.
ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ทางการเวียดนามได้สั่งปรับบริษัทท่องเที่ยวในนครโฮจิมินห์ และสั่งให้จ่ายเงินชดเชยให้แก่นักท่องเที่ยวเวียดนามหลายร้อยคน ฐานเป็นต้นเหตุให้เกิดการลอยแพนักท่องที่ยวกลุ่มนี้ที่เดินทางมาประเทศไทยสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งทำให้บริษัทไทยผู้ให้บริการไม่สามารถแบกรับค่าใช้จ่ายได้ เผยเบื้องหลังสุดตุกติกเรื่องเงิน “ไทย 2020” ร่อนจดหมายแจงรายละเอียดต่อ ททท.ในโฮจิมินห์
สำนักงานวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยว นครโฮจิมินห์ ได้สอบสวนข้อเท็จจริงจากหลายฝ่ายตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา และสั่งให้บริษัทราเวลไลฟ์ (Travel Life) ต้องจ่ายชดเชยให้แก่นักเดินทางชาวเวียดนาม จำนวน 701 คน จากปัญหาที่เกิดขึ้นในช่วง 6 วันที่เดินทางไปร่วมการประชุมใหญ่เฮอร์บาไลฟ์ (Herbalife) และเดินทางท่องเที่ยวในไทยระหว่างวันที่ 12-18 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ทางการระบุชัดเจนว่า บริษัทนี้กระทำผิดที่ไม่จ่ายเงินให้แก่บริษัทคู่ธุรกิจในประเทศไทย ทำให้นำไปสู่การงดให้บริการนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่จากเวียดนาม นอกจากนั้น ก็ยังพบอีกว่าบริษัททราเวลไลฟ์ไม่มีใบอนุญาตให้ประกอบการนำเที่ยวต่างประเทศ ซึ่งจะนอกจากจะมีโทษปรับแล้ว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงสอบสวนต่อไปหากพบว่ากระทำผิดต่อกฎหมายท่องเที่ยวก็อาจถูกเพิกถอนใบอนุญาต สื่อของทางการรายงาน
ทราเวลไลฟ์ แถลงในสัปดาห์นี้ว่า ได้จัดการประชุมหารือกับตัวแทนของผู้ที่เดินทางไปยังประเทศไทย ที่มีบริษัทไทย 2020 เป็นผู้ให้บริการในกรุงเทพฯ และเวลาต่อมา ทราเวลไลฟ์ไม่ได้จ่ายค่าบริการให้แก่บริษัทไทยครบตามที่ตกลงไว้ “ซึ่งทำให้เกิดสถานการณ์ที่ไทย 2020 ปฏิเสธที่จะให้บริการนักเดินทาง ทำให้คนเหล่านี้ต้องหาวิธีเอาตัวรอดตามลำพัง” จนกระทั่งเดินทางกลับเวียดนามในวันที่ 17 มิ.ย. หนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋รายงานในเว็บไซต์ข่าวภาษาเวียดนาม
เกียนถึกออนไลน์ เว็บไซต์ข่าวภาษาเวียดนามยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งรายงานในขณะเดียวกันว่า สำนักงานวัฒนธรรม การกีฬาและการท่องเที่ยวนครโฮจิมินห์ได้เสนอปรับบริษัททราเวลไลฟ์ระหว่าง 70-80 ล้่านด่ง (3,300-3,800 ดอลลาร์) และสั่งให้งดการจัดท่องเที่ยวออกนอกประเทศ
การตรวจสอบในขั้นละเอียดพบว่าทราเวลไลฟ์ไม่ได้รับอนุญาตให้จัดทัวร์ต่างประเทศและมัคคุเทศก์ที่บริษัทนี้จัดไปกับทัวร์ก็ไม่มีอนุญาตประกอบการอีกด้วย ซึ่งเป็นการกระทำผิดกฎระเบียบและสำนักงานวัฒนธรรมฯ นครโฮจิมินห์จะดำเนินการในขั้นตอนต่อไป สำนักข่าวออนไลน์กล่าว
