.
ASTVผู้จัดการออนไลน์ - องค์การการบินพลเรือนเวียดนาม ได้พิจารณาลงโทษปรับกัปตัน และนักบินผู้ช่วย ฐานกระทำการละเมิดกฎความปลอดภัยเกี่ยวกับการบิน โดยนำบุคคลที่ไม่มีหน้าที่ และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับปฏิบัติการการบินเข้าไปในห้องควบคุมขณะที่เครื่องบินกำลังบิน เรื่องนี้แดงโร่ออกมาหลังจากมีภาพกัปตัน และนักบินถ่ายกับสาวสวยซึ่งเป็นอดีตทูตไมตรีจิตขององค์การบริหารการท่องเที่ยวเวียดนาม
ภาพเหตุการณ์นี้ทำให้สายการบินแห่งชาติ และผู้คนในอุตสาหกรรมนี้ต่างตกตะลึง สำนักข่าวออนไลน์ภาษาเวียดนามรายงาน
เหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.2556 บนเครื่องเวียดนามแอร์ไลน์ส เที่ยวบิน VN595 ขณะบินจากฮ่องกงไปนครโฮจิมินห์ เรื่องเพิ่งจะแดงโร่สัปดาห์ที่แล้วหลังจากหลีหญากี่ (Ly Nha Ky) หญิงสาวในภาพ ได้นำภาพเหตุการณ์ขึ้นแชร์ในเฟซบุ๊ก และภาพได้แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องทำการสอบสวน
ทันที่ที่ได้ทราบว่าภาพกำลังจะทำให้นักบิน และกัปตันต้องเดือดร้อน หลีหญากี่ได้ลบภาพทั้งหมดออกจากเฟซบุ๊กทันทีแต่ก็สายเกินไป
นอกจากนั้น เธอก็ยังติดต่อไปยังสื่อต่างๆ ด้วยตัวเอง อธิบายเหตุการณ์ และขอแสดงความรับผิดชอบ เสนอให้หน่วยงานที่กำกับดูแลลงโทษตนแต่ผู้เดียว โดยระบุว่าเป็นเพราะตนเองไม่รู้ว่าผิดกฎระเบียบการบินจึงขอเข้าไปในห้องของนักบินเพื่อถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
นายเหวียนจ่อมถัง (Nguyen Trong Thang) ผู้อำนวยการสำนักงานตรวจสอบขององค์การการบินพลเรือนเวียดนาม กล่าวว่า ดาราสาวมิได้กระทำผิดอะไรที่เข้าไปอยู่ในห้องนักบินเนื่องจากได้รับอนุญาต แต่กัปตัน และนักบินผู้ช่วยจะถูกปรับในเบื้องต้นฐานหละหลวมต่อหน้าที่ และละเมิดกฎความปลอดภัยการบิน
ภาพได้ปรากฏชัดว่า กัปตันได้ลุกออกจากที่นั่งปฏิบัติการขณะที่เครื่องบินกำลังอยู่ใน “ไฟลต์โหมด” คือกำลังบินอยู่ และอนุญาตให้ผู้อื่นที่มิได้เกี่ยวข้องกับการบินเข้าไปนั่งในที่แทน
กัปตันอาจจะถูกปรับเป็นเงิน 5 ล้านด่ง (ราว 240 ดอลลาร์) และนักบินผู้ช่วย 3 ล้านด่ง โดยยังไม่รวมโทษทางวินัยที่จะต้องสอบสวนกันต่อไป สำนักข่าวเกี่ยวดึ๊กเหวียดนาม หรือ “ข่าวการศึกษาเวียดนาม” สำนักข่าวออนไลน์ภาษาเวียดนามยอดนิยมรายงาน
.
2
3
“เธอได้พยายามมากที่จะช่วยเหลือพวกเขา เธอได้ไปพบสื่อต่างๆ ด้วยตัวเอง ได้เข้าพบชี้แจงต่อหน่วยงานที่รับผิดชอบ และขอรับผิดแทนพวกเขาแต่ผู้เดียว เธอยังขอโทษต่อสาธารณชนเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น” เกี่ยวดึ๊กฯ อ้างถึงจดหมายที่หลีหญากี่ เขียนถึงเพื่ออธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ในภาพชุดที่สร้างปัญหานี้ หลีหญากี่สวมชุดวอร์มผ้ายืดแบบนักกีฬา สวมหมวกของกัปตัน โพสท่าถ่ายรูปกับนักบิน ซึ่งแสดงให้เห็นว่า กัปตันได้ลุกออกจากที่นั่งไปเป็นผู้ถ่าย ก่อนจะให้นักบินช่วยถ่ายคู่กับดาราสาวอีกครั้งซึ่งปรากฏอยู่ในอีกรูปหนึ่ง
นอกจากนั้น ยังมีภาพของดาราสาวที่ถ่ายคู่กับพนักงานบริการบนเครื่องชายคนหนึ่งกับหญิงอีกคนหนึ่งอีกด้วย
หลีหญากี่ ผ่านการแสดงมามากมาย ทั้งงานภาพยนตร์ และละครโทรทัศน์ และหลายฝ่ายกล่าวว่า เธอควรจะได้ปฏิบัติหน้าที่ทูตสันถวไมตรีการท่องเที่ยวของประเทศต่ออีกสมัยในปีนี้
แต่สาวสวยได้ตัดสินใจไม่ลงสมัครอีก หลังจากที่ผ่านมา ถูกสื่อวิจารณ์อย่างหนักเป็น “ตู้เพชรเคลื่อนที่” เนื่องจากชอบประดับประดาแก้วแหวนเงินทองออกงาน ซึ่งบรรดาคอลัมนิสต์เห็นว่า “มากเกินงาม” ไม่เหมาะสมกับฐานะทูตสันถวไมตรี ฯลฯ.
.
4
5