ASTVผู้จัดการออนไลน์ - กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนาม ได้ประกาศยกเลิกโครงการก่อสร้างเขื่อนผลิตไฟฟ้าอีก 12 แห่ง โดยระบุว่า ไม่คุ้มค่าในทางเศรษฐกิจ และ “มีความเสี่ยงทางด้านสังคมกับสิ่งแวดล้อมสูง” เขื่อนที่ถูกยกเลิกมีทั้งที่อยู่ในภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ของประเทศ ทำให้จำนวนโครงการที่ถูกยกเลิกเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 430 แห่งในขณะนี้
การมีเขื่อนเพิ่มขึ้นอย่างมากมายในช่วง 10 ปีมานี้ ได้ทำให้เกิดปัญหาหนักหน่วงในหลายด้าน รวมทั้งการเกิดอุทกภัยถี่ยิบ เขื่อนแตก เขื่อนพังทลายทำให้เกิดแผ่นดินไหว และแผ่นดินเลื่อน รวมทั้งเป็นตัวการหลักทำลายป่าไม้ ทำลายสภาพแวดล้อม หนังสือพิมพ์แถ่งเนียนรายงานในเว็บไซต์ข่าวภาษาเวียดนามสัปดาห์นี้
ทั้ง 12 โครงการที่ถูกสั่งยกเลิกอยู่ในความดูแลรับผิดชอบของกระทรวงอุตสาหกรรมฯ มีทั้งเขื่อนผลิตไฟฟ้าขนาดเล็ก และขนาดกลาง ทั้งใน จ.เดียนเบียน ทางตอนเหนือสุดของประเทศ จ.กว๋างหงาย ในภาคกลาง และ จ.กงตูม ในเขตที่ราบสูงภาคกลาง แถ่งเนียนอ้างการเปิดเผยของ นายดั่งฮวีเกือง (Dang Huy Cuong) หัวหน้ากรมใหญ่พลังงาน ซึ่งกล่าวด้วยว่า จนถึงปัจจุบันทางการได้ยกเลิกโครงการเขื่อนไปแล้วทั้งหมด 415 แแห่ง ส่วนใหญ่เป็นเขื่อนผลิตไฟฟ้าขนาดเล็ก และเกือบทั้หมดเป็นของนักลงทุนเอกชนที่ “มีความรู้ไม่มากเกี่ยวกับประเด็นปัญหาต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง” หลายรายว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาอย่างรีบเร่ง รวมทั้งจ้างบริษัทก่อสร้างที่ขีดความสามารถไม่เพียงพอในการดำเนินโครงการ บางโครงการฉวยโอกาสเปลี่ยนรายละเอียด หรือดัดแปลงแก้ไขโดยพลการ มิได้ขออนุญาต นายเกือง กล่าวกับแถ่งเนียน
นายเหวียนซวนเตี่ยน (Nguyen Xuan Tien) ประธานคณะกรรมการประชาชน (ผู้ว่าราชการจังหวัด) จ.เลิมโด่ง (Lam Dong) กล่าวว่า หลายท้องถิ่นถางป่าจนเตียนเพื่อก่อสร้างเขื่อนขนาดเล็กที่ไม่มีประสิทธิภาพ ไม่คุ้มค่าทางเศรษฐกิจ การจ่ายเงินชดเชยแก่ราษฎรที่ต้องสูญเสียที่ดินทำกิน บ้านเรือนถูกน้ำท่วมดำเนินไปอย่างล่าช้า อันเนื่องมาจากความไม่พร้อมทางด้านการเงินของผู้ลงทุน
ดร.ด่างจ่องม์ตือ (Dao Trong Tu) ที่ปรึกษาองค์การเวียดนามริเวอร์เน็ตเวิร์ก (Vietnam River Network) กล่าวว่า ประเทศนี้มีเขื่อนมากเกินไป ซึ่งเรื่องนี้เพิ่งจะเริ่มขึ้นเมื่อประมาณ 10 ปีที่ผ่านมา นักลงทุนจำนวนไม่น้อยที่ไม่ได้มีความรู้อะไรมากนักเกี่ยวกับเขื่อน ต่างเสนอตัวเข้าลงทุนก่อโดยหวังผลกำไรที่อยู่ในระดับสูง ปัจจุบัน เวียดนามมีเขื่อนขนาดต่างๆ รวม 284 แห่ง มีกำลังผลิตไฟฟ้ารวมกัน 14,678 เมกะวัตต์ เขื่อนต่างๆ เหล่านี้ผลิตไฟฟ้าได้ราว 40% ของกระแสไฟฟ้าทั้งหมด