อย่างไรก็ตามนางเหวียนถิกิมแคง (Nguyễn Thị Kim Khánh) ผู้อำนวยการทราเวลไลฟ์ซึ่งมีสำนักงานตั้งอยู่ในเขต อ.เตินบี่ง (Tân Bình หรือ "เตินบึ่น" ในภาษาท้องถิ่น) กล่าวว่า ได้ขอโทษต่อผู้เดินทางทุกคนที่ได้รับผลกระทบครั้งนี้แล้วและบริษัทจะจ่ายเงินคืนให้คนละ 2.5 ล้านด่ง (120 ดอลลาร์) สำหรับทุกคนเดินทางจากโฮจิมินห์และจะดำเนินการเช่นเดียวกันนี้กับผู้ที่เดินทางจากกรุงฮานอย
สำหรับนักท่องเที่ยวที่มีปัญหาสุขภาพระหว่างอยู่ในประเทศไทย อันเป็นผลกระทบจากการปัญหาที่เกิดขึ้นสามารถเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลได้ ซึ่งมีรายงานว่ามีนักเดินทางจำนวนหนึ่งเป็นลมเมื่อได้ยินว่าจะไม่มีตั๋วเครื่องบินเดินทางกลับเวียดนาม นางกิมแคงกล่าว
สำนักงานวัฒนธรรม การกีฬาและการท่องเที่ยว นครโฮจิมินห์ยังได้ทำรายงานฉบับหนึ่งถึงคณะกรรมการประชาชนของนคร กับองค์การบริหารการท่องเที่ยวแห่งชาติเวียดนาม (Vietnam National Administration of Tourism) แจ้งรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับกรณีที่บริษัททราเวลไลฟ์ ได้กระทำผิดต่อ กฎหมายการท่องเที่ยว
บริษัทนี้ไม่มีใบอนุญาตประกอบการนำเที่ยวต่างประเทศ ไม่ได้ตั้งสำนักงานตามสถานที่ที่ระบุในการหนังสือจดทะเบียนและว่าจ้างมัคคุเทศก์ที่ไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ นอกจากนั้นที่ผ่านมายังไม่เคยรายงานผลประกอบการใดๆ ที่เกี่ยวกับการจัดเดินทางท่องเที่ยวไปต่างประเทศ หนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋กล่าว
ขณะเดียวกัน นายธนิก ขจรกิตติสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทไทย ทเว้นตี้ ทเว้นตี้ แทรเวล จำกัด ได้ทำหนังสือถึงผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสาขาโฮจิมินห์ ชี้แจงปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างละเอียดเช่นกันโดยระบุว่า มีการเตรียมการเรื่องนี้ล่วงหน้าถึง 4 เดือน นับตั้งแต่ได้รับการติดต่อจากบริษัทในเวียดนามเกี่ยวกับคณะทัวร์ 701 คนซึ่งจะพักในกรุงเทพกับเมืองพัทยาเป็นเวลา 6 วัน 5 คืน
ตามข้อตกลงนั้นทราเวลไลฟ์จะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้แก่นักท่องเที่ยวชาวเวียดนามทั้งหมด ทั้งค่าโรงแรมที่พัก ค่าอาหาร ค่ายานพาหนะต่างๆ รวมทั้งค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ โดยต้องโอนเงินค่าใช้จ่ายให้กับฝ่ายไทยล่วงหน้าตามกำหนด แต่ในที่สุดก็มีโอนให้จริงเพียง 10,000 ดอลลาร์ ในวันที่ 12 มิ.ย. ซึ่งมีลูกทัวร์เดินทางถึงกรุงเทพฯ จำนวน 4 ชุด รวม 357 คน
ในวันถัดมามีลูกทัวร์เดินทางจากโฮจิมินห์อีก 4 ชุด จำนวนอีก 293 คน กับอีก 27 คนไปจากกรุงฮานอยโดยไม่มีในข้อตกลง และบริษัทเวียดนามได้แจ้งว่าจะจ่ายให้อีก 30,000-40,000 ดอลลาร์ แต่ก็ไม่เคยปฏิบัติตามนั้นและยังขอให้บริษัทไทยจ่ายล่วงหน้าทุกครั้ง ซึ่งเป็นเงินมหาศาลเกินจะแบกรับได้สำหรับนักท่องเที่ยวที่มีจำนวนหลายร้อยคน
.
.
