xs
xsm
sm
md
lg

พายุ “เตี้ยนหมู่” ถล่มทิ้งท้าย ทำเวียดนามดับ 9 ราย สร้างความเสียหายอีกหลายล้านดอลลาร์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

<br><FONT color=#000033>ดินถล่มในจ.เอียนบ่าย จากอิทธิพลของพายุเตี้ยนหมู่ที่พัดถล่มพื้นที่ภาคเหนือของเวียดนามในช่วงสุดสัปดาห์ โดยทางการรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 9 คน และสูญหายอีก 3 คน จากพายุลูกที่ 3 ที่พัดถล่มประเทศในปีนี้. -- ภาพ :Tuoi Tre.</font></b>

แถ่งเนียน - เกิดเหตุน้ำท่วมหนักในหลายจังหวัดทางภาคเหนือของเวียดนาม เนื่องจากอิทธิพลของพายุเตี้ยนหมู่ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 9 คน และสูญหายอีก 3 คน บ้านเรือน และพื้นที่เพาะปลูกจมน้ำเสียหาย

ฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ทำให้น้ำท่วมในหลายพื้นที่ในที่ราบสูงภาคเหนือ ที่ระดับน้ำท่วมสูงถึง 1.8 เมตร

แหล่งข่าวจากคณะกรรมการเพื่อการค้นหาและกู้ภัย กล่าวว่า น้ำท่วมฉับพลัน ดินถล่ม และบ้านเรือนพังเสียหาย ทำให้ประชาชนเสียชีวิต 9 คน ในคืนวันเสาร์ (20) ในจังหวัดทางภาคเหนือที่ประกอบด้วย จ.ลาวกาย จ.ฝูเถาะ และ จ.เอียนบ่าย แห่งละ 2 คน และ จ.ฮวาบิ่ง จ.เซินลา และ จ.วิงฟุ้ก แห่งละ 1 คน รายงานระบุว่า ผู้ประสบเหตุมีอายุระหว่าง 14-72 ปี ขณะเดียวกัน มีผู้สูญหายใน จ.ลาวกาย 2 คน และ จ.บั๊กซาง อีก 1 คน

จ.เอียนบ่าย เป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดตามการประเมินของเจ้าหน้าที่ โดยอิทธิพลของพายุสร้างความเสียหายต่อบ้านเรือนมากกว่า 2,500 หลัง และเรือกสวนไร่นามากกว่า 7,500 ไร่ คิดเป็นมูลค่าราว 4.55 ล้านดอลลาร์ ครอบครัวชาวเวียดนามราว 1,000 ครอบครัว ต้องอพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัย ตามการรายงานของสำนักข่าวเวียดนาม

ส่วนในจังหวัดใกล้เคียงนั้น บ้านเรือนหลายร้อยหลัง และพื้นที่ทางการเกษตรหลายร้อยไร่ยังได้รับความเสียหายเช่นกัน โดยความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อถนน บ้านเรือน และพื้นที่เพาะปลูกของ จ.ลาวกาย อยู่ที่ประมาณ 2.7 ล้านดอลลาร์

ยังมีคำเตือนเกี่ยวกับน้ำท่วม และดินถล่มที่อาจเกิดขึ้นอีกใน จ.บั๊กกัน จ.เดียนเบียน จ.ฮว่าบิ่ง จ.ลายเจิว จ.ลาวกาย จ.เซินลา จ.ท้ายเหวียน จ.เตวียนกวาง จ.เอียนบ่าย รวมทั้ง จ.เหงะอาน และ จ.แท็งฮว้า ในภาคกลางตอนเหนือ

พายุเตี้ยนหมู่ เป็นพายุลูกที่ 3 ที่ขึ้นฝั่งพัดถล่มเวียดนามในปีนี้ ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือน ก.ค. เวียดนามต้องรับมือต่อพายุมิริแน และพายุนิดา ในต้นเดือน ส.ค. ที่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ภาคเหนือของเวียดนาม และทำให้มีผู้เสียชีวิตไปทั้งหมด 7 ราย.
กำลังโหลดความคิดเห็น