xs
xsm
sm
md
lg

เวียดนามได้ ปธน.-ประธานรัฐสภาคนใหม่สัปดาห์นี้ นายกรัฐมนตรีตามมาติดๆ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<br><FONT color=#000033>สี่เสาหลัก คือเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์ นายเหวียนฝูจ่อม (Nguyen Phu Trong) ห้อมล้อมด้วย สามเสาหลัก ที่ปรบมือเป็นเกียรติ ในภาพวันที่ 28 ม.ค.2559 หลังได้รับเลือกให้ทำหน้าที่ผู้นำพรรคอีกสมัย ซ้ายสุดคือ พล.อ.เจิ่นไดกวาง (Tran Dai Quang) นายพลเอกเพียงหนึ่งในสองคนของประเทศ ว่าที่ประธานาธิบดี -- ขวาสุด นางเหวียนถิกิมเงิน (Nguyen Thi Kim Ngan) ว่าที่ประธานรัฐสภา กับ นายเหวียนซวนฟุก (Nguyen Xuan Phuc) ว่าที่นายกรัฐมนตรี  ทั้งหมดนี้ไม่มีนอกมีใน เปิดเผยตรงไปตรงมา เมื่อครบวาระคนเก่าไปและสหายคนใหม่มาแทนที่ การเปลี่ยนแปลงผู้นำทางการเมือง ในเวียดนามเริ่มขึ้นอีกครั้งสัปดาห์นี้. -- Reuters/Hoang Dinh Nam/Pool</b>

MGRออนไลน์ -- คอมมิวนิสต์เวียดนามย่างเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงตัวผู้นำทางการเมืองอีกครั้ง รัฐสภาชุดปัจจุบันจะลงคะแนนลับ โหวตเพื่อรับรองหรือไม่รับรองประธานาธิบดีคนใหม่ของประเทศวันพฤหัสบดี 31 มี.ค.นี้ ซึ่งจะนำไปสู่กระบวนการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ สำหรับรัฐบาลชุดใหม่ที่จะอยู่ในวาระต่อไปอีก 5 ปี ถึงแม้ว่าการเลือกทั่วไป จะมีในอีก 2 เดือนข้างหน้าก็ตาม

นับเป็นกระบวนการการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่ไม่เคยมีมาก่อนในรอบ 10-20 ปีมานี้ ตั้งแต่เวียดนามเปิดประเทศ ที่มีการเลือกผู้นำระดับสูงชุดใหม่ก่อนการเลือกตั้งใหญ่ทั่วประเทศ ซึ่งจัดขึ้นทุกๆ 5 ปี ปธน.คนใหม่จะอยู่ในตำแหน่งต่อไปจนถึงปี 2464 ซึ่งโดยปรกติที่ปฏิบัติกันมา ตำแหน่งประมุขแห่งรัฐ จะเลือกโดยสมาชิกรัฐสภาชุดใหม่ ภายหลังการเลือกตั้ง

รัฐสภาเวียดนามชุดที่ 13 อยู่ระหว่างการประชุมสมัยสุดท้าย ซึ่ง 2-3 วันมานี้เป็นวาระสรุปผลงาน 5 ปีโดยฝ่ายต่างๆ และ องค์การต่างๆ ของรัฐ และ ฝ่ายตุลาการ องค์การตรวจสอบ องค์การบริหารอื่นๆ รวมทั้งคณะรัฐมนตรี โดยนายกรัฐมนตรีเวียดนามนายเหวียนเติ๋นยวุ๋ง (Nguyen Tan Dung) ซึ่งได้อภิปรายรายงานต่อรัฐสภาสัปดาห์ที่แล้ว

นรม.เวียดนาม ยังได้ประชุมคณะรัฐมนตรีนัดสุดท้ายเมื่อวันศุกร์ พร้อมประกาศร่ำลาสมาชิกทุกคนในคณะรัฐบาล ที่ทำงานร่วมกันมาเป็นเวลา 5 ปี

อย่างไรก็ตามทั้งหมดนี้เป็นกระบวนการที่ทราบล่วงหน้ากันมาก่อน ตั้งแต่การประชุมใหญ่ครั้งที่ 12 พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ที่จัดขึ้นในเดือน ม.ค. ซึ่งผู้แทนสมาชิกพรรคจากทั่วประเทศ ได้เลือกเลขาธิการใหญ่ของพรรคคนเก่าคือ นายเหวียนฝูจ่อม (Nguyen Phu Trong) ให้อยู่ในตำแหน่งนำต่อไปอีกหนึ่งสมัยเป็นเวลา 5 ปี

เวลาต่อมาคณะกรรมการกรมการเมือง ซึ่งเป็นองค์กรอำนาจสงสุดของพรรค ได้เสนอรายชื่อบุคคลเพื่อเข้าดำรงตำแหน่ง "สามเสาหลัก" ของพรรคและรัฐ คือ ประธานรัฐสภา ประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการกลางพรรคชุดใหม่ที่เปิดการประชุมครั้งแรกในสัปดาห์ปลายเดือน ก.พ. ได้รับรองรายชื่อบุคคลทั้งสาม

