xs
xsm
sm
md
lg

เรือดำน้ำเวียดนามลำที่ 3 หนีช่องแคบสิงคโปร์เตลิดลงใต้ไปทะเลชวา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<bR><FONT color=#000033>เว็บไซต์ติดตามการเดินเรือของโลก บันทึกตำแหน่งของเรือโรลด็อกสตาร์ (Rolldockstar) กับเรือดำน้ำนครหายฝ่อง (HQ-184, Haiphong City) เมื่อวันศุกร์ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา แล่นผ่านช่องแคบซุนดา ที่อยู่ระหว่างเกาะสุมาตราและเกาะชวาของอินโดนีเซีย ซึ่งตามกำหนดการเดิมที่ประกาศตั้งแต่ออกจากต้นทางในรัสเซีย ในวันอาทิตย์ 25 ม.ค.นี้ เรือขนส่งลำเลียงขนาดใหญ่สัญชาติเนเธอร์แลนด์จะพาเรือดำน้ำลำที่ 3 ของเวียดนาม จอดทอดสมอในอ่าวสิงคโปร์ แต่ทุกอย่างได้เปลี่ยนไปโดยยังไม่มีคำอธิบายจากฝ่ายใด. </b>

ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ตามกำหนดการที่ประกาศ ณ ต้นทางนครเซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์ก รัสเซีย เมื่อปลายปีที่แล้ว เรือดำน้ำนครหายฝ่อง (HQ-184, Haiphong City) บนเรือขนส่งลำเลียงขนาดใหญ่สัญชาติเนเธอร์แลนด์ จะแวะจอดเป็นเลาสั้นๆ ที่บริเวณอ่าวสิงคโปร์ในสุดสัปดาห์นี้ เช่นที่เคยปฏิบัติเมื่อครั้งนำเรือนครฮานอย (HQ-182, Hanoi City) ไปส่งให้เวียดนาม เมื่อปลายปี 2556 แต่วันศุกร์ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับเส้นทางอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเรือดำน้ำลำที่ 3 ของเวียดนาม ได้เตลิดลงไปยังช่องแคบซุนดา (Sundas Strait) ที่อยู่ระหว่างเกาะสุมาตรา กับเกาะชวาของอินโดนีเซีย แล่นเข้าสู่ทะเลชวาในวันเดียวกัน

ตามกำหนดการเดิมนั้น เรือโรลด็อกสตาร์ กับเรือดำน้ำนครหายฝ่อง จะจอดทอดสมอที่บริเวณนอกอ่าวสิงคโปร์ในวันอาทิตย์ 25 ม.ค.นี้ ก่อนออกเดินทางต่อในวันรุ่งขึ้น ซึ่งจะทำให้ไปถึงปลายทางในวันที่ 28 แต่ทุกอย่างก็ได้เปลี่ยนไป เรือได้เปลี่ยนเส้นทางลงใต้ แล่นไกลออกไปอีกเป็นระยะทางหลายร้อยกิโลเมตร

นี่คือเส้นทางเดียวกันกับเรือโรลด็อกสตาร์เคยใช้ เมื่อนำเรือดำน้ำนครโฮจิมินห์ (HQ-183, Ho Chi Minh City) ไปยังอ่าวกามแรง (Cam Ranh) เดือน มี.ค.ปีที่แล้ว โดยมีคำอธิบายจากฝ่ายรัสเซีย ว่า เพื่อหลีกหนีความจอแจในบริเวณช่องแคบสุมาตรา ซึ่งทั้งเรือรบ เรือสำรวจ และเครื่องบิน กับอากาศยานต่างๆ ของหลายประเทศ กำลังช่วยกันออกค้นหาเครื่องบินโดยสารสายการบินมาเลเซียเที่ยวบิน MH370 ที่สูญหาย การค้นหาครอบคลุมเส้นทางเดินเรือสำคัญ ไปจนถึงบริเวณทะเลอันดามัน

