.
ASTVผู้จัดการออนไลน์ - หลังจากร่ำลือกันมาข้ามสัปดาห์ ในที่สุดกัมพูชาฮุนเซนก็ออกยอมรับ รัฐบาลซื้อรถถัง กับยานลำเลียงพลหุ้มเกราะชุดใหม่ โดยอ้างมีความจำเป็นเพื่อป้องกันประเทศ แต่ขณะเดียวกัน ก็ไม่ยอมเปิดเผยแหล่งที่มา จำนวน รุ่นชนิด และมูลค่าซื้อขายของ โดยระบุว่าเป็นความลับทางทหาร
นรม.กัมพูชากล่าวถึงเรื่องนี้เป็นครั้งแรกในวันจันทร์ 12 พ.ย.ที่ผ่านมา ขณะไปทำพิธีมอบโฉนดที่ดินให้แก่ราษฎร 1,178 ครอบครัว ใน จ.เสียมราฐ ยอมรับว่า รัฐบาลเพิ่งซื้อ “อาวุธ” จำนวนหนึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ เพื่อสร้างเสริมขีดความสามารถการป้องกันประเทศ ไม่ได้ประสงค์จะนำไปสู้กับใคร
“ทุกประเทศทั่วโลกจะต้องมีอาวุธเอาไว้ป้องกันชาติ” สำนักข่าวกัมพูชาอ้างคำพูดของผู้นำที่มีอำนาจสูงสุด ทั้งยืนยันด้วยว่า อาวุธยุทโธปกรณ์ทั้งหมดส่งถึงท่าเรือสีหนุวิลล์ในวันที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา
ตามรายงานของหนังสือพิมพ์พนมเปญโพสต์ ก่อนหน้านี้ยุทโธปกรณ์รุ่นใหม่เป็นรถถัง 100 คัน กับยานลำเลียงพลหุ้มเกราะอีก 40 คัน มากกว่าจำนวนที่สั่งซื้อจากสาธารณรัฐยูเครนเมื่อ 2 ปีก่อน
พนมเปญโพสต์รายงานเรื่องนี้โดยอ้างแหล่งข่าวที่ท่าเรือสีหนุวิลล์ ซึ่งไม่ยอมเปิดเผยต้นทางของอาวุธยุทโธปกรณ์ล็อตล่าสุด และกระทรวงกลาโหมกัมพูชาไม่ยอมปริปากใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้
นับเป็นการซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ล็อตใหญ่เป็นครั้งที่ 2 ของกัมพูชา หลังจากรถถังที-55 (T-55) กับรถลำเลียงพลหุ้มเกราะชนิด 8 ล้อ จำนวน 94 คัน จากยูเครนส่งถึงท่าเรือสีหนุวิลล์ในเดือน ก.ย.2553 ในขณะที่มีความตึงเครียดกับไทยที่ชายแดนปราสาทพระวิหาร
หนังสือพิมพ์ “ประชาชน” ของจีนรายงานช่วงเดียวกันว่า อาวุธยุทโธปกรณ์ล็อตดังกล่าวเป็นรถถัง 50 คัน รถลำเลียงพลหุ้มเกราะ 40 คัน ที่เหลือเป็นยานยนต์ชนิดอื่น
ในปี 2553 เช่นกัน จีนได้ส่งรถบรรทุกทหารหลายชนิด รวมทั้งรถเทรลเลอร์ขนาดใหญ่สำหรับขนส่งรถถัง กับรถพยาบาลสนามไปให้กัมพูชา จำนวน 250 คัน ในรูปของความช่วยเหลือแบบให้เปล่า
ต่อมา ในเดือน ส.ค.2554 ระหว่างการเยือนของนายโจวหยงคาง (Zhou Yongkang) กรรมการประจำกรมการเมืองพรรคคอมมิวนิสต์จีน ฝ่ายจีนได้ให้เงินกู้แก่กัมพูชาที่ไม่เปิดเผยจำนวน เพื่อซื้อเฮลิคอปเตอร์จากจีน จำนวน 2 ลำ
สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนได้รายงานเกี่ยวกับรถถัง และยานหุ้มเกราะล์อตใหม่ของกัมพูชาในวันจันทร์นี้เช่นกัน โดยอ้างคำพูดของ นรม.กัมพูชา ซึ่งไม่ได้เปิดเผยอะไรเกี่ยวกับจำนวน และแหล่งที่มา
.
