.
ASTVผู้จัดการออนไลน์ - กระทรวงกลาโหมเวียดนาม ส่งเรือรบทันสมัยที่สุดของกองทัพเรือ 2 ลำไปเยี่ยมเยือนสันถวไมตรีจีนสัปดาห์หน้านี้ ในขณะที่ทั้งสองฝ่ายเร่งปรับความสัมพันธ์ต่อกันทั้งทางด้านการเมือง และการทหาร เพื่อลดการเผชิญหน้าในทะเลจีนใต้
การส่งเรือรบเยือนจีนยังมีขึ้นไม่กี่วันหลังจากประธานาธิบดีเวียดนาม นายเจืองเติ๋นชาง (Trung Tan Sang) เดินทางเยือนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
สื่อของทางการเวียดนามได้รายงานพร้อมนำเสนอภาพเรือดีงเตี่ยนหว่าง (Dinh Tien Hoang - HQ 011) กับเรือหลีถายโต๋ (Ly Thai To - HQ 012) แล่นออกจากนครด่าหนัง ที่ตั้งกองเรือ 162 กองทัพเรือเขต 4 ในวันเสาร์ 22 มิ.ย.นี้ โดยมีกำหนดเข้าแวะจอดที่ท่าเรือจ้านเจียง มณฑลกว่างตง ของจีนในวันที่ 25
กองเรือรบเวียดนามที่มี พ.อเหวียนดึ๊กเญอ (Nguyen Duc Nho) เป็นหัวหน้าคณะ จะนำเรือทั้ง 2 ลำเข้าร่วมฝึกซ้อมการลาดตระเวนตรวจการณ์กับเรือรบของจีนจำนวนหนึ่ง และแลกเปลี่ยนการฝึกกันในหลายเนื้อหา ลูกเรือเวียดนามจะขึ้นบกเพื่อบำเพ็ญประโยชน์ รวมทั้งเที่ยวชมเมืองของจีนด้วย
นับเป็นครั้งแรกที่เรือรบทั้ง 2 ลำออกเยือนต่างแดน หนังสือพิมพ์แถ่งเนียน รายงานในเว็บไซต์ข่าวภาษาเวียดนาม
กองทัพเรือเวียดนามกล่าวว่า การเยือนจีนของเรือรบทั้ง 2 ลำ เป็นส่วนหนึ่งในการขยายความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพเรือ 2 ฝ่ายที่มีมายาวนาน และร่วมส่วนในการเพิ่มพูนสันติภาพในภูมิภาค สำนักข่าวอานนีงทูโดรายงาน
ทั้ง 2 ลำเป็นเรือฟริเกตชั้นเกพาร์ด 3.9 (Gephard 3.9) ขนาด 1,900 ตัน ติดจรวดนำวิถี รูปทรงสเตลธ์ แบบเดียวกับของกองทัพเรือรัสเซีย เมื่อต้นปีนี้เวียดนามได้เซ็นข้อตกลงจัดซื้อเรือชั้น “เสือดาว 3.9” จากรัสเซียอีกจำนวน 2 ลำ
นับเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่เวียดนามส่งเรือรบเยือนประเทศเพื่อนบ้านที่ใหญ่โตกว่าแห่งนี้ หลังจากเกิดความตึงเครียดที่ทำให้ 2 ฝ่ายเผชิญหน้ากันหลายครั้ง
ในช่วงปี 2553-2554 เวียดนามได้แสดงหลักฐานประกอบการกล่าวหาว่า เรือประมงติดอาวุธของจีนได้ตัดสายเคเบิลใต้นำของเรือสำรวจพลังงานของเวียดนามถึง 2 ครั้ง เหตุเกิดในน่านน้ำไหล่ทวีป ในเขตเศรษฐกิจจำเพาะ 200 ไมล์ทะเลของเวียดนาม
ไม่กี่เดือนมานี้ เวียดนามได้แสดงหลักฐานประกอบการกล่าวว่า จีนได้ยิงเรือประมงของเวียดนามถึง 2 ครั้งขณะหาปลาในเขตทะเลใกล้หมู่เกาะพาราเซล ที่ทั้งเวียดนาม และจีนต่างกล่าวอ้างเป็นเจ้าของ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนได้ออกแถลงปฏิเสธการกล่าวหาว่าใช้ความรุนแรง โดยระบุว่าฝ่ายจีน “ได้ปฏิบัติอย่างเหมาะสม” ต่อทั้ง 2 กรณี
จีนได้ประกาศเป็นเจ้าของพื้นที่ราว 80% ของทะเลจีนใต้ ซึ่งกระทบถึงเขตน่านน้ำชายฝั่ง และเขตเศรษฐกิจจำเพาะทางทะเลของประเทศเพื่อนบ้านแถบนี้หลายประเทศ
จีนและเวียดนามยังเป็นคู่พิพาทกันโดยตรงเหนือหมู่เกาะสแปร็ตลีย์ที่รุ่มรวยด้วยพลังงาน นอกจากนั้น ยังมีอีกหลายฝ่ายที่กล่าวอ่างสิทธิเหนือหมู่เกาะดังกล่าวเป็นบางส่วน ซึ่งได้แก่ ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย บรูไน รวมทั้งไต้หวันด้วย
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายต่างๆ ได้เรียกร้องให้จีนเคารพกฎหมายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือกฎหมายทางทะเลขององค์การสหประชาชาติ
จีนยังตกอยู่ใต้การกดดันของเพื่อนบ้านกลุ่มอาเซียน และสหรัฐฯ ที่เรียกร้องให้ปฏิบัติตามกฎข้อปฏิบัติทางทะเลในทะเลจีนใต้ รวมทั้งหลักการไม่ใช้กำลัง ซึ่งจีนได้เซ็นรับรองในหลักการร่วมกับอาเซียนตั้งแต่ปี 2545.
.