เอพี - นับเป็นวันที่ 4 ที่ชาวพม่าหลายร้อยคนเข้าแถวอยู่ด้านนอกสถานทูตพม่าในสิงคโปร์ในวันนี้ (18) เพื่อลงคะแนนเสียงเลือกตั้งล่วงหน้าในการเลือกตั้งวันที่ 8 พ.ย.ของประเทศ
ผู้คนจำนวนมากได้สร้างความตกตะลึงให้แก่เจ้าหน้าที่สถานทูต จนทำให้เจ้าหน้าที่ต้องขยายระยะเวลาในการเลือกตั้งที่ควรจะจบลงในวันนี้ไปอีก 3 วัน
การเลือกตั้งที่เชื่อว่าจะเป็นโอกาสที่ดีที่สุดของประเทศในรอบหลายทศวรรษ ผู้คนที่ต่อแถวเป็นแนวยาว และความคิดเห็นจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งชี้ให้เห็นถึงความกระตือรือร้นที่จะลงคะแนนเสียงและกำหนดอนาคตของประเทศ
“เราหวังให้เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่” ธัน ฮาน อายุ 26 ปี พนักงานบริษัทแห่งหนึ่งที่ไม่สามารถลงคะแนนเสียงเลือกตั้งในวันเสาร์ (17) แม้จะเข้าแถวนานกว่า 4 ชั่วโมง กล่าว
“การศึกษา มาตรฐานความเป็นอยู่ การดำเนินชีวิต ทุกอย่างต้องเปลี่ยนแปลง” ธัน ฮาน กล่าว ขณะกำเหรียญที่เป็นเครื่องรับประกันว่าเขาจะมีโอกาสใช้สิทธิลงคะแนนเสียงได้ในวันอาทิตย์
ผู้สังเกตการณ์หลายคนเชื่อว่า พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย ของอองซานซูจี จะชนะที่นั่งส่วนใหญ่ในรัฐสภา และอาจครองเสียงส่วนใหญ่ด้วยการตั้งรัฐบาลผสมกับพรรคเล็ก
เพื่อโอกาสที่ดีกว่า ชาวพม่าหลายพันคนเดินทางไปหางานทำในต่างประเทศ เช่น สิงคโปร์ แต่มีแรงงานพม่าเพียง 30,000 คน ใน 37 ประเทศ ที่ลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้า ซึ่งเป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวของแรงงานพม่าในต่างประเทศ ตามการระบุของเต็ง อู ผู้อำนวยการคณะกรรมาธิการการเลือกตั้งแห่งสหภาพในกรุงเนปีดอ
การเลือกตั้งล่วงหน้าเริ่มขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดี (15) ในสิงคโปร์ และเห็นได้ชัดว่าสถานทูตไม่สามารถดำเนินการให้แก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่อยู่ในแถวได้ทั้งหมด ซึ่งผู้มีสิทธิเลือกตั้งเริ่มเช้าแถวกันแต่เช้าตั้งแถวยาวไปเกือบหนึ่งกิโลเมตร และกีดขวางการจราจร ซึ่งเป็นเรื่องผิดปกติในสิงคโปร์
เจ้าหน้าที่สถานทูตตัดสินใจในวันเสาร์ที่จะจำกัดจำนวนผู้ใช้สิทธิที่ 3,000 คนต่อวัน โดยออกเหรียญเพื่อใช้ในการตรวจสอบจำนวน และประกาศขยายเวลาเลือกตั้งไปจนถึงวันพุธ (21)
ในวันอาทิตย์ (18) ผู้มีสิทธิเลือกตั้งบางส่วนนั่งปิกนิกบนเสื่อ ถ่ายภาพ และพูดคุยกัน โดยมีอาสาสมัครที่ไม่ได้เกี่ยวข้องต่อสถานทูตนำบะหมี่ ขนมหวาน และกระดาษเปียกออกแจกจ่ายให้แก่ผู้ที่เข้าแถวรอใช้สิทธิเลือกตั้ง
“นั่นคึือจิตวิญญาณของชาวพม่า เราชอบช่วยเหลือผู้อื่น” ซอโม อายุ 41 ปี หนึ่งในอาสาสมัคร กล่าว
“เราต้องการระบอบประชาธิปไตย และการพัฒนา มีทางเดียวที่จะทำได้คือ ลงคะแนนเสียงให้แก่รัฐบาลที่ถูกต้องที่จะนำประชาธิปไตยมาสู่ประเทศ ฉันสนับสนุนอองซานซูจี ฉันเชื่อว่าเธอเป็นผู้นำที่ดีสำหรับประเทศของเรา ด้วยคุณภาพที่ดี” ยิน มี้น ตุ๊ต พยาบาลอายุ 30 ปี กล่าว
หลังการเลือกตั้งทั่วไปจะเป็นขั้นตอนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในช่วงต้นปีหน้า โดยกองทัพ และสมาชิกรัฐสภาที่มาจากการเลือกตั้งจะเสนอชื่อผู้ชิงตำแหน่งประธานาธิบดี 3 คน และจากนั้นสมาชิกสภานิติบัญญัติทั้งหมดจะลงคะแนนเสียงเลือกประธานาธิบดี ส่วนอองซานซูจี ไม่สามารถทำหน้าที่ในตำแหน่งประธานาธิบดี เนื่องจากรัฐธรรมนูญห้ามผู้ที่มีคู่สมรส หรือทายาทเป็นชาวต่างชาติจากการทำหน้าที่ในตำแหน่งดังกล่าว.
.