2
3
4
“รถถังชุดใหม่ที่เพิ่งมาถึงมีไว้เพื่อเสริมขีดความสามารถในการป้องกันเพียงเท่านั้น เป็นไปไม่ได้ที่ประเทศจะไม่มีอาวุธอยู่ในมือ” ฮุนเซนกล่าวในพิธีมอบโฉนดที่ดิน
“อย่าถามว่าเราซื้อรถถังเหล่านี้มาจากไหน เพราะนี่เป็นความลับทางทหาร” ฮุนเซนกล่าว
ข่าวการส่งรับมอบอาวุธล็อตใหม่ของกัมพูชายังมีขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากสำนักข่าวกลาโหมหลายแห่งออกรายงานเกี่ยวกับการจัดซื้อรถถังเพิ่มเติมของกองทัพไทย ซึ่งรวมทั้งหมด 200 คัน เพื่อใช้แทนรถถัง M41A3 ที่ปลดประจำการออกไปจำนวน 200 คัน
กองทัพไทยกำลังพิจารณาซื้ออีกล็อตหนึ่งที่ยั้งไม่ทราบจำนวน ระหว่างรถถังโอพล็อต เอ็ม (Oplot M) จากสาธารณรัฐยูเครน รถถัง K-1 ที่ผลิตในเกาหลี ที-90 (T-90) จากรัสเซีย กับเลโอพาร์ด-2 (Leopard 2) จากเยอรมนี หลังจากได้รับอนุมัติเงินงบประมาณเกือบ 7,000 ล้านบาท
เดือน มี.ค.ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบกไทย ได้นำคณะเยือนยูเครนและได้ชมการทดสอบรถถังโอพล็อตเอ็ม ด้วย โดยก่อนหน้านั้นในเดือน ก.ย.2554 กองทัพไทยได้เซ็นสัญญาซื้อโอพล็อตเอ็มจำนวน 49 คันเป็นล็อตแรก จากบริษัทส่งออกอาวุธ Ukrspetzexport ของรัฐบาลยูเครน กองทัพไทยยังไม่เคยให้ข่าวสารใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ
แต่เมื่อนำประจำการในกองทัพบก โอพล็อต เอ็มของไทยจะเป็นรถถังที่ก้าวหน้าทันสมัยที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เว็บไซต์ Army-Technology.Com กล่าว.
เช็กกำลัง Cambodia Express News
ภาพแฟ้มจากเดือน ม.ค.2554 โดยสำนักข่าว CEN (Cambodia Express News) กองทัพกัมพูชาเคลื่อนรถถัง T-55 กับยานลำเลียงพลหุ้มเกราะออกจากค่ายทหารแห่งหนึ่งชานกรุงพนมเปญ ต่อมาในเดือน ก.พ. ยานเกราะเหล่านี้ก็ปรากฏตัวที่ชายแดนด้าน จ.พระวิหาร ในช่วงที่กำลังตึงเครียดกับไทย ซึ่งในเดือนเดียวกันกองทัพไทยได้ส่ง M60A3 เข้าชายแดน จ.ศรีสะเกษ กัมพูชาได้รับรถถัง-เอพีซีลอตนี้รวม 94 คันในเดือน ก.ย. 2553 แต่วันที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา รถถังกับเอพีซีอีก 140 คันส่งถึงท่าเรือสีหนุวิลล์ ยังไม่ทราบรุ่นและแหล่งที่มา บางฝ่ายบอกว่าเป็นลอตใหม่จากยูเครน แต่ก็มีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะเป็นความช่วยเหลือจากจีน. |
5
6
7
8
9