รอยเตอร์/เอเอฟพี - พม่าส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหารเข้าดูแล และฟื้นฟูเจดีย์โบราณรอบเมืองพุกาม เมืองหลวงเก่าของประเทศในวันนี้ (25) หลังเจดีย์ที่สร้างขึ้นจากอิฐเกือบ 200 องค์ ได้รับความเสียหายจากแรงสั่นสะเทือนในเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงที่เกิดขึ้นวันก่อน
หน่วยดับเพลิง และเจ้าหน้าที่เข้าประเมินขอบเขตความเสียหายอันเนื่องจากแผ่นดินไหวความรุนแรง 6.8 ตามมาตราริกเตอร์ ที่สั่นสะเทือนสิ่งปลูกสร้างไปทั่วประเทศเมื่อวันพุธ (24)
แต่ความเสียหายโดยรวม และผลกระทบต่อประชาชนในท้องถิ่นเกิดขึ้นในวงจำกัด ตามการระบุของเจ้าหน้าที่ รายงานส่วนใหญ่เป็นความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเจดีย์ที่มีชื่อเสียงในภาคกลางของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรอบเมืองพุกาม และอาคารขนาดเล็กทั่วไป
เจ้าหน้าที่กาชาดของพม่าระบุว่า ได้รับรายงานว่ามีผู้เสียชีวิต 3 คน จาก 2 เมืองที่อยู่ใกล้กับศูนย์กลางแผ่นดินไหว
สำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐฯ (USGS) ระบุว่า แผ่นดินไหวเกิดขึ้นใกล้กับเมืองจ๊อก ทางใต้ของเมืองพุกาม และห่างจากเมืองมัณฑะเลย์ เมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ ทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 175 กิโลเมตร เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยแรงสั่นสะเทือนสามารถรับรู้ได้ไกลถึงไทย บังกลาเทศ และอินเดีย
อแมนด้า จอร์จ จากกาชาดสากลในพม่าระบุว่า หน่วยงานกำลังจัดหาความช่วยเหลือในปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัย แต่ไม่ได้ดำเนินการในภาวะของสถานการณ์ฉุกเฉิน
“ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินแห่งชาติที่ดำเนินการโดยรัฐบาลได้หยุดปฏิบัติการเมื่อประมาณ 20.00 น.วานนี้ และเราดำเนินการภายใต้การนำของพวกเขา และประสานงานกันอย่างใกล้ชิด” อแมนด้า จอร์จ กล่าว
“เรายังคงจัดหาความช่วยเหลือให้แก่ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ แต่ไม่ได้มองว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เป็นภัยพิบัติรุนแรง”
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า รถบรรทุกที่มีทหารโดยสารได้มุ่งหน้าไปยังเมืองพุกามในเช้าวันนี้ (25) และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กั้นบริเวณเจดีย์ที่ได้รับความเสียหาย
เมืองพุกาม เป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่เติบโตอย่างรวดเร็วของพม่า มีเจดีย์และวัดอยู่ราว 2,000-3,000 แห่ง ตั้งกระจายอยู่ทั่วบริเวณกว้าง 42 ตารางกิโลเมตร
เจ้าหน้าที่ระบุว่า แผ่นดินไหวสร้างความเสียหายแก่องค์เจดีย์อย่างน้อย 185 องค์ ที่หลายองค์มีอายุราว 1,000 ปี ด้านสำนักงานยูเนสโกในนครย่างกุ้งได้ส่งผู้เชี่ยวชาญเข้าประเมินความเสียหาย ขณะที่รัฐบาลส่งทีมจากหน่วยงานด้านวัฒนธรรมและธรณีวิทยาลงพื้นที่
“อย่างแรกนั้นเราจำเป็นที่จะต้องคำนวณขอบเขตความเสียหาย หลังจากนั้น จึงจะร่างแผนบูรณะฟื้นฟู” อากา กอ รองผู้อำนวยการจากกระทรวงวัฒนธรรมพม่า กล่าว และเสริมว่า รัฐบาลกำลังทำงานร่วมกันกับยูเนสโก
“ต้องใช้เวลากว่าจะทราบว่าโครงสร้างเจดีย์ยังแข็งแรงมั่นคงหรือไม่ และความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นรุนแรงมากน้อยเพียงใด เพราะหากหลังคาถล่มจะส่งผลกระทบต่อผนัง และภาพจิตรกรรม” เจ้าหน้าที่จากยูเนสโก กล่าว
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้กั้นพื้นที่ห้ามนักท่องเที่ยวเข้าไปในบริเวณที่ได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหว ขณะที่คนงานเข้าเก็บซากอิฐ และรวบรวมเศษชิ้นส่วนจิตรกรรมฝาผนังที่หลุดหล่นเสียหาย
“ผมรู้สึกเสียใจเพราะเจดีย์เก่าแก่ของเราได้รับความเสียหาย และบางองค์ถล่มราบลงมา ผมหวังว่าจะไม่มีอะไรแบบนี้เกิดขึ้นอีก” อ่อง นาย วิน ช่างฝีมือจากเมืองพุกาม กล่าว
“แต่บางทีเจ้าหน้าที่อาจไม่บูรณะเจดีย์ที่ได้รับความเสียหายบางองค์ เพื่อให้คนรุ่นหลังได้เห็นถึงภัยพิบัติที่เคยเกิดขึ้น” อ่อง นาย วิน กล่าว
หน่วยดับเพลิง และตำรวจในเมืองปะก็อกกู เมืองใหญ่ที่สุดที่อยู่ใกล้กับศูนย์กลางแผ่นดินไหว ระบุว่า อาคารหลายหลังเกิดรอยแตกร้าว และได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าประเมินความเสียหายแล้ว.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.