ตามกำหนดการของรัฐสภา ที่รายงานโดยสื่อของทางการ นายเหวียนซิงหึ่ง (Nguyen Sinh Hung) ประธานคนปัจจุบัน จะปราศรัยสรุปผลงาน 5 ปีในวันพุธ 30 มี.ค.นี้ และ สมาชิกรัฐสภาจะลงมติด้วยวิธีลงคะแนนลับ เพื่อรับรองการลาออกจากตำแนห่งของประธานรัฐสภา

ในภาคเช้าวันที่ 31 รัฐสภาจะลงมติรับรอง/ไม่รับรอง ประธานรัฐสภาคนใหม่ ซึ่งรายชื่อที่เสนอโดยคณะกรรมการกรมเมืองก่อนหน้านี้คือ นางเหวียน ถิ กิม เงิน (Nguyen Thi Kim Ngan) รองประธานรัฐสภาชุดปัจจุบัน และ ประธานรัฐสภาคนใหม่ ที่จะอยู่ในวาระอีก 5 ปี จะเข้าสู่พิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในเวลาต่อเนื่องกัน

ภาคบ่ายวันเดียวกัน รัฐสภาจะลงมติโดยวิธีลงคะแนนลับ รับรองการลาออกจากตำแหน่ง ของประธานาธิบดีนายเจืองเติ๋นชาง (Truong Tan Sang) ในเวลาต่อเนื่องกัน ประธานรัฐสภาคนใหม่ จะเสนอรายชื่อผู้ที่จะเข้าดำรงตำแหน่งประมุขแห่งรัฐคนใหม่ ให้สมาชิกฯ ได้อภิปราย และ การโหวตรับรอง/ไม่รับรอง โดยวิธีลงคะแนนลับ จะมีขึ้นในวันเสาร์ 2 เม.ย.2559

บุคคลที่จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของเวียดนาม ที่เสนอโดยพรรคคอมมิวนิสต์ได้แก่ พล.อ.เจิ่นไดกวาง (Tran Dai Quang) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงภายใน โดย ปธน.คนใหม่จะเข้าพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในทันที หลังการโหวตลงคะแนน

ในวันเสาร์ยังจะมีกระบวนโหวตรับรองการลาออก/เลือกใหม่ ตัวบุคคลอีกหลายคน รวมทั้งการพ้นวาระของสมาชิกคณะกรรมการประจำฯ และ คณะกรรมาธิการหลักของรัฐสภาจำนวนหนึ่ง ก่อนจะพักการประชุมในวันอาทิตย์ และ เริ่มการประชุมสมัยสุดท้ายอีกครั้งในสัปดาห์ถัดไป เพื่อเข้าสู่กระบวนการลาออก/เสนอรายชื่อ และ โหวตลับเพื่อรับรอง/ไม่รับรองผู้นำรัฐบาลคนใหม่

บุคคลที่พรรคคอมมิวนิสต์เสนอเข้าดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพื่อจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่บริหารประเทศอีก 5 ปี ได้แก่ นายเหวียนซวนฟุก (Nguyen Xuan Phuc) รองนายกรัฐมนตรีคนที่ 1 ในปัจจุบัน

การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในเวียดนาม ทั้งในระดับพรรคและรัฐบาล ได้เริ่มขึ้นทันทีหลายหลังการประชุมใหญ่ ของพรรคคอมมิวนิสต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ การแต่งตั้งกรรมการกรมการเมืองหลายนาย ไปดำรงตำแหน่งสำคัญของพรรค ซึ่งบางครั้งส่งผลให้ตำแหน่งในรัฐบาลว่างลง ทำให้เกิดการ "ปรับเล็ก" คณะรัฐมนตรีโดยปริยาย

ตำแหน่งสำคัญที่มีการเปลี่ยนแปลงช่วงที่ผ่านมายังรวมทั้ง การแต่งตั้งนายดีงลาทาง (Dinh La Thang) กรมการเมือง และ รัฐมนตรีกระทรวงขนส่ง ไปเป็นเลขาธิการพรรคสาขานครโฮจิมินห์ และ นายหว่างจุงหาย (Hoang Trung Hai) กรมการเมือง และ รองนายกฯ คนที่ 2 ไปดำรงตำแหน่งเขาธิการพรรค สาขากรุงฮานอยในสัปดาห์ต้นเดือนนี้ด้วย

บุคคลทั้งสองไปทำหน้าที่แทน อดีตเลขาธิการพรรคทั้งสองนครใหญ่ ที่พ้นวาระหลังเกษียน จากคณะกรรมการกรมการเมือง ระหว่างการประชุมใหญ่ที่ผ่านมา.
กำลังโหลดความคิดเห็น