เอเอฟพี - เรือที่มีชาวมุสลิมโรฮิงญาลี้ภัยโดยสารอยู่เกือบ 70 คน ที่หลบหนีความตึงเครียดทางศาสนาเกิดเหตุพลิกคว่ำในวันนี้ (3 พ.ย.) ที่บริเวณนอกชายฝั่งพม่า เจ้าหน้าที่ตำรวจเผย ทำให้มีผู้สูญหายหลายสิบคน
เรือที่เชื่อว่ามีชาวโรฮิงญาจากรัฐยะไข่ ทางตะวันตกของพม่า โดยสารมาด้วยนั้น กำลังมุ่งหน้าไปมาเลเซีย ที่ชาวมุสลิมชนกลุ่มน้อยหลายพันคนได้หาที่หลบภัยนับตั้งแต่เกิดเหตุปะทะกันอย่างรุนแรงกับชาวพุทธเมื่อปีก่อน
“รวมทั้งหมด 66 คน เป็นชาย 38 คน และหญิง 28 คน อยู่บนเรือลำดังกล่าวเมื่อเกิดเหตุพลิกคว่ำ" เจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐยะไข่ กล่าว และให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าพบผู้รอดชีวิต 6 คน ในอ่าวเบงกอล
ผู้ที่สูญหายเชื่อว่าเป็นผู้อพยพภายในประเทศ (IDPs) จากพื้นที่รอบๆ เมืองซิตตะเว เมืองเอกของรัฐยะไข่
ประชาชนราว 140,000 คน ที่ส่วนใหญ่เป็นชาวโรฮิงญา ต้องไร้ที่อยู่อาศัยจากเหตุความรุนแรงสองระลอกระหว่างชาวพุทธและชาวมุสลิมในรัฐยะไข่เมื่อปีก่อนที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปถึง 200คน
ชาวโรฮิงญาหลายพันคนหลบหนีออกจากพม่านับตั้งแต่นั้น หลายคนจ่ายเงินให้กับนายหน้าเพื่อเดินทางด้วยเรือเก่าๆ ที่แออัดไปยังมาเลเซียหรือลงใต้ไปกว่านั้น แม้ว่าจะมีอันตรายจากกระแสคลื่นลมแรงในอ่าวเบงกอลก็ตาม
สหประชาชาติแสดงความวิตกถึงจำนวนชาวโรฮิงญาที่หลบหนีออกจากค่ายสำหรับผู้ไร้ที่อยู่จะเพิ่มมากขึ้นในปีนี้ และเรียกร้องให้รัฐบาลพม่าจัดการกับวิกฤตด้านมนุษยธรรมดังกล่าว
สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติในเจนีวา ระบุเมื่อวันศุกร์ว่า ได้รับรายงานที่น่าวิตกเป็นอย่างยิ่งว่าประชาชนราว 1,500 คนได้เดินทางออกจากพื้นที่ในรัฐยะไข่ในช่วงไม่กี่วันมานี้.