.
ASTVผู้จัดการออนไลน์ - นครหลวงของลาวจะต้องไม่มีขอทานแม้แต่คนเดียว หลังจากไล่จับเมื่อปีที่แล้ว ก่อนจะเป็นเจ้าภาพจัดประชุมผู้นำเอเชีย-ยุโรปในเดือน พ.ย. ทางการยังคงไล่จับขอทานส่งสถานสงเคราะห์ต่อไป พร้อมออกมาตรการเด็ดขาด ถ้าหากยังไม่ยอมเลิกอาชีพนี้ก็จะถูกส่งสถานอบรมดัดสันดาน บนเกาะหน้าเขื่อนน้ำงึม
แผนกแรงงาน-สวัสดิการสังคมของเมืองหลวง จัดประชุมสรุปผลงานเรื่องนี้สัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ห้องว่าการนคร มีผู้แทนจากกระทรวงสาธารณสุขระดับรองเจ้าเมือง กับหัวหน้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจาก 8 เมือง (อำเภอ) เข้าร่วมพร้อมหน้า สื่อของทางการรายงาน
นายวีละสัก นามมุนตี หัวหน้าแผนกแรงงาน-สวัสดิการสังคมนครเวียงจันทน์ กล่าวว่า ในช่วง 5 เดือนสุดท้ายของปี 2555 ได้มีการจับ “คนขอทาน บ้าใบ้จิตเสื่อม และเด็กเล็กที่ไม่มีผู้ปกครอง” นำส่งศูนย์สงเคราะห์เป็นจำนวนทั้งหมด 175 คน ซึ่งในนั้นเป็นเพศหญิง 64 คน
คนขอทานจำนวนหนึ่งมีญาติพี่น้องรับตัวกลับสู่ครอบครัวแล้ว และไม่ให้กลับมาประกอบอาชีพนี้อีก ปัจจุบัน ยังเหลืออยู่ที่ศูนย์ฯ 105 คน เป็นหญิง 36 คน หนังสือพิมพ์ของทางการนครเวียงจันทน์กล่าว
คนขอทานส่วนใหญ่ไปจากต่างแขวง (จังหวัด) มาตรการขั้นต่อไปก็คือ ทางการนครจะติดต่อประสานงานกับทางการแขวงต่างๆ เพื่อให้รับตัวขอทานที่ไปจากแขวงนั้นๆ กลับถิ่นฐานเดิม และไม่ให้กลับไปขอทานในเมืองหลวงอีก ซึ่งจะมีการขึ้นบัญชีรายชื่อ และเข้มงวดกวดขันเรื่องนี้
สำหรับคนขอทานที่ “ดื้อด้าน” ผ่านการศึกษา และอบรมแล้วยังกลับไปขอทานอีก รองเจ้าครองนคราเวียงจันทน์ได้จัดร่างแผนการถึงกระทรวงแรงงาน-สวัสดิการสังคมแล้ว เพื่อนำคนเหล่านั้นส่งไปดอนท้าว-ดอนนาง สถานดัดสันดานอันลือชื่อกลางอ่างเก็บน้ำเขื่อนน้ำงึม 1 ในแขวงเวียงจันทน์
ดอนท้าว-ดอนนาง เป็นที่รู้จักสำหรับโลกภายนอกเพียงไม่นาน หลังการปลดปล่อยประเทศชาติ หรือฝ่ายคอมมิวนิสต์เข้ายึดอำนาจการปกครองเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.2518 โดยจับข้าราชการในระบอบเก่า รวมทั้งผู้ที่กระด้างกระเดื่องส่งไปรับการอบรมที่สถานกักกันบนเกาะทั้ง 2 แห่ง
ปัจจุบัน ดอนท้าวกับดอนนาง (ดอนชาย-ดอนหญิง) เป็นสถานท่องเที่ยวสำคัญอีกแห่งหนึ่งสำหรับผู้ไปเที่ยวชมเขื่อนน้ำงึม เขื่อนใหญ่แห่งแรกของลาว บนเกาะมีการแสดงนิทรรศการความเป็นมา และจัดจำหน่ายสินค้าที่ผลิตโดยนักโทษอีกด้วย.