เอเอฟพี - สาโทที่มีระดับแอลกอฮอล์เป็นพิษได้คร่าชาวกัมพูชาอย่างน้อย 19 คน และล้มป่วยอีกกว่า 172 คน ตามการเปิดเผยของกระทรวงสาธารณสุขกัมพูชาวานนี้ (13)
“ผลการทดสอบในห้องปฏิบัติการพบว่า การเสียชีวิตมีสาเหตุมาจากเมทานอลในสาโทมีระดับสูง” ลี สุวรรณ โฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าว
เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นของ จ.กระแจ๊ะ พื้นที่ที่เกิดเหตุประชาชนล้มป่วยตั้งแต่วันที่ 19 พ.ย. หลังดื่มแอลกอฮอล์ปนเปื้อน ได้สั่งการให้บรรดาผู้ผลิตท้องถิ่น และผู้ขายสาโททุกรายปิดชั่วคราว
การทดสอบโดยกระทรวงสาธารณสุข พบว่า สาโทบางตัวมีความเกี่ยวข้องในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างน้อย 5 เหตุการณ์ โดยมีระดับเมทานอลสูงถึง 12% ซึ่งระดับปกติจะอยู่ที่ประมาณ 0.15%
สื่อท้องถิ่นรายงานว่า ชาวบ้านที่ล้มป่วยมีอาการคลื่นไส้อาเจียน และเวียนศีรษะ
กระทรวงสาธารณสุขออกคำแถลงฉบับหนึ่งเมื่อวันอาทิตย์ (13) ระบุว่า ทางการกำลังสืบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ยังไม่มีการจับกุมใดๆ ในตอนนี้
มัม บุนเฮง รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข กล่าวในคำแถลงว่า ประชาชนควรหยุดดื่มสาโท หรือไวน์สมุนไพรที่ผลิตขึ้นโดยไม่ได้รับการตรวจสอบอย่างถูกต้อง หรือได้รับอนุญาตจากทางการโดยทันที
กระทรวงยังระบุว่า เจ้าหน้าที่กำลังทำงานกับหน่วยงานระหว่างประเทศ รวมทั้งองค์การอนามัยโลก เพื่อเสริมความปลอดภัยทางอาหารในประเทศ
ผู้เสียชีวิต 6 คน จากจำนวนทั้งหมดที่ถูกประกาศไปก่อนหน้านี้ว่า มีสาเหตุจากเนื้อสุนัขเน่า กระทรวงได้ระบุว่า จากผลทดสอบเพิ่มเติมพบว่า สาโทเป็นสาเหตุของพิษ
ชาวกัมพูชามักดื่มสาโทผลิตกันเองในท้องถิ่นเนื่องจากมีราคาถูก แต่ก็อาจเป็นอันตรายหากผลิตไม่ถูกต้อง
การเสียชีวิตจากสาโทที่ผลิตไม่ดีมักเกิดขึ้นบ่อย แต่การเสียชีวิตในจำนวนมากเช่นนี้เป็นเรื่องที่พบได้ยาก
ในปี 2553 มีชาวกัมพูชาอย่างน้อย 17 คน เสียชีวิต ใน จ.กัมปงจาม หลังดื่มสาโทจากขวดที่ก่อนหน้าใช้ใส่ยากำจัดวัชพืช หลังจากนั้นอีก 1 ปี มีชาวกัมพูชาอย่างน้อย 9 คน และล้มป่วยอีก 76 คน หลังดื่มไวน์ปนเปื้อนในงานศพ
กัมพูชามีชื่อเสียงในทางไม่ดีจากความหละหลวมในเรื่องของมาตรฐานความปลอดภัย และสุขภาพ
และเมื่อช่วงต้นปี มีชาวกัมพูชามากกว่า 600 คน ส่วนใหญ่เป็นเด็กนักเรียน ล้มป่วยหลังทานอาหารปนเปื้อนที่โรงเรียนได้รับในงานที่จัดขึ้นส่วนหนึ่งของการรณรงค์ต่อต้านแรงงานเด็ก.