xs
xsm
sm
md
lg

เวียดนามประท้วงแท่นขุดน้ำมันจีน รัฐบาลไฟเขียว “สื่อ” เสนอข่าวใกล้ชิด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<br><FONT color=#000033>ชาวเวียดนามโบกธงชาติพร้อมร้องตะโกนคำปลุกใจที่บริเวณหน้าสถานทูตจีนในกรุงฮานอย วันที่ 11 พ.ค. ระหว่างชุนนุมประท้วงต่อต้านจีน จากกรณีที่จีนเคลื่อนย้ายแท่นขุดเจาะน้ำมันเข้าไปติดตั้งในน่านน้ำพิพาท.-- Agence France-Presse/Mai Ky.</font></b>

เอเจนซีส์ - ชาวเวียดนามรวมตัวประท้วงจีนครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 3 ปี ในวันนี้ (11) จากความไม่พอใจที่จีนเข้าไปตั้งแท่นขุดเจาะน้ำมันในน่านน้ำที่พิพาทกันอยู่ ขณะที่ทางการฮานอย ดูเหมือนจงใจไม่ปฏิบัติตามธรรมเนียมที่เคยเป็นมา โดยปล่อยให้ประชาชนก่อม็อบ พร้อมไฟเขียวให้สื่อรายงานสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิด

ผู้ชุมนุมราว 1,000 คน ซึ่งมีทั้งทหารผ่านศึก และนักศึกษา ชูป้ายข้อความต่อต้านจีน เป็นต้นว่า “จีนปล้นน้ำมันของเรา” และร้องเพลงปลุกใจในบริเวณสวนสาธารณะซึ่งอยู่ตรงข้ามสถานทูตจีนในกรุงฮานอย

ทหารผ่านศึกวัย 74 ปี คนหนึ่งกล่าวว่า นี่เป็นการประท้วงต่อต้านจีนครั้งใหญ่ที่สุดที่เกิดขึ้นในเมืองหลวงเท่าที่เขาเคยเห็นมาก่อน

“ความอดทนของเรามีขีดจำกัด เรามาที่นี่เพื่อแสดงเจตจำนงของประชาชนเวียดนามในการปกป้องอธิปไตยของเรา ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม เราพร้อมตายเพื่อปกป้องประเทศ”

การชุมนุมครั้งนี้นับเป็นครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่ปี 2554 เมื่อเรือของจีนเข้าตัดสายเคเบิลที่ใช้สำหรับการสำรวจแหล่งน้ำมันโดยวิธีวัดคลื่นไหวสะเทือนของเรือฝ่ายเวียดนาม ในคราวนั้น ทางการเวียดนามปล่อยให้มีการประท้วงอยู่หลายสัปดาห์ก่อนสลายการชุมนุมเนื่องจากมีการขยายผลสร้างกระแสต่อต้านรัฐบาล

สำหรับครั้งนี้ ตำรวจทั้งใน และนอกเครื่องแบบตั้งด่านสกัดป้องกันไม่ให้ผู้ประท้วงเข้าสู่สถานทูตจีน แต่ไม่ได้สลายการชุมนุม แม้ปกติแล้วรัฐบาลคอมมิวนิสต์จะควบคุมการชุมนุมของประชาชนอย่างเข้มงวดเพื่อสกัดกระแสประท้วงต่อต้านรัฐบาลก็ตาม
<br><FONT color=#000033>กลุ่มผู้ชุมนุมเดินขบวนพร้อมร้องตะโกนต่อต้านจีนที่ด้านหน้าสถานทูตจีนในกรุงฮานอย การชุมนุมครั้งนี้ถือว่าเป็นการชุมนุมประท้วงต่อต้านจีนครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 3 ปี.-- Agence France-Presse/Mai Ky.</font></b>
<br><FONT color=#000033>ผู้ชุมนุมรวมตัวประท้วงต่อต้านจีนที่ด้านหน้าโรงละคร ในนครโฮจิมินห์ นอกจากการชุมนุมประท้วงต่อต้านจีนที่กรุงฮานอย เมืองหลวงของประเทศแล้ว ยังมีการชุมนุมเกิดขึ้นที่นครด่าหนัง และนครโฮจิมินห์ด้วยเช่นกัน.-- Agence France-Presse/Mai Ky.</font></b>
จีนและเวียดนามมีกรณีพิพาทช่วงชิงดินแดนหมู่เกาะพาราเซล และหมู่เกาะสแปร็ตลีย์ ในทะเลจีนใต้มายาวนาน เคยถึงขั้นปะทะสู้รบกันด้วยกำลังอาวุธ ถึงแม้ในปีหลังๆ มานี้ มีเพียงแค่การปะทะคารมทางการทูตเกี่ยวกับสิทธิในการสำรวจน้ำมัน และการทำประมงในน่านน้ำดังกล่าวเป็นระยะๆ

