.
ASTVผู้จัดการออนไลน์ - อาคารผู้โดยสารสนามบินสากลนครเวียงจันทน์ เริ่มใช้ไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์อย่างเป็นทางการสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยต่อระบบโซลาร์เซลล์เข้ากับข่ายไฟฟ้าหลัก ซึ่งทางการกล่าวว่า ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้ถึง 10% หรือคิดเป็นเงินราว 241 ล้านกีบ (กว่า 920,000 บาท) ต่อปี
โครงการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ที่สนามบินวัดไต เป็นการช่วยเหลือแบบให้เปล่าจากรัฐบาลญี่ปุ่น เป็นมูลค่าก่อสร้าง 480 ล้านเยน (ราว 40,000 ล้านกีบ หรือ 148 ล้านบาทเศษ) พิธีรับมอบโครงการจัดขึ้นวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา
นายวีละพัน วีละวง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพลังงานและเหมืองแร่ นายบุนจัน สินทะวง รมช.กระทรวงโยธาธิการและขนส่ง กับนายโคอิชิ ทาเคอิ (Koishi Takei) หัวหน้าองค์การไจก้าประจำลาว เข้าร่วมในพิธีดังกล่าว สื่อของทางการรายงาน
ระบบโซลาร์เซลล์ ของสนามบินมีกำลังผลิต 237 กิโลวัตต์ ประกอบด้วย แผ่นเก็บแสงอาทิตย์ขนาด 230 Wp จำนวน 1,034 แผ่น กำลังผลิต 288.3 เมกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี การทดลองผลิตในเดือน ต.ค.ปีที่แล้ว พบว่า ผลิตไฟฟ้าได้ 957.5 กิโลวัตต์ชั่วโมงต่อวัน
ไฟฟ้าที่ผลิตจากแหล่งนี้นำไปใช้ภายในอาคารผู้โดยสารขาเข้า-ออก และสำนักงานของท่าอากาศยานเท่านั้น หนังสือพิมพ์เวียงจันทน์ใหม่ของทางการนครเวียงจันทน์รายงาน
องค์การไจก้า กำลังก่อสร้างโครงการแบบเดียวกันนี้ที่สำนักงานใหญ่รัฐวิสาหากิจไฟฟ้าลาวอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งนอกจากจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายด้านค่าไฟฟ้าโดยตรง ยังเป็นการเผยแพร่ให้สังคมได้รับรู้เกี่ยวกับพลังงานทางเลือกชนิดนี้อย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น
ไฟฟ้าที่ผลิตจากแสงอาทิตย์ ยังผลิตได้ไม่จำกัด สะอาด ไม่ปล่อยมลพิษสู่สภาพแวดล้อม ช่วยลดการปล่อยสารคาร์บอนของลาวได้ปีละประมาณ 200 ตัน คิดคำนวณตามสูตร UNFCC/CMD หน่วยงานของสหประชาชาติที่กำกับดูแลด้านนี้ สื่อของทางการกล่าว.
.