"บริษัทไทยทเว้นตี้ทเว้นตี้ จึงจำเป็นที่จะต้องประคองลูกทัวร์เหล่านี้ให้มีที่กินอาหารและที่พักและไม่สามารถที่จะละทิ้งความรับผิดชอบนี้ได้.." นายธนิกระบุในหนังสือลงวันที่ 17 มิ.ย.2556 ที่ส่งถึงผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นครโฮจิมินห์ "ASTVผู้จัดการออนไลน์" ได้เห็นหนังสือดังกล่าวสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ในวันที่ 15 มิ.ย.บริษัทไทย 2020 ได้แจ้งให้หัวหน้ากลุ่มผู้เข้าร่วมประชุมเฮอร์บาไลฟ์ทราบข้อเท็จจริง และขอให้หัวหน้าคณะติดต่อบริษัทในเวียดนามให้ชำระค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าอาหาร ค่ารถและที่พัก ด้วยตัวเอง หากไม่มีการจ่าย ก็จะไม่สามารถให้บริการได้อีก แต่ถึงกระนั้นวันที่ 15 มิ.ย.ซึ่งเป็นวันแรกของการประชุมสำคัญนี้ “บริษัทฯ ได้พยายามเจรจาให้รถโดยสารและโรงแรมที่ค้างจ่าย ให้ลูกค้าได้ไปประชุมตามนัดหมาย” นายธนิกระบุ
ในวันที่ 15 มิ.ย.เช่นกันบริษัทไทย 2020 รวมทั้งคณะผู้จัดและผู้บริหารเฮร์บาไลฟ์ ไม่สามารถติดต่อบริษัทในเวียดนามเพื่อนำเงินมาชำระค่าบริการที่ค้างจ่ายได้ รถโดยสารและที่พักจึงไม่ยอมให้บริการแก่ลูกทัวร์ จึงเป็นเหตุให้เกิดความวุ่นวาย กลุ่มผู้บริหารได้ปรึกษาหารือกันและได้ขอความช่วยเหลือจากไทย 2020ให้ช่วยสำรองค่าใช้จ่ายรถโดยสารและค่าที่พักอีกครั้งหนึ่ง โดยให้สัญญาจะชำระคืนในวันรุ่งขึ้น
อย่างไรก็ตามจนกระทั่งเวลา 14 น.วันที่ 16 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการประชุมทราเวลไฟ์ก็ยังไม่โอนเงินค่าใช้จ่ายรวมทั้งเงินที่บริษัทไทย 2020 จ่ายล่วงหน้า กลุ่มผู้บริหารเฮอร์บาไลฟ์จึงได้เชิญทุกฝ่ายประชุมและบอกความจริงให้ลูกทัวร์จากเวียดนามทุกคนทราบ โดยผู้บริหารเฮอร์บาไลฟ์แต่ละกลุ่มจะรวบรวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดจากสมาชิกในกลุ่ม เพื่อชำระค่าใช้จ่ายต่างๆ เอง ซึ่งกลุ่มที่เข้าใจสถานการณ์ได้ออกค่าใช้จ่ายด้วยตนเอง
อย่างไรก็ตามยังมีกลุ่มย่อยที่ไม่เคยทราบข้อเท็จจริงและไม่เข้าใจเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งทำให้เกิดความชุลมุน หนังสือถึงผู้อำนวยการ ททท.นครโฮจิมินห์ระบุ
"บริษัทไทยทเว้นตี้ทเว้นตี้ พยายามช่วยอย่างสุดความสามารถ ไม่ว่าจะป็นการสำรองเงินให้ก่อนเพื่อประคับประ คองมิให้คณะทัวร์ชุดนี้ถูกลอยแพ ซึ่งจะเป็นที่น่าอับอายต่อการท่องเที่ยวประเทศไทยและชื่อเสียงบริษัท.." นายธนิกกล่าว
จนถึงบัดนี้ก็ยังไม่มีคำอธิบายที่ชัดเจนจากฝ่ายใดว่า เพราะเหตุใดนางเหวียนถิกิมแคง และบริษัททราเวลไลฟ์ในโฮจิมินห์จึงไม่ยอมจ่ายเงินค่าบริการให้แก่บริษัทไทย 2020 ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดปัญหากับความยุ่งยากต่างๆ.
