MGRออนไลน์ -- ลาว-ไทยได้ร่วมมือกัน สั่งการให้ทุกด่านและทุกจุดเข้าออกระหว่างสองประเทศ แบบ "ปิดประตูตีแมว" หลังจากกลุ่มคนร้าย ที่ผู้เห็นเหตุการณ์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ระบุตรงกันว่าเป็น "แขกขาว" ได้เข้าชิงทรัพย์ เป็นเงินสดกว่า 35,000 ดอลลาร์ ในบ่ายวันพุธ 28 ก.ย.ที่ผ่านมา แต่ถึงกระนั้นก็ยังไร้วี่แววกลุ่มคนร้าย ที่หลายคนเชื่อว่าได้หลบหนีข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้านแล้ว
นับเป็นเหตุการณ์ที่หาดูได้ยาก ที่มีชาวต่างชาติเข้าไปปฏิบัติการก่ออาชญากรรมชิงทรัพย์ ในประเทศคอมมิวนิสต์ที่ถูกจัดอันดับ เป็นหนึ่งในบรรดาประเทศ ที่มีความสงบสุขมากที่สุดในโลก
"ເຈົ້າຫນ້າທີ່ລາວ-ໄທຮ່ວມກັນສັ່ງທຸກໆດ່ານ ແລະ ທຸກໆຈຸດລະຫວ່າງປະເທດຕອ້ງອັດປະຕູຕີແມວ ພາຍຫລັງໂຈນແຂກຂາວຫອບເງິນ ຊາວລາວຫນີໄປແບບໄຮ້ກິນອາຍຢູ່ທະນາຄານອິນໂດໄຊນາໃນເວລາ 14:25 ນາທີຂອງວັນທີ 28/9/2016 ຢູ່ເຂດບ້ານຫນອງບອນ ນະຄອນຫລວງວຽງຈັນ.." สื่อของทางการรายงาน ทั้งยังระบุด้วยว่า เจ้าหน้าที่เชื่อกลุ่มคนร้ายยังคงหลบซ่อนอยู่ในลาว
ยังไม่สามารถขอความเห็นจากหน่วยงานใดของไทยได้ในขณะนี้ เกี่ยวกับความร่วมมือช่วยเหลือทางการลาวสะกัดกั้นคนร้าย นักก่ออาชญกรรมข้ามชาติกลุ่มนี้
ตามรายงานของผู้เห็นเหตุการณ์ คนร้ายที่เป็น "แขกขาว" ซึ่งโดยทั่วไปหมายถึง คนสัญชาติตุรกี กับอีกบางชนชาติ ในย่านตะวันออกกลาง จำนวน 3 คน ได้ร่วมกันฉากเงินจาก พนักงานบริษัทลาวบริการขนส่งจำกัด หลังเบิกออกจากธนาคารอินโดจีน (Indochina Bank) ริมถนน 23 สิงหา ในนครเวียงจันทน์ เหตุเกิดระหว่างเวลา 14.25-14.30 น.
คนร้ายคนหนึ่งได้แอบเจาะยางรถยนต์ของพนักงาน ที่ติดเครื่องจอดรออยู่ริมถนนหน้าธนาคาร เมื่อเจ้าหน้าที่นำเงินสดราว 35,660 ดอลลาร์ขึ้นรถ ทำให้ไม่สามารถเคลื่อนออกไปได้
คนร้ายคนเดียวกันกับ ที่ปรากฎตัวในธนาคารเพื่อดูลาดเลาก่อนหน้านั้น ได้ปรี่ไปยังพนักงานบริษัทดังกล่าว ที่ลงจากรถตรวจดูยางที่ไม่มีลม โดยแสร้งทำเป็นหลงทาง และ ถามทาง ทั้งนี้เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ ให้คนร้ายร่วมทีมอีกคนหนึ่งย่องไป เปิดประตูรถนำกระเป๋าบรรจุเงินสด ที่วางไว้บนเบาะด้านหน้า นำไปขึ้นรถยนต์ฟอร์ดคัหนึ่ง ที่จอดติดเครื่องรอวอยู่ ก่อนทั้งสามคนจะเร่งความเร็วออกไปจากที่เกิดเหตุ
อย่างไรก็ตาม มีพลเมืองดีคนหนึ่ง ขับรถจักรยานยนต์ไล่ติดตามกลุ่มคนร้าย ทำให้ได้รูปพรรณสัฐานชัดเจน รวมทั้งทะเบียนรถพาหนะที่ใช้
ผู้ติดตามกล่าวว่า ไล่หลังไปได้พักหนึ่ง คนร้ายในกลุ่มก็หยิบสิ่งของอย่างหนึ่งออกมาแสดงให้เห็น ซึ่งคาดว่าจะเป็นอาวุธ และ หนังสือพิมพ์ปะเทดลาว รายงานก่อนหน้านี้ว่า เป็นปืนเล็กยาวกึ่งอัตโนมัติแบบ AK-47 ทำให้พลเมืองดีต้องหยุดการขับมอเตอร์ไซค์ไล่ติดตาม และกลุ่มคนร้ายหายไป "อย่างไร้วี่แวว" ตั้งแต่นั้น.
.
2
3
