xs
xsm
sm
md
lg

อิเหนาได้ Su-30 ครบล็อตสุดท้าย ไทยได้กริพเพนครบฝูง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<bR ><FONT color=#000033>เครื่องบิน Su-30 หนึ่งในสองลำสุดท้ายส่งถึงฐานทัพอากาศสุลต่านฮาซานุดดิน จ.สุลาเวสีใต้ เมื่อวันที่ 4 ก.ย.2556 โดยเครื่องบินขนส่ง An-124 รุสลาน (Ruslan) วิศวกรรัสเซียใช้เวลาประกอบอีก 3-4 วันก่อนส่งมอบอย่างเป็นทางการครบลอตที่สั่งซื้อ 6 ลำในเดือน ธ.ค.2554 และกองทัพอากาศอินโดนีเซียมีเครื่องบินตระกูล Su-27/30 เพิ่มขึ้นเป็น 16 ลำ รัฐมนตรีกลาโหมประเทศนี้ให้สัมภาษณ์เมื่อต้นปีอาจจะซื้อ Su-30MK2 อีก 16 ลำ ในวันที่ 4 ก.ย.เช่นเดียวกันเครื่องบิน JAS-39 กริพเพน อีก 3 ลำในล็อตสุดท้ายจากสวีเดนก็บินถึงกองบินสุราษร์ธานีทำให้กองทัพอากาศไทยได้รับครบฝูง 12 ลำจากการสั่งซื้อ 2 ล็อตในปี 2552 และ 2553.  </b>

ASTVผู้จัดการออนไลน์ - สัปดาห์ที่ผ่านมา ประเทศเพื่อนบ้านอาเซียน 2 แห่งได้รับเครื่องบินรบพร้อมกันในวันเดียวกัน ซึ่งเป็นการส่งมอบตามกำหนดครบจำนวนที่สั่งซื้อ สองเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอย่างบังเอิญโดยมิได้มีอะไรเกี่ยวข้องกัน แต่ได้ทำให้กำลังทางอากาศในภูมิภาคนี้มีความคึกคักยิ่งขึ้น

วันที่ 4 ก.ย. รัสเซียส่งเครื่องบินขับไล่โจมตีอเนกประสงค์ Su-30MK2 ให้อินโดนีเซีย 2 ลำสุดท้าย จากทั้งหมด 6 ลำ เครื่องบินรบทั้ง 2 ลำไปถึงฐานทัพอากาศสุลต่านฮาซานุดดิน เมืองมากัสซาร์ จ.สุลาเวสีใต้ (Southern Sulawesi) โดยเครื่องบินขนส่ง An-124 “รุสลาน” (Ruslan) และเริ่มกระบวนการประกอบขึ้นโดยวิศวกรกับช่างเทคนิคชาวรัสเซีย จำนวน 13 คน ก่อนจะส่งมอบอย่างเป็นทางการ

ตามรายงานของสำนักข่าวเลนตาดอทอาร์ยูในรัสเซีย วันที่ 4 ก.ย.เช่นเดียวกัน JAS-39 “กริพเพน” 3 ลำสุดท้ายสำหรับกองทัพอากาศไทย ก็ได้เดินทางถึงปลายทาง หลังแวะจอดเติมน้ำมันในอินเดีย และซ่อมแซม 1 ลำ ที่ถูกฟ้าผ่า ขณะบินอยู่เหนืออินเดียมุ่งสู่ประเทศไทย ทั้งหมดจะประจำที่กองบินสุราษฎร์ธานี

กริพเพนที่ส่งมอบครั้งล่าสุดนี้เป็น 3 ลำสุดท้ายจาก จำนวน 6 ลำ ที่ไทยสั่งซื้อเมื่อปี 2553 เมื่อรวมกับล็อตแรกอีก 6 ลำ ที่สั่งซื้อเมื่อปี 2552 ทำให้ไทยมีกริพเพนครบฝูง จำนวน 12 ลำ ในแผนการจัดซื้อจัดหาเพื่อทดแทนเครื่องบิน F-5A/B/E/F ทั้ง “ฟรีดอมไฟเตอร์” และ “ไทเกอร์ II” ที่ทยอยปลดระวางประจำการ

กองทัพอากาศไทยมีเครื่องบินรบที่ผลิตในสหรัฐฯ แบบเดียวกันนี้ถึง 53 ลำ และยังไม่ทราบแผนการจัดซื้อจัดหาเพื่อทดแทนจำนวนที่เหลือ

