เอเอฟพี - สื่อทางการพม่ารายงานวันนี้ (11 ม.ค.) ว่า ผู้นำพม่ากล่าวปกป้องการตอบโต้ของกองทัพทหารต่อกลุ่มกบฏชาติพันธุ์ในรัฐกะฉิ่น แม้ความรุนแรงที่ยกระดับขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา จะทำให้ความพยายามสร้างสันติภาพต้องจางลง
กลุ่มกบฏกล่าวว่า กองทัพทหารพม่าได้ยกระดับการต่อสู้ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาในบริเวณฐานที่มั่นในเมืองลายซา (Laiza) ขณะที่สัปดาห์ก่อน สหรัฐฯ และสหประชาชาติได้กล่าวตำหนิการโจมตีทางอากาศของพม่าในพื้นที่รัฐทางเหนือของประเทศ
แต่ประธานาธิบดีเต็งเส่งกลับกล่าวชื่นชมทัตมะดอว์ (ชื่อเรียกกองทัพพม่า) ต่อการเสียสละเลือด และหยาดเหงื่อ และว่า กองทัพทำทุกอย่างที่เป็นไปได้เพื่อสนับสนุนในทางบวกต่อกระบวนการสร้างสันติภาพ
ผู้เชี่ยวชาญบางส่วนได้ตั้งคำถามถึงระดับการควบคุมของเต็งเส่งต่อกองกำลังทหารในรัฐกะฉิ่น หลังมีคำสั่งให้ยุติการต่อสู้ตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2554 แต่กลับถูกเพิกเฉย
หนังสือพิมพ์นิวไลท์ออฟเมียนมาร์รายงานว่า ประธานาธิบดีเต็งเส่งได้กล่าวถึงกลุ่มกบฏว่า ประตูเปิดอยู่เสมอสำหรับองค์กรกะฉิ่นอิสระ (KIO) และกองทัพกะฉิ่นอิสระ (KIA) เพื่อหารือการหยุดยิง
พลเรือนหลายหมื่นคนต้องไร้ที่อยู่จากความขัดแย้งในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศนับตั้งแต่เดือน มิ.ย. 2554 เมื่อข้อตกลงหยุดยิง 17 ปี ระหว่างรัฐบาล และ KIA ถูกละเมิดลง และรัฐบาลกึ่งพลเรือนของพม่าที่ขึ้นบริหารประเทศในปี 2554 ได้บรรลุข้อตกลงสันติภาพเบื้องต้นกับกลุ่มกบฏชาติพันธุ์หลายกลุ่ม แต่ข้อตกลงกับกะฉิ่นกลับคืบหน้าไม่มากนัก
ฝ่ายกะฉิ่นกล่าวหารัฐบาลว่า ผลักดันการเจรจาเพียงเฉพาะในประเด็นที่เกี่ยวกับการหยุดยิง และการถอนกำลังทหาร แต่เพิกเฉยที่จะจัดการกับความต้องการด้านสิทธิทางการเมือง
มาเอล เรย์โนลด์ นักวิเคราะห์อิสระกล่าวว่า สถานการณ์มีความซับซ้อน เนื่องจากความชื่นชอบอำนาจของผู้บัญชาการกองทัพทหารในพื้นที่ที่สร้างความยุ่งยากให้แก่รัฐบาลที่จะฟื้นอำนาจการควบคุม ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีก็ต้องการแรงสนับสนุนของกองทัพในการดำเนินการปฏิรูป เพราะบางอย่างจะสามารถบรรลุได้ หากเต็งเส่งไม่ย้ายฐานอำนาจกองทัพที่ต้องการครอบครองไว้.