เอพี - ทูตด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติได้เดินทางไปยังพื้นที่ตึงเครียดระหว่างศาสนาของพม่า ที่รัฐยะไข่ ในวันจันทร์ (12) ไม่กี่วันหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดฉากยิงผู้ชุมนุมประท้วงที่หาทางเข้าไปยังศพของชาวประมงมุสลิมโรฮิงญา
วิน มาย โฆษกรัฐบาลรัฐยะไข่ เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ (12) ว่า ในเหตุการณ์ดังกล่าว มีผู้เสียชีวิต 1 คน และได้รับบาดเจ็บ 10 คน
ประเทศที่ประชาชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ ที่เพิ่งหลุดพ้นจากการโดดเดี่ยวประเทศนานเกือบครึ่งศตวรรษ และการปกครองของทหาร ต้องประสบกับเหตุรุนแรงทางศาสนาเป็นเวลามากกว่า 1 ปี
ประชาชนมากกว่า 250 คน ถูกสังหาร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม และอีกกว่า 140,000 คน ต้องอพยพหนีออกจากที่อยู่อาศัยของตัวเอง หลายคนยังคงใช้ชีวิตอยู่ในค่ายลี้ภัยแออัด ซึ่งการเข้าถึงอาหาร น้ำสะอาด และการดูแลทางการแพทย์เป็นไปอย่างจำกัด
ยังมีความวิตกกังวลว่าความไม่สงบ และการตอบสนองอย่างจำกัดของรัฐบาลพลเรือนของประธานาธิบดีเต็งเส่ง อาจบ่อนทำลายความพยายามของประเทศในการปฏิรูปประชาธิปไตย
นายโทมัส โอเจีย ควินตานา ทูตด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติกำลังอยู่ในระหว่างการเยือนพม่านาน 11 วัน ซึ่งรวมถึงการเดินทางไปยังรัฐยะไข่ หนึ่งในสถานที่ที่เกิดเหตุนองเลือดเลวร้ายที่สุด
ความตึงเครียดในเมืองซิตตะเว เมืองเอกของรัฐยะไข่ ยังอยู่ในระดับสูง หลังพบศพชาวประมงที่ร่างกายมีร่องรอยถูกทำร้ายเกยฝั่งเมื่อวันศุกร์ (9) ทำให้เกิดกระแสข่าวลือในกลุ่มชาวมุสลิมโรฮิงญา ว่า ชายชาวประมงคนดังกล่าวถูกสังหารโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ
นายวิน มาย กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจยิงปืนขึ้นฟ้าหลังชาวโรฮิงญา 500 คน ที่เรียกร้องขอเข้าไปยังร่างชาวประมง เข้าโจมตีด่านตำรวจ หลังจากกลุ่มฝูงคนเพิ่มจำนวนขึ้นเป็นเกือบ 1,000 คน และความรุนแรงเริ่มแพร่กระจาย เจ้าหน้าที่ได้ยิงปืนเข้าไปยังกลุ่มคน ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 10 คน และมีชายหนึ่งคนในนั้นได้เสียชีวิตจากบาดแผลที่โรงพยาบาลในวันอาทิตย์ (11).