ครั้งนั้นสื่อในเวียดนามออกรายงานอย่างสอดคล้องกันว่า การเปลี่ยนเส้นทางเป็นมาตรการหนึ่งในความพยายามรักษาความลับเกี่ยวกับเรือดำน้ำให้พ้นจากสายตาสอดแนมของ “ฝ่ายตรงข้าม”

ยังไม่มีคำอธิบายใดๆ เกี่ยวกับการเปลี่ยนเส้นทางลำเลียงขนส่งเรือดำน้ำลำที่ 3 ของเวียดนาม เรือโรลด็อกสตาร์ กับเรือนครหายฝ่อง ได้แล่นเข้าสู่บริเวณทะเลชวา (โปรดดูภาพที่ 3) ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทีมค้นหา และกู้ภัยเพิ่งจะนำชิ้นส่วนสำคัญของแอร์บัส A320 สายการบินแอร์เอเชีย ที่เกิดโศกนาฏกรรมขึ้นมาจากใต้ผืนน้ำได้สำเร็จ

แต่เมื่อพิจารณาจากแผนที่การเดินเรือในเว็บไซต์ Marinetraffic.Com ก็จะพบว่า ในช่วงวันศุกร์-วันเสาร์นี้ การสัญจรที่ช่องแคบมะละกาคับคั่งจอแจเป็นอย่างมาก (โปรดดูภาพที่ 3 และ 4) กล่าวคือ มีเรือสินค้ากับเรือบรรทุกน้ำมันดิบขนาดใหญ่ แล่นผ่านทั้งเข้า และออกรวมกันกว่า 1,600 ลำ และยังมีอีกกว่า 70 ลำ ที่แล่นผ่าน หรือเข้าสู่เข้าสู่ท่าเรือสิงคโปร์ เมื่อเทียบกับการสัญจรในช่องแคบซุนดาแล้ว จะเห็นว่า เบาบางกว่าอย่างเทียบกันไม่ได้

เพราะฉะนั้น ช่องแคบซุนดาก็อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่าในแง่ความปลอดภัยของเรือขนส่งลำเลียงขนาดใหญ่ และเรือดำน้ำ และหากย้อนกลับไปดูรายงานของสื่อในเวียดนามเมื่อเดือน ม.ค.2557 ช่องแคบในอินโดนีเซีย ก็เป็นเส้นทางปลอดภัยที่สุดในการหลบเลี่ยงการสอดแนมของ “ฝ่ายตรงข้าม”

สุดสัปดาห์นี้ เรือโรลด็อกสตาร์ กับเรือดำน้ำนครหายฝ่อง ที่อยู่ในทะเลชวากำลังเบนหัวขึ้นทางทิศเหนือ เข้าสู่ทะเลจีนใต้ บนเส้นทางมุ่งหน้าไปยังฐานทัพอ่าวกามแรง ในภาคกลางตอนล่างของเวียดนาม ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาอีก 2-3 วัน

ตามวิธีปฏิบัติก่อนหน้านี้ ทั้งเรือดำน้ำนครฮานอย และเรือดำน้ำนครโฮจิมินห์ จะจอดทอดสมอในน่านน้ำของเวียดนามเป็นเวลาประมาณอีก 1 สัปดาห์ เพื่อเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบความเรียบร้อย หลังการเดินทางยาวไกลกว่า 20,000 กิโลเมตร ก่อนจะแล่นเข้าสู่อ่าวยุทธศาสตร์ ใน จ.แค้งฮวา (Khanh Hoa) เข้ากระบวนการตรวจรับและส่งมอบ ซึ่งยังไม่ทราบกำหนดการในขณะนี้

