ASTVผู้จัดการออนไลน์ - รายได้จากการส่งออกก๊าซธรรมชาติของพม่าเพิ่มขึ้นกว่า 50% ในปีงบประมาณ 2556-2557 ที่ผ่านมา รวมเป็นมูลค่ากว่า 3,200 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นตัวเลขล่าสุดเกี่ยวกับรายได้จากอุตสาหกรรมพลังงานที่เผยแพร่โดยกระทรวงพาณิชย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากได้เริ่มขายก๊าซให้แก่จีนโดยส่งผ่านระบบท่อในปลายเดือน ต.ค.2556 เป็นต้นมา
รายได้จากก๊าซนำหน้าสินค้าส่งออกอีก 5 ประเภท ซึ่งได้แก่ ผลผลิตการเกษตร ผลผลิตอาหารทะเล สินค้าอุตสาหกรรมสำเร็จรูป ผลผลิตจากสัตว์ ผลผลิตจากป่าไม้และสินค้ากลุ่มแร่ธาตุต่างๆ โดยหมวดสินค้าการเกษตรซึ่งได้แก่ ข้าว ข้าวผสมเมล็ดหัก ถั่วและงา ข้าวโพด ยางพารา น้ำมันละหุ่ง เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ฯลฯ มาเป็นอันดับ 2 รวมมูลค่ากว่า 2,000 ล้านดอลลาร์ กระทรวงเดียวกันระบุในรายงานที่เผยแพร่สัปดาห์นี้
ยังไม่มีการแจกแจงในรายละเอียดขณะนี้ว่าระหว่างเดือน เม.ย.2556 จนถึงสิ้นปีงบประมาณวันที่ 31 มี.ค.2557 พม่าจำหน่ายก๊าซให้แก่ประเทศไทย และจีนเป็นจำนวนเงินเท่าไหร แต่ตามรายงานของสื่อทางการทุกปีที่ผ่านมา มูลค่าส่งออกก๊าซผ่านระบบท่อจากอ่าวเมาะตะมะไปยัง จ.ราชบุรีของไทย มีมูลค่าระหว่าง 2,000-2,200 ล้านบาท
พม่าเริ่มส่งก๊าซจากแหล่งชายฝั่งทะเลเบงกอล รัฐยะไข่ จำหน่ายก๊าซให้แก่จีนผ่านระบบท่อตั้งแต่วันที่ 20 ต.ค.2556 โดยไม่ทราบราคาซื้อขายอย่างเป็นทางการ แต่หนังสือพิมพ์โกบอลไทมส์ของทางการจีนกล่าวว่า ระบบท่อที่ออกมาเพื่อขนถ่ายก๊าซในปริมาณ 12,000 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปีนั้น จะทำให้พม่ามีรายได้ปีละ 1,500 ล้านดอลลาร์
ระบบท่อก๊าซและน้ำมันดิบพม่า-จีน ช่วงเมืองจ๊อกพยู (Kyaukpyu) ฝั่งอ่าวเบงกอล ถึงชายแดนมณฑลหยุนหนัน มีความยาวประมาณ 793 กิโลเมตร เป็นส่วนหนึ่งของระบบท่อส่งก๊าซและน้ำมันดิบยาว 2,520 กม.มูลค่าก่อสร้างกว่า 2,500 ล้านดอลลาร์ที่ต่อเข้าไปจนถึงมณฑลกุ้ยโจว ในภาคกลางของจีน เพื่อนำพลังงานเข้าสู่ดินแดนซึ่งก่อนหน้านั้นขาดแคลนอย่างหนัก และมีราคาแพงมาก สื่อของทางการจีนกล่าว
การสำรวจและผลิตพลังงานยังเป็นแขนงการลงทุนนำหน้าของนักลงทุนต่างชาติในพม่า จนถึงสิ้นเดือน มี.ค.ปีนี้รวมเป็นมูลค่ากว่า 14,000 ล้านดอลลาร์ คิดเป็น 31.09% ของมูลค่าการลงทุนจากต่างประเทศทั้งหมด ทั้งนี้ เป็นตัวเลขของสำนักงานบริหารการลงทุนและบริษัทซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งในสังกัดกระทรวงพาณิชย์
เมื่อเดือนที่แล้ว รัฐบาลพม่าได้อนุมัติให้บริษัทต่างชาติอีกหลายแห่งเข้าสำรวจก๊าซและน้ำมันแหล่งนอกชายฝั่งเพิ่มอีกจำนวน 20 แปลง ผู้ชนะการประกวดราคา ได้แก่ บริษัทเชลล์ เชฟรอน โคโนโคฟิลิปินส์ โตตาลสำรวจและผลิต บีจี วู้ดไซด์เอ็นเนอร์ยี และบริษัทชั้นนำอื่นๆ จากสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย และอินเดีย รายงานของกระทรวงพาณิชย์ระบุ.
.
2
3
4
5