รอยเตอร์ - ผู้ว่าการเมืองบาเว็ต ของกัมพูชา ที่ทางการต้องการตัวจากเหตุยิงคนงานโรงงานสิ่งทอ 3 คน ถูกจับกุมตัวเมื่อวันเสาร์ (8) หลังลอยนวลอยู่นาน 2 ปี และหลังจากที่นายกรัฐมนตรีฮุนเซน เรียกร้องให้มีการจับกุมตัวเจ้าหน้าที่รัฐรายนี้
จุก บันดิธ ผู้ว่าการเมืองบาเว็ต ยิงปืน และทำให้แรงงานหญิงได้รับบาดเจ็บในการชุมนุมประท้วงของแรงงานหลายพันคนที่โรงงานผลิตสินค้าให้แก่พูม่า ใน จ.สวายเรียง เมื่อปี 2555
แม้ว่า จุก บันดิธ จะถูกตัดสินความผิดโดยไม่ปรากฏตัวในศาลในปี 2556 และถูกตัดสินจำคุก 18 เดือน แต่การลอยนวลอยู่นอกคุกนานหลายปีสร้างความไม่พอใจให้แก่ชาวกัมพูชาที่เบื่อต่อพฤติกรรมของคนรวย หรือคนที่มีอภิสิทธิ์ซึ่งมักไม่ถูกแตะต้อง
"“เราได้ตัวจุก บันดิธ และเรากำลังส่งตัวเขาไปที่ศาล จ.สวายเรียง เพื่อดำเนินกระบวนการทางกฎหมายต่อไป” พล.ต.อ.จวน สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจกรุงพนมเปญ กล่าว
จุก บันดิธ เลือกที่จะยอมจำนน หลังนายกรัฐมนตรีฮุนเซนเรียกร้องต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกเมื่อวันจันทร์ (3) ว่า เขาจะต้องถูกจับกุมตัว
นักเคลื่อนไหวต่างยินดีกับการจับกุมตัวครั้งนี้ แต่ระบุถึงข้อเท็จจริงที่ว่า ระยะเวลาหลายปีที่จุก บันดิธ หลบหนีกลับสิ้นสุดลงด้วยคำพูดของฮุนเซน ที่แสดงให้เห็นถึงอำนาจการแทรกแซงของนายกรัฐมนตรีในการบังคับใช้กฎหมาย และระบบศาลที่มักใช้เพื่อปราบปรามฝ่ายตรงข้ามของฮุนเซน
“ข้อความที่ฮุนเซนต้องการจะสื่อคือคำพูดของเขานั้นมีเวทมนตร์” เมือน ตุลา นักเคลื่อนไหวแรงงานจากศูนย์การศึกษากฎหมายชุมชน กล่าว
กลุ่มสิทธิมนุษยชนได้วิพากษ์วิจารณ์ข้อหาของต่อ จุก บันดิธ ที่ถูกตัดสินความผิดคือ การทำให้บาดเจ็บโดยไม่ตั้งใจ เป็นข้อหาที่อ่อนเกินไป และเรียกร้องให้ตั้งข้อหาใหม่ในข้อหาพยายามฆ่า
ความสนใจในคดีของจุก บันดิธ เกิดขึ้นอีกครั้งหลังการจับกุมตัว สก บุน นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีชื่อเสียงเมื่อเดือน ก.ค. ในข้อหาทำร้ายร่างกาย เอก สุเจียตา นักแสดงสาว ซึ่งฮุนเซนได้ส่งเสียงสนับสนุนร่วมประณามการกระทำดังกล่าวหลังวิดีโอการทำร้ายร่างกายนักแสดงสาวถูกเผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์
การชุมนุมประท้วงเกี่ยวกับค่าแรง และสภาพการทำงานของแรงงาน และการปราบปรามการประท้วงอย่างรุนแรงมักเกิดขึ้นในอุตสาหกรรมสิ่งทอของกัมพูชา อุตสาหกรรมที่เป็นแหล่งรายได้ใหญ่ที่สุดของประเทศ ที่มูลค่ามากกว่า 5,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี และมีแรงงานอยู่ในอุตสาหกรรมนี้ราว 600,000 คน.