เรือโรลด็อกสตาร์ ออกเดินทาง จากเมืองท่าคิลินินกราด (Kiliningrad) ริมฝั่งทะเลบัลติกของรัสเซียในสัปดาห์ต้นเดือน ธ.ค.2557 ผ่านคลองคีลในเยอรมนี-ช่องแคบอังกฤษ ก่อนจะเบนหัวลงทางทิศใต้ เลียบชายฝั่งทวีปยุโรป เพื่อไปอ้อมแหลมแอฟริกาใต้ โดยมีกำหนดจะแวะจอดที่เมืองท่าพอร์ตเอลิซาเบ็ธ (Port Elizabeth) ซึ่งอยู่ถัดจากเมืองเคปทาวน์ (Cape Town) ไปทางทิศตะวันออก อันเป็นด่านสุดท้ายในแอฟริกา (โปรดดูภาพที่ 5) ก่อนเข้าสู่มหาสมุทรอินเดีย โดยจะใช้เวลาประมาณ 45 วันในการเดินทางไปจนถึงจุดหมาย

อย่างไรก็ตาม Marinetraffic.Com แจ้งแต่เพียงว่า ก่อนหน้านั้นเรือได้แวะจอดที่หมู่เกาะคานารี (Canary Islands) ซึ่งเป็นเขตปกครองตนเองของประเทศสเปน แต่ไม่มีรายงานใดๆ เกี่ยวกับการแวะจอดที่พอร์ตเอลิซาเบ็ธ.
.
<bR><FONT color=#000033>ภาพขยายขึ้นมาให้เห็นเรือขนส่งลำเลียง นำเรือดำน้ำของเวียดนามเข้าสู่ทะเลชวา ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วทีมค้นหากู้ภัยเพิ่งจะนำชิ้นส่วนสำคัญของเครื่องบินโดยสารสายการบินแอร์เอเชีย ที่เกิดโศกนาฏกกรรม ขึ้นจากใต้ผืนน้ำได้สำเร็จ .. เรือจะเบนหัวขึ้นเหนือมุ่งไปยังทะเลจีนใต้ ซึ่งทำให้ระยะทางเพิ่มขึ้นอีกหลายร้อยกิโลเมตร จากเส้นทางเดิมที่จะผ่านช่องแคบสิงคโปร์ โดยยังไม่มีคำอธิบาย. </b>
2
<bR><FONT color=#000033>สัญลักษณ์แทนชนิดของเรือ.. สีเขียวเรือบรรทุกสินค้า สีแดงเรือบรรทุกน้ำมันดิบ ที่แล่นผ่านช่องแคบมะละกาในช่วงวันศุกร์-เสาร์ 23-24 ม.ค.นี้ ยังมีเรืออีกหลายชนิด/ประเภท แต่สัญลักษณ์เหล่านี้ ไม่ได้แทนจำนวนของเรือที่มีมากกว่า 1,800 ลำ ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุให้เรือโรลด็อกสตาร์ต้องเปลี่ยนเส้นทาง หันหัวลงใต้.. เดินทางไกลออกไปอีกหลายร้อยกิโลเมตร เพื่อไปอ้อมช่องแคบซุนดาไปยังเวียดนาม. </b>
3
 <bR><FONT color=#000033>·เว็บไซต์ Marinetraffic.Com แสดงให้เห็นจำนวนเรือกว่า 1,400 ลำ ในช่องแคบมะละกาช่วงวันศุกร์-เสาร 23-24 ม.ค.นี้ อีกกว่า 70 ลำ อยู่ในอ่าวสิงคโปร์ (สี่เหลี่ยมสีแดง) ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุให้เรือโรลด็อกสตาร์ต้องเปลี่ยนเส้นทาง หันหัวลงใต้.. เดินทางไกลออกไปอีกหลายร้อยกิโลเมตร เพื่อไปอ้อมช่องแคบซุนดา (สี่เหลี่ยมสีน้ำเงิน) ที่การจราจรโล่งกว่า ไปยังเวียดนาม. </b>
4
<bR><FONT color=#000033>เส้นประบนแผนที่ Google Earth Map จำลองเส้นทางกับจุดแวะพัก ระหว่างทางของเรือโรลด็อกสตาร์กับเรือดำน้ำเวียดนาม ซึ่งรวมทั้งการแวะจอดที่อ่าวสิงคโปร์สุดสัปดาห์นี้ แต่แผนการได้เปลี่ยนไปเกือบทั้งหมด.  </b>
5
กำลังโหลดความคิดเห็น