆເດີນ້ອງມັນຕ້ອງມີສັກວັນທີ່ເປັນຂອງເຮົາ ຈົ່ງຢ່າທໍ້😍😍" ผู้อ่านที่ชื่อ Mai Vongsoutthi ที่ระบุตัวเองในเฟซบุ๊กเป็นชาวลาว ที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ ส่งกำลังใจข้ามแดน ให้แก่เด็กหญิงขายหน่อไม้ต่อสู้ต่อไป โดยบอกกับเธอว่า "มันต้องมีสักวันที่เป็นของเรา" ซึ่งมีผู้อ่านอีกนับร้อยคน ต่างแสดงความรู้สึกเช่นเดียวกัน
"ນ້ຳຕາໄຫລ ເມື່ອເຫັນພາບ, ນີ້ຍັງດີຍັງມີຫນຊ່ໄມ້ໃຫ້ຫາ ຢູ່ບາງແຫ່ງຂອງສະຫວັນນະເຂດ ຫາຂີ້ຊິຈີ່ກໍ່ບໍມີ ເພາະບ່ອນທີ່ເຄີຍເປັນປ່າອ້ອຍ ບ່ອນທີ່ເຄີຍຫາສັດປ່າ ບ່ອນທີ່ເຄີຍ ອຸດົມສົມບູນ ບ່ອນທີ່ເຄີຍຢູ່ເຢັນເປັນສຸກ ບ່ອນທີ່ໃຫ້ຊິວິດ ບ່ອນທີ່ເຄີຍຂຶ້ນຊື່ວ່າເປັນປ່າທີ່ສວຍງາມ ແມ່ນກາຍເປັນປ່າອ້ອຍ ແລະທະເລຊາຍຫມົດແລ້ວ. ໂສກເດ ເສົ້າເດ ອີດູຕົນແທ້ເດ ຊ່າງມາເຮັດກັນໄດ້ລົງຄໍ" อีกคนหนึ่งเขียนแสดงความรันทด ที่เห็นแหล่งทำมาหากินพื้นบ้าน ถูกแปลงสภาพไปเป็นผืนไร่ของ นายทุนอุตสาหกรรม
.
3
4
5
6
7
ผู้ชมหลายคนกล่าวว่า ภาพชุดนี้ทำให้ตนเองต้องนึกถึงชีวิตในวัยเด็ก ที่ต้องดิ้นรนต่อสู้เพื่อปากท้องอย่างหนักหนาสาหัส ไม่ต่างกัน ในขณะที่หลายคนมองว่าเธอคือตัวอย่างคนสู้ชีวิต แต่ในขณะเดียวกันสีหน้าของเด็กหญิง อาจจะบ่งบอกถึงความสุขใจที่ได้ต่อสู้ก็เป็นได้ และ เมื่อคิดบวกเช่นนี้ ก็ทำให้ผู้ที่กำลังตกอยู่ในสถานการณ์คล้ายๆ กันต่างมีความหวัง
อย่างไรก็ตามภาพเด็กๆ ในเขตชนบทของลาวต้องทำงานหนักเกินตัวเกินวัย เพื่อช่วยเหลือครอบครัวนั้น ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ หากสามารถพบเห็นได้ทั่วไป ภาพเด็กๆ นั่งขายหน่อไม้ ขายผักผลไม้ และ ของป่าอีกหลายชนิด เป็นภาพที่เจนตาสำหรับผู้คนที่ผ่านไปมา ระหว่างนครเวียงจันทน์กับเมืองวังเวียง ในแขวงคำม่วน สะหวันนะเขต ลงไปจนถึงแขวงจำปาสัก
เด็กวัยเรียนจำนวนหนึ่ง ไม่มีโอกาสแม้กระทั่งจะเข้าสู่ระบบโรงเรียน ในการศึกษาภาคบังคับ เนื่องจากจะต้องช่วยดูแลน้องๆ ต้องดูแลบ้าน ขณะที่พ่อแม่กับคนอื่นๆ ต้องลงทำไร่ไถนา เด็กๆ อีกจำนวนไม่น้อย ได้ออกแรงงานด้วยตัวเอง ช่วยผู้ปกครองปักดำข้าวกล้าในวันหยุด
เมื่อสืบค้นกลับไป ก็จะพบว่า รูปภาพของ Kham Kham เมื่อปีที่แล้ว ได้แสดงให้เห็นเด็กเล็กอีกหลายคน ทุ่มเทแรงงานแรงกาย เพื่อช่วยเหลือครอบครัว เช่นเดียวกันกับเด็กหญิงหน้าตามอมแมม ที่ถูกกล่าวถึงอย่างมากมายในโลกออนไลน์ ในช่วงไม่กี่วันมานี้.
.
"เด็กวัยทำงาน" (Working Children) เป็นภาพที่เห็นกันชินตา ไม่เพียงแต่ในเขตชนบทห่างไกลใน สปป.ลาวเท่านั่้น หากยังรวมถึงในประเทศเพื่อนบ้านละแวกเดียวกันอีกด้วย ในหลักการนั้นเด็กๆ วัยนี้ยังไม่สมควรทำงานหนัก หากเป็นวัยเรียนรู้และกำลังเจริญเติบโตในทุกๆด้าน ควรได้รับประทานอาหารที่ถูกสุขอนามัย ครบห้าหมู่ พักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ แต่ในโลกที่เป็นจริง เด็กเล็กจำนวนไม่น้อย ต่างไม่มีทางเลือก ความยากจนบีบบังคับให้ต้องช่วยบิดามารดา ทำมาหาเลี้ยงชีพ เลี้ยงน้อง ช่วยเหลืองานบ้าน แม้กระทั่งลงใช้แรงงานในผืนไร่ผืนนาด้วยตนเอง. |
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20