ภายใต้ข้อตกลงการจัดซื้อกับกลุ่มซาบรวมมูลค่า 1,700 ล้านดอลลาร์ ยังรวมทั้งการจัดซื้อเครื่องบินติดระบบควบคุม และเตือนภัยล่วงหน้า ซาบ 340 “อีรีอาย” (Erieye) จำนวน 2 ลำ เครื่องบินขนส่งซาบ 340 (Saab 340) อีก 1 ลำด้วย

ส่วนในอินโดนีเซีย การส่งมอบครั้งล่าสุดทำให้กองทัพอากาศมีเครื่องบินรบตระกูล Su-27/30 ประจำการรวมทั้งสิ้น 16 ลำ ประกอบด้วย Su-27SK จำนวน 2 ลำ Su27SKM อีก 3 ลำ และ Su-30MK จำนวน 2 ลำ ที่เหลือเป็น Su-30MK2

จำนวน 6 ลำสุดท้ายนี้ อินโดนีเซียเซ็นสัญญาซื้อจากรัสเซียในเดือน ธ.ค.2554 ด้วยเงินกู้จากรัฐบาลรัสเซีย โดยเริ่มทยอยส่งมอบตั้งแต่เดือน ก.พ.ปีนี้ เลนตาด็อทอาร์ยูรายงาน

สำนักข่าวรอยเตอร์ได้รายงานการให้สัมภาษณ์ของรัฐมนตรีกลาโหมอินโดนีเซียเมื่อต้นปีนี้ว่า อินโดนีเซีย อาจจะซื้อเครื่องบินรบรัสเซียล็อตใหญ่ในแผนการจัดซื้อจัดหาเครื่องบินรบอเนกประสงค์ครั้งใหม่ที่มีจำนวน 16 ลำ.
.
<bR ><FONT color=#000033>วิศวกรรัสเซียกำลังประกอบ Su-30MK2 หนึ่งในสองลำภายในโรงเก็บที่สนามบินทหารสุลต่านฮาซานุดดิน จ.สุลาเวสีใต้ แยกชิ้นส่วนมาจึงต้องประกอบขึ้นใหม่และทำสีใหม่ การส่งมอบ 2 ลำสุดท้ายเมื่อสัปดาห์ที่แล้วทำให้อินโดนีเซียมีเครื่องบินรบตระกูล Su-27/30 เพิ่มขึ้นเป็น 16 ลำ เวียดนามมี 24 ลำทั้ง MK2/MKV สั่งซื้ออีก 12 ลำเมื่อเร็วๆ นี้ ส่วนมาเลเซียมี 18 ลำเป็น Su-30MKM ที่สั่งผลิตเฉพาะรุ่น. </b>
2
<bR ><FONT color=#000033>ดูจากหมายเลข 02 ลำนี้คือ Su-27SK หนึ่งในสองลำซึ่งเป็นรุ่นแรกสุดที่สั่งซื้อจากรัสเซีย นอกจากนั้นยังมี Su-27SKM อีก 3 ลำที่สั่งซื้ออีกล็อตหนึ่ง อินโดนีเซียยังมี Su-30MK รุ่นเก่าอีก 2 ลำที่อยู่ระหว่างอัปเกรดขึ้นเป็น SU-30MK2 เช่นเดียวกับจำนวนที่เหลือทั้งล็อตเก่าและใหม่ รัฐมนตรีกลาโหมอินโดนีเซียให้สัมภาษณ์ตอนต้นปีว่า อาจจะซื้อ Su-30MK2 อีก 16 ลำ. </b>
3
<bR ><FONT color=#000033>หมายเลข 01 ไม่ใช่ใครอื่นหากเป็น Su-27SK หนึ่งในสองลำในล็อตแรกของตระกูล Su-27/30 ที่ซื้อจากรัสเซีย อินโดนีเซียเร่งสร้างเสริมเขี้ยวเล็บป้องกันประเทศหลังว่างเว้นมานาน กองทัพบกเพิ่งเซ็นซื้อรถถังเลโอพาร์ดจากเยอรมนีล็อตใหญ่ ซื้อปืนใหญ่จากฝรั่งเศสและซื้อยานลำเลียงพลหุ้มเกราะอีกจำนวนมาก กองทัพเรือซื้อทั้งเรือฟริเกตและเรือคอร์แว็ต รวมทั้งเรือดำน้ำรุ่นใหม่อีก 2-4 ลำที่ทำสัญญาซื้อ/สร้างและถ่ายทอดเทคโนโลยีจากเกาหลี . </b>
4
กำลังโหลดความคิดเห็น