xs
xsm
sm
md
lg

ลาวใต้จมน้ำกระทบคนกว่าแสน ปากเซเจอหนักสั่งปิดโรงเรียนทั่วแขวง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<bR><FONT color=#000033>ภาพที่เผยแพร่โดยสำนักข่าวสารปะเทดลาวพร้อมคำบรรยายว่าเป็นเหตุการณ์น้ำท่วมที่เมืองจำปาสักที่อยู่ห่างจากปากเซลงไปทางตอนใต้ แขวงภาคใต้แห่งนี้เป็นช่วงปลายแม่น้ำโขงก่อนไหลเข้าสู่ดินแดนกัมพูชาตกอยู่ในสภาพจมน้ำ ทางการต้องสั่งปิดโรงเรียนใน 10 เมือง (อำเภอ) ทั่วแขวง อุทกภัยส่งผลกระทบต่อราษฎรกว่า 110,000 คน. </b>

ASTVผู้จัดการออนไลน์ - แขวงภาคใต้ของลาวกำลังเจออุทกภัยรุนแรงนับตั้งแต่ดีเปรสชันลูกหนึ่งจากทะเลจีนใต้พัดเข้าในสัปดาห์ปลายเดือนนี้ และเกิดฝนตกต่อเนื่อง มีราษฎรได้รับผลกระทบกว่า 110,000 คน 10 เมือง แขวงจำปาสักจมน้ำ ชาวปากเซจำนวนมากต้องหลบภัยไปอาศัยในสนามกีฬาแขวง และสั่งปิดโรงเรียนตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่ทางการเรียกร้องขอบริจาคข้าว อาหารแห้ง กับน้ำดื่ม และเครื่องยังชีพส่งไปช่วยผู้ประสบภัย

“หลายพื้นที่ไม่มีน้ำดื่ม ผู้ประสบภัยต้องคอยรองน้ำฝนใช้บริโภค” นายพมมา สีวิไล เลขานุการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมและป้องกันวินาศภัยแขวงจำปาสัก กล่าวกับสำนักข่าวสารปะเทดลาว

เจ้าหน้าที่คนเดียวกันนี้เปิดเผยอีกว่า นาข้าวที่ยังไม่ได้เก็บเกี่ยวกว่า 12,700 เฮกตาร์ (เกือบ 8 หมื่นไร่) ถูกน้ำท่วมมาตั้งแต่วันที่ 18 ก.ย. ที่ดีเปรสชันทำให้เกิดฝนตกหนัก และเชื่อว่าคงจะเน่าเสียทั้งหมด

จนถึงขณะนี้มีรายงานผู้เสียชีวิต 3 ราย ราษฎรอีกกว่า 113,500 คน ได้รับผลกระทบ หลายครอบครัวในเมืองปากเซ ซึ่งเป็นเมืองเอกของแขวงต้องหนีภัยน้ำท่วมไปอาศัยชั่วคราวภายในสนามกีฬาแขวง หลายครอบครัวไปปักหลักริมทางหลวงเลข 13 ใต้ ขณะลำน้ำสาขาแม่น้ำโขง รวมทั้งคงเซโดน ที่ไหลลงสู่แม่น้ำโขงที่ปากเซ ระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนถึงขีดอันตราย

“ทางหลวงยังใช้การได้ แต่ถนนเข้าสู่หมู่บ้านถูกตัดขาดเกือบทั้งหมด เราต้องใช้เรือเข้าไปแจกจ่ายสิ่งของกับความช่วยเหลือแก่ราษฎร” นายพมมากล่าว

ทางการได้สั่งปิดโรงเรียนทั่วแขวงมาตั้งแต่วันที่ 22 เดือนนี้ เนื่องจากส่วนใหญ่ถูกน้ำท่วม และเส้นทางการสัญจรถูกตัดขาด ถึงตอนนี้มีผู้บริจาคอาหาร และสิ่งของต่างๆเป็นมูลค่ากว่า 300 ล้านกีบ (กว่า 1.18 ล้านบาท) แต่ก็ยังต้องการมากกว่านั้น

จำปาสัก เป็นปลายทางของแม่น้ำโขงก่อนไหลเข้าสู่กัมพูชา ส่วนแขวงเซกอง กับแขวงอัตตะปือก็ประสบอุทกภัยในช่วงเดียวกัน มีพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายจำนวนหนึ่ง แม้จะไม่รุ่นแรงเท่ากับจำปาสักก็ตาม ทั้งนี้ เป็นรายงานของหนังสือพิมพ์เวียงจันทน์ใหม่.
กำลังโหลดความคิดเห็น