เวียดนาม ประสบปัญหาขาดแคลนพลังงานไฟฟ้าในขั้นวิกฤตติดต่อกันเป็นเวลานานนับสิบปีในขณะที่การพัฒนาเศรษฐกิจขยายตัวอย่างรวดเร็ว และในอัตราสูง ทำให้ต้องหมุนเวียนดับไฟในเมืองใหญ่ๆ ตลอดมา รวมทั้งในนครโฮจิมินห์ และกรุงฮานอยด้วย อย่างไรก็ตาม รัฐวิสาหกิจการไฟฟ้าเวียดนามประกาศเมื่อต้นปีนี้ว่า 2557 เป็นปีแรกที่สามารถผลิตไฟฟ้าได้เกินความต้องการ ซึ่งเรื่องนี้เกิดขึ้นหลังจาก เขื่อนเซินลา (Son La) ในภาคเหนือ ซึ่งเป็นเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ปัจจุบัน เปิดเดินเครื่องปั่นไฟครบทั้ง 6 หน่วย และมีโรงไฟฟ้าที่ใช้พลังความร้อนจากก๊าซธรรมชาติผุดขึ้นมานับสิบแห่ง
ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ได้เกิดแผ่นดินไหว และแผ่นดินเลื่อนขนาดย่อมๆ หลายครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคกลางของประเทศ ที่มีเขื่อนผลิตไฟฟ้ามากที่สุด นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า อ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนเป็นต้นเหตุเรื่องนี้
วันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา หลังจากเกิดฝนตกหนักติดต่อกันเป็นเวลาหลายวัน เขื่อนอีกแห่งหนึ่งใน จ.ซยาลาย (Gia Lai) ในเขตที่ราบสูงภาคกลาง ได้เกิดพังทลายทำให้น้ำไหลบ่าเข้าท่วมหมู่บ้านหลายแห่งที่อยู่ใต้ลงไปตามทางน้ำ น้ำทำลายพื้นที่การเกษตราเสียหายอย่างหนัก สัตว์เลี้ยงของราษฎรล้มตายไปจำนวนมาก เคราะห์ดีที่ไม่มีผู้ใดเสียชีวิต แต่ก็ไม่ใช่ครั้งแรก เพราะว่าเดือน มี.ค.กับ มิ.ย.ปีที่แล้ว เขื่อนขนาดเล็ก 2 แห่งในจังหวัดเดียวกันนี้ ได้พังทลายลงแบบเดียวกัน อันเนื่องมาจากการก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน ทั้ง 2 แห่งเป็นของนักลงทุนจีน โดยบริษัทก่อสร้างจากจีน สื่อของทางการเวียดนามกล่าว.
.
ตัวทำลาย? ซเวินเหวียดออนไลน์
ภาพเหตุการณ์เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.2556 เมื่อเขื่อนดั๊กรง (Dak Rong) เขื่อนผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กในท้องที่ห่างไกลของ จ.ซยาลาย (Gia Lai) ในเขตที่ราบสูงภาคกลางใกล้กับชายแดนลาว เกิดพังทลายเนื่องจากเก็บกักน้ำมากเกินไป และเชื่อกันว่า เขื่อนของนักลงทุนจีนแห่งนี้ก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน หนังสือพิมพ์ออนไลน์ภาษาเวียดนามกล่าวว่า อาณาบริเวณนี้เคยเป็นป่าต้นน้ำที่สมบูรณ์มาก่อน แต่ต้องตัดต้นไม้หมดทั้งป่าเพื่อสร้างเขื่อนที่ประสิทธิภาพต่ำๆ แห่งนี้. |
2
3
4
5
6
7