รอยเตอร์ - เวียดนามปรับลดค่าเงินด่งเป็นครั้งที่ 3 ของปีในวันนี้ (19) เมื่อทางการพยายามที่จะหาทางสนับสนุนภาคส่งออกที่เผชิญต่อความท้าทายรอบใหม่จากการปรับลดค่าเงินสกุลหยวนของจีน
ธนาคารแห่งชาติเวียดนาม ยังได้ขยายแถบช่วงที่ให้อัตราแลกเปลี่ยนสามารถปรับขึ้น-ลงได้จากค่ากลางเป็นครั้งที่ 2 ในรอบสัปดาห์ ด้วยวิตกว่าเงินหยวนอ่อนค่าอาจซ้ำเติมการขาดดุลการค้า
จีนเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม เมื่อจีนปรับลดค่าเงินหยวนเกือบ 2% เมื่อวันที่ 11 ส.ค. ก่อให้เกิดความวิตกสูงเกี่ยวกับสงครามแข่งขันลดค่าเงิน
ในวันพุธ (19) ธนาคารแห่งชาติเวียดนาม ปรับลดอัตรากลางที่ธนาคารกำหนดอย่างเป็นทางการ 0.99% อยู่ที่ 21,890 ด่งต่อดอลลาร์ และขยายช่วงค่าแลกเปลี่ยนที่สามารถขึ้น-ลง ได้จากค่ากลางเป็น 3% จาก 2%
เวียดนาม ขาดดุลการค้า 3,530 ล้านดอลลาร์ ในช่วงระหว่างเดือน ม.ค.-ก.ค. เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่เกินดุล 1,590 ล้านดอลลาร์ และการส่งออกขยายตัวที่ 8.9% ในช่วง 7 เดือนแรกของปีซึ่งต่ำกว่าเป้าที่รัฐบาลตั้งไว้ที่ 10%
การลดค่าเงินหยวนได้สร้างความวิตกมากขึ้นต่อการหลั่งไหลของสินค้าจีนมายังตลาดเวียดนามที่ยิ่งเพิ่มแรงกดดันต่อดุลการค้า
“อัตราแลกเปลี่ยนเงินด่งของเวียดนามในเวลานี่มีพื้นที่กว้างเพียงพอที่จะยืดหยุ่นรับมือต่อผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์ในตลาดต่างประเทศ และในประเทศ ไม่เพียงนับจากนี้ไปจนถึงสิ้นปี แต่ยังต่อเนื่องไปถึงเดือนแรกของปี 2559” ธนาคารแห่งชาติเวียดนามระบุในคำแถลงฉบับหนึ่ง และว่าความเคลื่อนไหวนี้จะช่วยรับประกันความสามารถในการแข่งขันของสินค้าเวียดนาม
เวียดนามขาดดุลการค้ากับจีน 19,330 ล้านดอลลาร์ ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2558 เทียบกับที่ขาดดุล 14,880 ล้านดอลลาร์เมื่อปีก่อน
“การปรับลดค่าเงินเป็นสิ่งที่เหมาะสมนับตั้งแต่หลายประเทศที่แข่งกับเวียดนามในการส่งออกได้ปรับลดค่าเงินของตัวเอง” เหวียน แถ่ง เลิม รองผู้จัดการฝ่ายธุรกิจค้าปลีกของบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง กล่าว
ธนาคารแห่งชาติเวียดนาม ปรับลดค่าเงินด่งครั้งแรกของปี 2558 เมื่อวันที่ 7 ม.ค. ที่ 1% และปรับลดครั้งที่ 2 อีก 1% เมื่อวันที่ 7 พ.ค. และด้วยช่วงอัตราแลกเปลี่ยนใหม่ของวันนี้ (19) จะทำให้เงินด่งอ่อนลงเป็น 22,547 ต่อดอลลาร์ ตามข้อตกลงระหว่างธนาคาร.