กระทรวง สธ.เวียดนามยันไม่ให้หมอยุ่งฉีดสารพิษประหารนักโทษโดยตรง

<bR><FONT color=#000033>เตียงประหารสำหรับนักโทษที่ต้องคำพิพากษาสูงสุดในยุคใหม่ ไม่มีใครอยากเป็นเจ้าของหรือขึ้นไปนอนบนเตียงหลังนี้อย่างแน่นอน เรื่องอื้อฉาวในวงการแพทย์เวียดนามก็เกิดขึ้นที่เตียงแบบเดียวกันนี้เมื่อนายแพทย์ผู้หนึ่งปักเข็มฉีดยาลงในเส้นเลือดของนักโทษประหารผู้หนึ่งใน จ.ฝูเอียน (Phu Yen) แม้ว่าจะไม่ได้เป็นผู้ปล่อยสารพิษเข้าสู่ร่างกายของนักโทษก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขเวียดนามยืนยันว่ากฎหมายไม่ได้บังคับให้แพทย์หรือพยาบาลกระทำการถึงขั้นตอนนั้น. </b>

ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ผู้แทนของกระทรวงสาธารณสุขเวียดนามได้ออกยืนยันต่อสาธารณชนในวันพุธ 18 ธ.ค.ว่า แพทย์ และพยาบาลอาชีพจะไม่เป็นผู้ฉีดสารพิษเพื่อประหารชีวิตนักโทษที่ต้องคำพิพากษาขั้นสูงสุด โดยจะปล่อยให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายอื่นที่เกี่ยวข้องดำเนินการ เนื่องจากแพทย์ และพยาบาลจะต้องอยู่ในกรอบจรรยาบรรณวิชาชีพ

เรื่องนี้ได้กลายเป็นประเด็นขึ้นมา หลังจากข่าวแพร่สะพัดออกไปในระยะที่ผ่านมาว่า นายแพทย์ผู้หนึ่งได้ฉีดสารพิษนักโทษประหารใน จ.ฝูเอียน (Phu Yen) ซึ่งทำให้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นมาในวงการสาธารณสุขของประเทศ ซึ่งผู้แทนกระทรวงฯ กล่าวว่า เกิดจากความเข้าใจผิดของนายแพทย์ผู้นั้น

เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 ธ.ค. คณะกรรมการของจังหวัดดังกล่าวได้ขอให้นายแพทย์โรงพยาบาลประจำจังหวัดทำหน้าที่หาเส้นเลือดเพื่อฉีดสารพิษในการประหารชีวิตนักโทษคนหนึ่ง นายแพทย์ดังกล่าวได้ปฏิบัติตามวิชาชีพช่วยหาเส้นเลือด และปักเข็มลงบนเส้นเลือดของนักโทษ แต่ผู้ที่ฉีดสารพิษเข้าสู่ร่างกายของนักโทษประหารเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยแพทย์ไม่ได้กระทำการในขั้นตอนนี้

อย่างไรก็ตาม ผู้แทนกระทรวงสาธารณสุขบอกแก่สื่อว่า กฎหมายมีบทบัญญัติให้แพทย์ และพยาบาลอาชีพมีหน้าที่ต้องให้ความร่วมมือช่วยเหลือในขั้นตอนประหารชีวิตนักโทษด้วยการฉีดสารพิษที่เริ่มมีผลบังคับใช้ในปีนี้ แต่กฎหมายไม่ได้บัญญัติให้เจ้าหน้าที่การแพทย์ต้องลงมือฉีดสารพิษเอง ซึ่งขัดต่อจรรยาบรรณวิชาชีพ เว็บไซต์ข่าวภาษาเวียดนามหลายแห่งรายงานเรื่องนี้

หลังจากกฎหมายเกี่ยวกับการลงโทษประหารชีวิตด้วยวิธีใหม่นี้มีผลบังคับใช้เมื่อปีที่แล้ว กรมบริหารการสาธารณสุข ได้มีหนังสือเวียนลงวันที่ 22 พ.ค.2555 ให้นายแพทย์หัวหน้าสาธารณสุขจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศมีหน้าที่ให้ความร่วมมือในการประหารชีวิตนักโทษด้วยการฉีดสารพิษตามการร้องของจากคณะกรรมการของจังหวัดที่มีหน้าที่ตามกฎหมายในเรื่องนี้

แต่ผู้แทนของกระทรวงฯ กล่าวในวันพุธว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายการแพทย์ และสาธารณสุขมีหน้าที่เพียงช่วยระบุตำแหน่งเส้นเลือดของนักโทษประหารเท่านั้น แต่ไม่จำเป็นต้องช่วยปักเข็มลงที่เส้นเลือด และจะต้องไม่เป็นผู้ฉีดสารพิษเพื่อประหารชีวิตคนอย่างเด็ดขาด โดยจะเป็นหน้าที่ของบุคลากรฝ่ายอื่นที่เกี่ยวข้องตามกฎหมาย

เหตุการณ์ใน จ.ฝูเอียน นับเป็นเหตุการณ์สะเทือนใจของผู้คนในวงการแพทย์ และสาธารณสุข ถึงแม้ว่านายแพทย์ผู้นั้นจะไม่ได้เป็นผู้ลงมือฉีดสารพิษเองก็ตาม

กระทรวงฯ กำลังเตรียมหนังสือ และเอกสารส่งไปยังสำนักงานสาธารณสุขทั้ง 63 จังหวัดทั่วประเทศ เพื่ออธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับกฎหมาย และกฎระเบียบต่างๆ ในวิธีปฏิบัติซึ่งบุคลากรด้านการแพทย์จะต้องไม่ยุ่งเกี่ยวกับการประหารชีวิตนักโทษโดยตรง แต่เป็นผู้ที่ให้ความร่วมมือตามกฎหมายเท่านั้น ผู้แทนของกระทรวงฯ กล่าว.