จับตา “คัลแมกี” นางนวลเกาหลีแดง ไต้ฝุ่นลูกใหญ่ไทยเหนือ-อีสานมีสิทธิเจอหางเลข

ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ในประเทศไทย วันเสาร์ 13 ก.ย.นี้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ได้แสดงความห่วงใยต่อพายุลูกใหม่ที่คาดว่าจะพัดผ่านทางตอนเหนือของไทยในปลายสัปดาห์หน้า ส่วนศูนย์พยากรณ์อากาศของเวียดนามกำลังจับตาพัฒนาการของมันอย่างใกล้ชิด ในขณะที่ฟิลิปปินส์ สั่งทุกฝ่ายรับมือไต้ฝุ่นลูกใหญ่ ที่จะพัดถล่มเกาะเหนือตอนค่ำวันอาทิตย์ 14 ก.ย.นี้

คัลแมกี (Kalmaegi) ไต้ฝุ้นชื่อเกาหลีแดง ที่มีความหมายว่า “นกนางนวล” ก่อตัวเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำในทะเลแปซิฟิกตะวันตกเมื่อ 4 วันก่อน เพียงไม่นานได้ทวีความแรงขึ้นเป็นระดับพายุโซนร้อน และเป็นไต้ฝุ่นระดับ 1 เต็มตัวในสุดสัปดาห์นี้ ศูนย์อุตุนิยมวิทยาหลายแห่งในย่านนี้คาดตรงกันว่า คัลแมกี กำลังจะไต่ขึ้นเป็นไต้ฝุ่นระดับ 2 หรือ 3 ในไม่ช้า

ศูนย์อุตุนิยมวิทยาและอุทกศาสตร์กลางในกรุงฮานอย ได้ออกแผนภูมิพยากรณ์ในวันเสาร์นี้ แสดงให้เห็นไต้ฝุ่นลูกใหญ่ เคลื่อนเข้าสู่ทะเลจีนใต้ในอีก 2 วันข้างหน้า และจะพัดผ่านใจกลางเกาะไหลหลำ เคลื่อนตัวต่อไปในแนวตะวันตก-ตะวันตกเฉียงใต้ โดยเพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อยๆ ตลอดช่วงวันดังกล่าว

ร่วมเตือนภัยไต้ฝุ่น (Joint Typhoon Warning Center) ซึ่งเป็นหน่วยงานของกองทัพเรือสหรัฐฯ ในมลรัฐฮาวาย ได้ออกแผนภูมิพยากรณ์อากาศในวันยเสาร์นี้ แสดงให้เห็นไต้ฝุ่นลูกมหึมา เคลื่อนตัวเป็นแนวตรงข้ามทะเลจีนใต้พัดเข้าภาคเหนือเวียดนาม ภาคเหนือลาวในสัปดาห์หน้า ก่อนจะไปมลายลงทางตอนเหนือของพม่า ซึ่งถ้าหากเป็นเช่นนั้น คัลแมกีก็จะกลายเป็นไต้ฝุ่นอีกลูกหนึ่งที่มีเส้นทางเคลื่อนตัวยาวไกลที่สุดในช่วงหลายปีมานี้

แผนภูมิพยากรณ์ของฝ่ายสหรัฐฯ แสดงให้เห็นพื้นที่ที่กำลังจะตกอยู่ไต้อิทธิพลของไต้ฝุ่นลูกใหญ่ ซึ่งรวมถึงภาคกลาง-ภาคเหนือของลาว ภาคเหนือกับภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยด้วย ทั่วอาณาบริเวณอันกว้างขวางในอนุภูมิภาคแม่น้ำโขงที่กล่าวมานี้ จะได้รับผลกระทบในช่วงวันที่ 17-18 ก.ย. เมื่อไต้ฝุ่นคัลแมกี อ่อนตัวลงเป็นระดับพายุโซนร้อน และดีเปรสชันตามลำดับ ซึ่งหมายความว่า กำลังจะเกิดฝนตก ตั้งแต่ปานกลาง จนถึงตกหนักมาก กินบริเวณกว้างในช่วงนั้น

ไม่ต้องรอให้หน่วยอุตุนิยมแห่งใดออกแถลงก็คงคาดเดาได้อย่างไม่ยากเย็น เพราะว่าถ้าหากทุกอย่างเป็นไปตามที่คาดในสุดสัปดาห์นี้ สัปดาห์ข้างหน้าปัญหาน้ำท่วมที่กำลังเกิดขึ้นทั่วไปในแถบลุ่มแม่น้ำโขง และแม่น้ำเจ้าพระยา ทั้งตอนบน และตอนล่าง ทั้งในลาวและไทย จะได้รับแรงกดดันมหาศาลจากฝนตกหนักในช่วงปลายสัปดาห์นี้ อันเป็นอิทธิพลของไต้ฝุ่นคัลแมกี ตรงกับความห่วงใยของรัฐมนตรีมหาดไทยของไทย ซึ่งร่วมคณะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่กลุ่มลุ่มน้ำเจ้าพระยา-ท่าจีน และติดตามการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในวันเสาร์นี้
.

2

3
พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ปริมาณน้ำไม่มากเหมือนปี 2554 และเกรงอาจจะเกิดภัยแล้ง ซึ่งจังหวัดในพื้นที่ภาคกลาง ได้เตรียมความพร้อม หากเกิดเหตุฉุกเฉิน จะมีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง และเจ้าหน้าที่ทหารคอยช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ

แต่ในขณะเดียวกัน การพยากรณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา ที่เตือนว่า ในช่วงวันที่ 17-18 ก.ย.นี้ จะมีพายุลูกใหม่เข้ามา ซึ่งต้องติดตามอย่างใกล้ชิด พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว

สำหรับเวียดนาม ด่านแรกของพายุทุกลูกที่พัดเข้าสู่แผ่นดินใหญ่อนุภูมิภาคแม่น้ำโขง ศูนย์อุตุนิยมวิทยาฯ ในกรุงฮานอย กล่าวว่า ในระยะ 24-48 ชั่วโมงข้างหน้านี้ ขณะอยู่ในทะเลจีนใต้ คัลแมกี อาจจะทวีความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางขึ้นสูง 134-166 กม./ชม. คือ เป็นไต้ฝุ่นระดับ 1-2 ขณะเคลื่อนตัวเร็วขึ้นเป็นประมาณ 25 กม./ชม. ซึ่งสภาพการณ์เช่นนี้จะทำให้ท้องทะเลปั่นป่วนไปทั่ว

สำหรับระยะ 48-72 ชั่วโมงข้างหน้า คือ วันอังคาร-วันพุธ สัปดาห์หน้านี้ ไต้ฝุ่นคัลแมกีจะยังเคลื่อนตัวในแนวตะวันตก ค่อนไปทางตะวันตกเฉียงเหนือต่อไป และจะเคลื่อนที่เร็วขึ้นอีก เป็น 25-30 กม./ชม. ศูนย์อุตุนิยมวิทยาและอุทกศาสตร์กลางเวียดนาม ได้ออกแนะนำให้ทางการท้องถิ่นต่างๆ เหนือจดใต้ ชาวเรือ ตลอดจนประชาชนทั่วไป ติดตามข่าวพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด.