ดูคลิปนี้.. วางยา-ลักหลับ ภัยใกล้ตัวคุณสาวๆ

ASTVผู้จัดการออนไลน์ - คลิปชิ้นหนึ่งที่แสดงให้เห็นชายหนุ่มล่วงเกินหญิงสาวที่อยู่ในอาการสะลึมสะลือคล้ายกับเมายากำลังแพร่สะพัดในประชาคมออนไลน์เวียดนามสัปดาห์นี้ โดยไม่มีผู้ใดทราบต้นตอที่มาที่ไป แต่หลายคนปักใจเชื่อว่า มีผู้ที่เกี่ยวข้องในศาล หรือในกรมใหญ่ตำรวจตั้งใจ “รั่ว” ออกมา เพื่อให้เผยแพร่เตือนใจให้บรรดาคุณผู้หญิงตระหนักถึงภัยใกล้ตัวอีกแบบหนึ่งคือ การ “วางยา-ลักหลับ” โดยบุคคลที่ใกล้ชิดรู้จักกัน หรือกระทั่งคนที่ไว้วางใจมากที่สุด

ตามรายงานของโด่ยโสงฟ๊าบหลวต หนังสือพิมพ์ออนไลน์ “ข่าวกฎหมายกับชีวิตประจำวัน” คลิปที่ถ่ายด้วยโทรศัพท์มือโดยบุคคลที่สาม แสดงให้เห็นหญิงสาวที่เป็นคนงานโรงงานแห่งหนึ่งใน จ.บั๊กนีง ทางทิศตะวันออกกรุงฮานอย อยู่ในอาการเคลิ้มหลับจนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ โดยมีเพื่อนชายประคองอยู่ใกล้ๆ เนื่องจากเธอถูกวางยานอนหลับชนิดแรงผสมกับสารชนิดหนึ่งที่เรียกว่า “ยาเสียสาว”

วิดีโอคลิปต้นฉบับมีความยาวถึง 10 นาที แต่ถูกตัดออกในวินาทีที่ฝ่ายชายเริ่มทำการล่วงเกินหญิงสาวที่ไม่ได้สติ ..

หนังสือพิมพ์ออนไลน์ฉบับนี้กล่าวว่า เหตุเกิดปลายปีที่แล้วและครอบครัวของผู้เสียหายเข้าแจ้งความหลังจากลูกสาวยอมบอกเล่าเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นจากน้ำมือของแฟนหนุ่มที่บ้านของเขาเอง เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าตรวจค้นบ้านพักของชายหนุ่มในเวลาต่อมาได้พบวิดีโอคลิปชิ้นนี้ในฮาร์ดดิสก์คอมพิวเตอร์ และในปัจจุบัน คดีได้ถึงที่สุดแล้ว โดยศาลประชาชน จ.บั๊กนีง ได้ตัดสินลงโทษจำคุกชายที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ทั้ง 2 คน คนละ 5 ปี

“เพื่อป้องกันเหตุการณ์เช่นนี้ กฎข้อแรกสุดก็คือ อย่าอยู่กันลำพังสองต่อสอง หรืออยู่ในที่ลับตาคน” โด่ยโสงฟ๊าบหลวตกล่าว

“เมื่อจำเป็นจะต้องดื่มร่วมกับผู้อื่นพึงระวังไว้เสมอ.. อย่าดื่มจากขวดที่เปิดฝาแล้วโดยที่คุณไม่ได้เห็น.. อย่าดื่มจากแก้วที่คนอื่นยื่นให้โดยที่คุณไม่ทราบที่มาของเครื่องดื่ม อย่าดื่มเมื่อถูกผู้อื่นคะยั้นคะยอให้ดื่ม และพึงระวังการสับเปลี่ยนแก้วเครื่องดื่ม ถ้วยหรือภาชนะบรรจุในยามที่คุณเผลอ” หนังสือพิมพ์ออนไลน์ยอดนิยมกล่าว
........
.

.
ท่ามกลางการพัฒนาอย่างรวดเร็วด้วยแรงหนุนของระบบเศรษฐกิจแบบตลาด คอมมิวนิสต์เวียดนามกำลังเผชิญกับอาชญากรรมทางเพศอย่างหนักหนาสาหัสในช่วงปีสองปีให้หลังนี้ เหตุการณ์พ่อข่มขืนลูกสาว ชายหนุ่มข่มขืนแฟนสาว ฆาตกรดักทำร้าย และข่มขืน หรือข่มขืนแล้วฆ่า ฯลฯ เรื่องเช่นนี้ตกเป็นข่าวผ่านสื่อของทางการอย่างหนาตา หลายกรณีถูกนำขึ้นไต่สวนในชั้นศาล บางกรณีผู้กระทำความผิดถูกศาลตัดสินประหารชีวิต

“แต่เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นกับใครก็ถือว่าไม่คุ้ม แม้ว่าผู้กระทำผิดจะถูกลงโทษไปแล้วก็ตาม ควรระวังโดยการป้องกันดีที่สุด” โด่ยโสงฟ๊าบหลวตกล่าว.