ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- เด็กสามคนอายุ 4, 5 และ 7 ขวบในแขวงสะหวันนะเขต ได้เสียชีวิตลงสัปดาห์ปลายเดือนที่ผ่านมา หลังจากได้ต้มคางคกกินกันเองโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และ หมอที่โรงพยาบาลท้องถิ่นไม่สามารถช่วยเหลือได้ ซึ่งเป็นข่าวที่น่าสะเทือนใจอีกข่าวหนึ่งสำหรับพ่อแม่ผู้ปกครองทั่วไป ที่ต้องประกอบสัมมาอาชีพปากกัดตีนถีบหาเลี้ยงครอบครัว โดยไม่มีเวลาเพียงพอในการดูแลลูกๆ
เหตุเกิดวันที่ 27 ม.ค. ที่บ้านปอ กลุ่มบ้านอาหล๋อง เมือง (อำเภอ) ลอง เด็กทั้งสามล้มป่วยด้วยพิษคางคกและถูกนำส่งโรงพยาบาลประจำอำเภอ แต่แพทย์ไม่สามารถช่วยเหลือเยียวยาได้ และได้เสียชีวิตลงในวันเดียวกัน มีรายงานเรื่องนี้ใน ลาวโพสต์ด็อตคอม เว็บไซต์ภาษาลาวที่แจ้งข่าวและรายงานเหตุการณ์ที่น่าสนใจต่างๆ ทั้งในและนอกประเทศ
เด็กคนแรกอายุเพียง 4 ขวบถูกปล่อยให้อยู่บ้านตามลำพังเนื่องจากพ่อกับแม่ออกไปทำไร่ ส่วนอีกสองคนเป็นพี่กับน้องกัน คนพี่อายุ 7 ปีกำลังเรียนชั้นประถมปีที่ 1 ส่วนน้องสาวอายุ 5 ปี พ่อแม่อยู่บ้านแต่ปล่อยให้ลูกๆ ทั้งสองไปเล่นตามลำพัง
สองพี่น้องไปยังบ้านของเด็กคนแรก พอถึงเวลาเที่ยงวันเกิดหิวและไม่มีอาหาร จึงชวนกันทำกับข้าว นำคางคกที่บิดาจับขังเอาไว้ในช่วงกลางคืนโดยที่ยังไม่ทราบจุดประสงค์ และ นำไปต้มทั้งตัว ปรุงเป็นอาหาร ก่อนจะแบ่งปันกับรับประทาน "ลาวโพสต์" รายงานโดยอ้างคำบอกเล่าจากผู้ปกครองของเด็กและนายแพทย์
"ต่อมาเด็กทั้งสามเกิดอาการเบื่อเนื่องจากพิษคางคกที่เข้าไปทำลายระบบภายในร่างกาย ทำให้อาเจียนอย่างรุนแรง.." ลาวโพสต์รายงาน
ผู้ปกครองจึงได้นำเด็กทั้งหมดส่งโรงพยาบาลเมืองนอง แพทย์ได้พยายามช่วยเหลืออย่างสุดความสามารถ แต่ไม่อาจจะช่วยได้เด็กทั้งสามคนเสียชีวิตลง เว็บไซต์แห่งเดียวกันกล่าว.
