คลิปนักกีฬา.. ลูกใครเมียใคร? ทำให้เด็กดูไอ้หนูเลียนแบบ

ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- คลิปจากไทยชิ้นหนึ่งที่ประชาคมออนไลน์เวียดนามดูกันและแชร์กันอย่างอุ่นหนาฝาคั่งในสัปดาห์ที่ผ่านมาทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ผ่านสื่อประชาสังคมอย่าวกว้างขวางเกี่ยวกับพฤติกรรมของเด็กเล็กเพศชายกับหญิงที่เป็นมารดา ซึ่งผู้เป็นแม่ปล่อยให้ลูกชายตัวเล็กๆขยำหน้าอกและทำท่าทางเล้าโลมแสดงบทรักแบบผู้ใหญ่กับผู้ใหญ่โดยไม่ได้ห้ามปรามแต่กลับแสดงความชื่นชอบและขบขัน

หญิงที่สวมชุดนักกีฬาในคลิปพูดภาษาไทย ไม่ได้แสดงการแข็งขืนหรือว่ากล่าวสั่งสอนบุตรชายตั้งแต่แรก เด็กหญิงในคลิปอีกคนหนึ่งที่เข้าใจว่าเป็นบุตรสาวและเป็นผู้ถ่ายทำคลิปนี้ ส่งเสียงพูดเป็นภาษาไทยที่สื่อความหมายว่าน้องชายของเธอ "ทำเหมือนพ่อ" .. ชาวเวียดนามจำนวนหนึ่งที่ฟังภาษาไทยรู้เรื่องได้ถ่ายทอดความหมายของบทสนทนาผ่านเว็บไซต์หนังสือพิมพ์ออนไลน์เหงือยเดือติน ซึ่งทำให้ผู้อ่านพุ่งเป้าการตำหนิติเตือนไปที่ผู้เป็นมารดาในคลิป

ถึงแม้ว่าเหตุการณ์ในคลิปดูจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับบรรยากาศอันอบอุ่นด้วยรักระหว่างสมาชิกครอบครัวก็ตาม แต่เนื้อหาที่ถูกแปรความหมายออกไปอีกแง่มุมหนึ่งนี้ได้ทำให้สื่อประชาสังคมในเวียดนามสนใจมากยิ่งขึ้น

ไม่มีรายละเอียดว่าคลิปความยาวไม่ถึง 1 นาทีชิ้นนี้ไปจากแหล่งใดในประเทศไทยและถ่ายทำเมื่อไร แต่ถูกนำขึ้นเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ "เถถาว247ด็อทคอม" ซึ่งเป็นเว็บข่าวกีฬาภาษาเวียดนาม ก่อนจะแชร์ต่อๆกันไปเป็นทอดๆ ประชาคมออนไลน์ได้ยกเป็นกรณีตัวอย่างและตั้งข้อสงสัยว่าเจ้าหนูตัวน้อยอาจจะเห็นพ่อกับแม่แสดงบทรักอย่างโจ่งครึ่ม จึงสามารถทำเลียนแบบอย่างผู้ใหญ่ที่ช่ำชองได้

"เรื่องนี้ไม่สมควรทำให้เด็กๆได้เห็นต่อหน้าต่อตา หรือพ่อแม่หลายคนผิดพลาดในเรื่องนี้โดยเข้าใจว่าลูกเล็กยังไม่รู้เรื่องไม่เข้าใจและจะไม่จำจดสิ่งที่เห็นอยู่ต่อหน้า" ผู้อ่านคนหนึ่งเขียนแสดงความเห็นที่สะท้อนความคิดของอีกหลายคนที่ได้ชมคลิปชิ้นนี้

นักจิตวิทยาได้ถกเถียงกันมานานหลายสิบปีเกี่ยวกับการแสดงการร่วมเพศของพ่อแม่ให้ลูกเล็กได้เห็น ซึ่งหลายสำนักกล่าวว่าอาจทำให้เติบโตขึ้นมาโดยซ่อนนิสัยก้าวร้าวทางเพศอยู่ในจิตใจและนำไปสู่การแสดงวิปริตทางเพศได้ แต่บางสำนักโต้แย้งว่าการสอนเพศศึกษาให้เด็กๆตั้งแต่เยาว์วัยเป็นเรื่องดีเสียอีก แต่ทั้งนี้พ่อแม่จะต้องอธิบายให้ลูกๆเข้าใจอย่างถ่องแท้

อย่างไรก็ตามชาวเน็ตในเวียดนามส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับความเชื่อเช่นนั้น

"การกอดกัน การโอบกอดเบาๆให้ลูกเห็นและผ่านการสนทนาอันอบอุ่นต่อหน้าเด็กๆ มีส่วนทำให้เด็กๆรู้สึกอบอุ่น อยู่ในครอบครัวที่อบอุ่น แต่มันต่างกับการร่วมรักให้ลูกๆดู เด็กเล็กๆไม่มีวันเข้าใจได้ด้วยตัวเองว่ามันคืออะไรและอาจจะแปรความหมายไปในทางก้าวร้าวได้" ผู้อ่านที่ใช้ชื่อว่า Ha Van เขียนแสดงความเห็น

"แม้ว่าการร่วมรักเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติก็จริง แต่เป็นกิจกรรมของผู้ใหญ่ที่มีการพัฒนาทางฮอร์โมนในวัยเจริญพันธุ์แล้วเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับเด็กๆ พ่อแม่ควรจะพูดคุยเรื่องนี้กับลูกๆ เมื่อพวกเขาเติบโตขึ้นมาสู่วัยอันสมควรเสียก่อน" ชาวเน็ตที่ชื่อ AMSAM เขียนในทำนองเดียวกัน.
.