ASTVผู้จัดการออนไลน์ - กลุ่มอาเซียนเฝ้าติดตามสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศไทยอย่างใกล้ชิด นับตั้งแต่กองทัพทำรัฐประหารยึดอำนาจในวันที่ 22 พ.ค. แต่จะไม่มีการหารือเรื่องนี้ระหว่างประเทศสมาชิก และพม่าซึ่งทำหน้าที่เป็นประเทศประธานของกลุ่มก็จะไม่วิจารณ์ใดๆ โดยจะยึดจุดยืนที่สอดคล้องกับคำแถลงร่วมเกี่ยวกับประเทศไทยระหว่างการประชุมผู้นำของกลุ่มครั้งวันที่ 11 พ.ค.ปีนี้
สื่อในพม่ารายงานเรื่องนี้โดยอ้างการสัมภาษณ์นายเยถุด (Ye Htut) ซึ่งทำหน้าที่โฆษกกิจการอาเซียนของรัฐบาลพม่า ในขณะที่มีเสียงวิจารณ์ว่า ประเทศผู้นำกลุ่มไม่สามารถตัดสินใจทำอะไรได้ทั้งเกี่ยวกับสถานการณ์ในไทย และความตึงเครียดในทะเลจีนใต้
ที่ผ่านมา ทั้งชาติพันธมิตร และประเทศคู่ค้ากับไทยซึ่งรวมทั้งสหรัฐฯ และญี่ปุ่น ต่างออกมาแสดงความห่วงใยอย่างลึกซึ้ง และเรียกร้องให้กลับคืนสู่การปกครองโดยระบอบประชาธิปไตยโดยเร็ว รวมทั้งได้ออกคำเตือนเกี่ยวกับการเดินทางเข้าไทยด้วย ขณะที่โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน กล่าวว่าแต่เพียงว่า ไทยควรจะกลับคืนสู่ความปกติทางการเมืองโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
มาเลเซีย กับฮ่องกง ได้ออกเตือนพลเมืองของตนไม่ควรเดินทางไปยังประเทศไทย ขณะที่ออสเตรเลีย เฝ้าจับตามองสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และระบุว่า “อยู่ในขั้นวิกฤต” พร้อมกับแนะนำให้ประชาชนที่จะเดินทางไปไทยจงระมัดระวัง
อย่างไรก็ตาม พม่าเชื่อว่าสถานการณ์ในประเทศไทยจะไม่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวของตน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นักท่องเที่ยวชาวไทยที่เดินทางไปเที่ยวพม่า ซึ่งส่วนใหญ่เดินทางผ่านท่าอากาศยานนครย่างกุ้ง แต่ขณะเดียวกัน ที่เดินทางเข้าประเทศโดยผ่านสนามบินมัณฑะเลย์ ก็มีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หนังสือพิมพ์อีเลฟเว่นนิวส์รายงาน
“แม้จำนวนนักท่องเที่ยวชาวไทยจะลดลงเมื่อเร็วๆ นี้ แต่ก็เป็นเรื่องปกติ จำนวนนักท่องเที่ยวจะไม่ลดลงเนื่องจากสถานการณ์นี้ เมื่อผมถามชาวไทยก็ได้รับคำตอบว่าพวกเขาคุ้นเสียแล้ว” นายสายซายหโล (Sai Saing Hloe) มัคคุเทศก์ของนักท่องเที่ยวชาวไทยกล่าวถึงการรัฐประหาร
ปัจจุบัน นับเป็นช่วงโลว์ซีซันสำหรับการท่องเที่ยวพม่า การที่นักท่องเที่ยวชาวไทยมีจำนวนลดลงนั้นเป็นเรื่องปกติ หนังสือพิมพ์ฉบับเดียวกันกล่าว.
.