ความตึงเครียดระหว่างประเทศเพื่อนบ้านที่ปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์คู่นี้ ได้พุ่งขึ้นรุนแรงอีกครั้ง หลังจากตอนต้นเดือนพฤษภาคม จีนเคลื่อนย้ายแท่นขุดเจาะน้ำมันขนาดยักษ์ ไปติดตั้งในน่านน้ำใกล้กับหมู่เกาะพาราเซลที่แย่งชิงกรรมสิทธิ์กัน

เวียดนามได้ออกคำแถลงตอบโต้ทันควันว่า การตัดสินใจของจีน “ผิดกฎหมาย” พร้อมส่งกองเรือตรวจการณ์จำนวนหลายสิบลำไปยังบริเวณดังกล่าว แต่ไม่สามารถฝ่าด่านกองเรือคุ้มกันของจีนซึ่งมีจำนวนมากกว่าเข้าไปได้

ถึงแม้ทั้งสองฝ่ายต่างยืนยันว่า เรือที่ส่งไปในพื้นที่ดังกล่าวไม่มีเรือของฝ่ายทหารรวมอยู่ด้วยเลย โดยมีแต่เรือของหน่วยงานพลเรือน เช่น หน่วยยามฝั่ง เท่านั้น แต่ต่างฝ่ายต่างก็กล่าวหากันว่า เรือของอีกฝ่ายหนึ่งได้พุ่งชนกระแทกใส่เรือของฝ่ายตนในลักษณะ “ยั่วยุ” ครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้สถานการณ์อยู่ในภาวะตึงเครียด

ทางด้านญี่ปุ่น และสหรัฐฯ ได้ออกมาแสดงความกังวลต่อสถานการณ์นี้ พร้อมระบุกล่าวโทษจีนว่ากำลังกระทำการในลักษณะ “ยั่วยุ” ขณะที่การประชุมระดับรัฐมนตรีต่างประเทศของอาเซียนในวันเสาร์ (10) ได้ออกคำแถลงแสดงความกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องใช้ความอดทนอดกลั้น

ที่ผ่านมา ทางการเวียดนามเคยยอมให้มีการชุมนุมประท้วงจีนบ้าง แต่บ่อยครั้งที่สลายการชุมนุมด้วยความรุนแรง และเข้าจับกุมแกนนำรวมแล้วหลายสิบคน ซึ่งเป็นพวกที่รณรงค์เรียกร้องเสรีภาพทางการเมือง และสิทธิมนุษยชนพร้อมกันไปด้วย

อย่างไรก็ตาม ในการชุมนุมวันนี้ (11) ทางการเวียดนามไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นใดๆ รวมทั้งไม่มีคำสั่งสลายการชุมนุม ซ้ำยังมีกลุ่มที่เห็นชัดว่าเป็นพวกสนับสนุนรัฐบาลปะปนอยู่ในหมู่ผู้ประท้วงด้วย ซึ่งอาจตีความได้ว่า รัฐบาลเวียดนามต้องการแสดงความไม่พอใจต่อจีนผ่านการประท้วงของประชาชน

นอกจากที่บริเวณหน้าสถานทูตจีนในกรุงฮานอยแล้ว ยังมีการชุมนุมต่อต้านจีนที่นครด่าหนัง ทางตอนกลางของเวียดนาม และที่นครโฮจิมินห์ ทางภาคใต้ของประเทศ

ขณะเดียวกัน สื่อของรัฐที่ถูกควบคุมอย่างเข้มงวดได้รายงานข่าวกรณีพิพาทแท่นขุดเจาะน้ำมันอย่างใกล้ชิด รวมทั้งรายงานข่าวการชุมนุมประท้วงครั้งนี้อย่างกระตือรือร้น ผิดกับในอดีตซึ่งผู้สื่อข่าวที่ทำข่าวการประท้วงจะถูกเลือกปฏิบัติ และบางครั้งถึงขั้นถูกทำร้าย.
<br><FONT color=#000033>ผู้ประท้วงต่อต้านจีนชูป้ายประท้วงอยู่หน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ยืนตั้งแถวกั้นถนนที่มุ่งหน้าที่ยังสถานกงสุลจีน ในนครโฮจิมินห์.-- Agence France-Presse/Le Quang Nhat.</font></b>
กำลังโหลดความคิดเห็น