เอเอฟพี - นายกรัฐมนตรีเหวียน เติ๋น ยวุ๋ง ของเวียดนาม ยอมรับว่าเป็นไปไม่ได้ที่ทางการจะห้ามสื่อสังคมออนไลน์ในประเทศ และเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ใช้เว็บไซต์เหล่านี้ เช่นเฟซบุ๊กเป็นช่องทางในการสื่อสารข้อความของรัฐบาล
“พวกคุณทุกคนต่างก็ใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ ทุกคนมีเฟซบุ๊กในมือถือเพื่ออ่านข่าวสารต่างๆ ดังนั้น เราต้องทำให้ข้อมูลข่าวสารเหล่านั้นถูกต้อง เพราะเราไม่สามารถห้ามสื่อเหล่านี้ได้” หนังสือพิมพ์แถ่งเนียน รายงานคำกล่าวของนายกฯ ยวุ๋ง ที่กล่าวต่อเจ้าหน้าที่อาวุโสในการประชุมที่กรุงฮานอย
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการขยายตัวของผู้ใช้เฟซบุ๊กรวดเร็วมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และในตอนนี้ประชากรประมาณ 1 ใน 3 จากทั้งหมด 90 ล้านคน มีบัญชีอยู่บนเครือข่ายสังคมออนไลน์
นายกฯ ยวุ๋ง กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงจำเป็นต้องใช้สื่อสังคมออนไลน์เพื่อมีส่วนร่วมกับประชาชนให้มากขึ้น
“เราต้องเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องบนสื่อออนไลน์โดยทันที เพราะอะไรก็ตามที่อยู่บนโลกออนไลน์ ประชาชนจะเชื่อข้อมูลอย่างเป็นทางการของรัฐบาล” ผู้นำเวียดนาม กล่าว
พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามควบคุมหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ และสถานีโทรทัศน์ทุกช่อง ชาวเวียดนามจำนวนมากต้องการที่จะเข้าถึงข่าวสารจากบล็อก หรือสังคมออนไลน์ที่มีเนื้อหาโฆษณาชวนเชื่อน้อยกว่า แต่คุณภาพของบล็อก และสิ่งที่โพสต์อยู่บนสื่อสังคมออนไลน์นั้นก็ไม่คงเส้นคงวา
“ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องทำให้สังคมไขว้เขว” นายกฯ ยวุ๋ง กล่าวและว่า รัฐบาลจะสั่งการให้กระทรวงต่างๆ จัดการต่อข้อมูลที่ไม่ถูกต้องที่เผยแพร่อยู่บนโลกออนไลน์
องค์กรนักข่าวไร้พรมแดน ระบุว่า การล่วงละเมิด การจับกุม และการดำเนินคดีต่อนักเคลื่อนไหวบนโลกออนไลน์ยังคงเกิดขึ้นในเวียดนาม ที่บล็อกเกอร์จำนวนมากยังคงถูกควบคุมตัวในเรือนจำ.