xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กเจี๊ยบ” รมว.ต่างประเทศรุดเยือนเขมรแห่งแรก “เตียบัญ” ลั่นไม่กังวลชายแดนอีกต่อไป

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<br><FONT color=#000033>พล.อ.เตีย บัญ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมกัมพูชา (ขวา) สัมผัสมือกับพล.อ.ธนะศักดิ์ ประฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของไทย ระหว่างพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการที่กระทรวงกลาโหมกัมพูชา ในกรุงพนมเปญ วันที่ 1 ก.ย.--Reuters/Samrang Pring.</font></b>

ซินหวา - พล.อ.เตีย บัญ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของกัมพูชา ได้พบหารือกับ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของไทย ในวันนี้ (1) เพื่อพูดคุยถึงความร่วมมือ และกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีให้แน่นแฟ้น

“เราเห็นชอบที่จะเพิ่มความร่วมมือในด้านเศรษฐกิจ และการค้า และให้คำมั่นว่าจะร่วมกันเสริมความมั่นคง และจัดการกับอาชญากรรมข้ามชาติ” พล.อ.เตีย บัญ กล่าวต่อผู้สื่อข่าวหลังการหารือนานหนึ่งชั่วโมง

พล.อ.เตีย บัญ กล่าวว่า ฝ่ายกัมพูชายังได้ร้องขอให้ฝ่ายไทยดูแลแรงงานชาวกัมพูชาที่ทำงานในไทย และ พล.อ.ธนะศักดิ์ ตอบรับคำร้องขอ และให้คำมั่นที่จะปรับปรุงสิทธิของแรงงานต่างด้าวในประเทศ

กัมพูชา และไทยยังไม่ได้แก้ปัญหาข้อขัดแย้งเกี่ยกวับพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร ถัดจากปราสาทพระวิหาร ที่ศาลโลกมีคำสั่งในเดือน พ.ย. ว่า กัมพูชามีสิทธิอธิปไตยเหนือพื้นที่ชะง่อนผาที่ปราสาทพระวิหารตั้งอยู่ และมีคำสั่งให้ไทยถอนกำลังทหารออกจากดินแดนดังกล่าว

และจนถึงตอนนี้ สองประเทศยังไม่ได้เริ่มการเจรจาเกี่ยวกับการดำเนินการตามคำตัดสินของศาลโลก

อย่างไรก็ตาม พล.อ.เตีย บัญ กล่าวว่า ประเด็นพรมแดนระหว่างสองประเทศไม่ใช่เรื่องน่ากังวลอีกต่อไป

ในการเยือนกัมพูชา ของฝ่ายไทยในครั้งนี้ นอกจาก พล.อ.ธนะศักดิ์ แล้ว ยังมีคณะรัฐมนตรีอื่นๆ ร่วมเดินทางมาด้วย คือ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยกระทรวงกลาโหม พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด และเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงอีกจำนวนหนึ่ง เพื่อกระชับความสัมพันธ์ และความร่วมมือ และเข้าพบ นายกรัฐมนตรีฮุนเซน ในวันเดียวกัน.
<br><FONT color=#000033>นายกรัฐมนตรีฮุนเซนของกัมพูชา (ขวา) พูดคุยกับพล.อ.ธนะศักดิ์ ประฏิมาประกร  ในระหว่างการหารือที่สำนักนายกรัฐมนตรี ในกรุงพนมเปญ.--Reuters/Samrang Pring.</font></b>
กำลังโหลดความคิดเห็น