ซินหวา - กอย เกือง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาระบุวันนี้ (30) ว่า การเปิดใช้ทางเข้าปราสาทพระวิหารจากฝั่งไทยนั้นไม่ใช่เรื่องจำเป็น นับตั้งแต่กัมพูชามีโครงสร้างพื้นฐานเพียงพอที่จะรองรับนักท่องเที่ยวไปยังมรดกโลกแห่งนี้
“ในความเห็นของผม เวลานี้นักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางเยือนปราสาทจากฝั่งเขมรเพราะมีถนนหนทางดี และโรงแรมตั้งอยู่โดยรอบ” กอย เกือง กล่าวต่อผู้สื่อข่าวหลังการหารือระหว่างฮอร์ นัมฮง รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา และ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของไทย
“ดังนั้นผมคิดว่าไม่จำเป็นที่จะให้นักท่องเที่ยวเข้าปราสาทจากฝั่งไทย”
ความคิดเห็นของโฆษกกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชามีขึ้นหลังสื่อไทยฉบับหนึ่งรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทย จะหารือกับนายกรัฐมนตรีฮุนเซน ถึงความเป็นไปได้ที่จะพัฒนาปราสาทพระวิหารเป็นปลายทางท่องเที่ยวร่วมกันระหว่างการเยือนกัมพูชาในวันที่ 30-31 ต.ค.
หลังข้อขัดแย้งพรมแดนระหว่างไทย และกัมพูชา ปะทุขึ้นในปี 2551 ที่เป็นผลให้เกิดเหตุปะทะรุนแรง ทางเข้าปราสาทจากฝั่งไทยถูกปิดลง
กัมพูชา และไทยยังไม่ได้แก้ไขปัญหาข้อขัดแย้งเกี่ยวกับพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตรที่อยู่ถัดจากปราสาทพระวิหาร
ศาลโลกได้มีคำตัดสินเมื่อเดือน พ.ย.2556 ว่า กัมพูชานั้นมีอำนาจอธิปไตยเหนือดินแดนทั้งหมดของชะง่อนผา (promontory) ปราสาทพระวิหาร และไทยอยู่ภายใต้ข้อผูกพันที่จะต้องถอนกองกำลังติดอาวุธออกจากพื้นที่ดังกล่าว และจนถึงตอนนี้ทั้งสองประเทศยังไม่ได้หารือเกี่ยวกับการดำเนินการตามคำสั่งศาล.