ASTVผู้จัดการออนไลน์ - เป็นประเทศกึ่งประชาธิปไตยแล้ว แต่ฝ่ายทหารของพม่าก็ยังคงทำอะไรลับๆ ล่อๆ ชวนให้สาธารณชนสงสัยไม่ต่างจากเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องอาวุธยุทโธปกรณ์ในการป้องกันประเทศ ความลี้ลับได้ทำให้หน่วยสืบราชการลับของบรรดาประเทศเพื่อนบ้านต้องทำงานหนัก เรื่องจรวดต่อสู้อากาศยานของพม่าเป็นข่าวเล่าลือกันมาข้ามปีแล้ว จนกระทั่งในที่สุดแหล่งข่าวในอินเดียได้ให้ความกระจ่างสัปดาห์นี้
กองทัพพม่า ได้กลายเป็นลูกค้ารายแรกของระบบจรวดต่อสู้อากาศยาน “หงฉี-12” (HQ-12) ของจีนซึ่งพยายามส่งออกมาตั้งแต่ล่วงเข้าสู่ศตวรรษใหม่ นี่คือระบบจรวดที่ใกล้เคียงกับ S-75 “Dvina” ของสหภาพโซเวียตเมื่อก่อนนี้ ซึ่งพม่าเองก็มีประจำการพร้อมอยู่แล้วจำนวนหนึ่ง
จรวดหงฉี-12 ถูกนำออกอวดโฉมครั้งแรกในงานจูไห่แอร์โชว์ เมื่อปี 2541 ซึ่งรายงานในเว็บบล็อกไชนีสมิลิตารีรีวิว (ChineseMilitaryReview) กล่าวว่า กองทัพประชาชนไม่มีโอกาสได้ใช้และไม่เคยมีการนำเข้าประจำการในหน่วยใด เนื่องจากเวลาไล่เลี่ยกันนั้นมีการผลิตจรวดหงฉีรุ่นใหม่ๆ ที่มีประสิทธิภาพเหนือกว่าออกมาอีกหลายรุ่น จีนก็จึงเปลี่ยนชื่อ Hong Qi-12 เป็น KS-1 เพื่อส่งออกโดยเฉพาะ ซึ่งปรากฏว่า ยังไม่เคยประสบความสำเร็จทางการตลาดอย่างน้อยที่สุดก็ตั้งแต่ปี 2543 เป็นต้นมา
ในพิธีสวนสนามเนื่องในงานวันก่อตั้งกองทัพเดือน มี.ค.ปีที่แล้ว พม่าได้นำจรวดต่อสู้อากาศยานหลายชนิดออกมวดโฉม ซึ่งรวมทั้ง “ดวินา” และ “เปชอรา” รุ่นเดียวกับที่เวียดนามเคยใช้ยิงบี-52 ของสหรัฐฯ ตกถึง 34 ลำ ด้วย
พม่าอาจจะยังแอบซ่อนอะไรต่อมิอะไรเอาไว้อีกจำนวนหนึ่งก็เป็นได้ คนวงในในอุตสาหกรรมนี้กล่าวว่า ในปัจจุบันพม่าเป็นประเทศที่เก็บอาวุธต่อสู้อากาศยานไว้มากมาย ในบรรดาประเทศเพื่อนบ้านอาเซียน จะเป็นรองก็เพียงแค่เวียดนามเท่านั้น
ตามรายงานของแหล่งข่าวในกองทัพอินเดีย พม่าเซ็นสัญญาซื้อขายจรวด KS-1A ซึ่งเป็นรุ่นปรับปรุงจากจีนในเดือน ม.ค.2556 และฝ่ายจีนจะเริ่มส่งมอบให้ในเดือน ม.ย.ปีนี้ โดยยังไม่ทราบจำนวน และราคาซื้อขาย ซึ่งจะต้องจับตาดูกันต่อไป.
.
2
3
4
5