xs
xsm
sm
md
lg

พบลวดมัดคอ “โคตรแม่เคี่ยม” พันธุ์สยามตัวสุดท้ายในเวียดนามถูกฆ่าตาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<bR><FONT color=#000033>เจ้าหน้าที่ชันสูตรพบเส้นลวดมัดรอบคอซึ่งแสดงให้เห็นว่ามันติดบ่วงและพยายามดิ้นรนให้หลุดจนสิ้นชีวิต จระเข้เพศเมียตัวนี้มีอายุเกือบ 100 ปี ยาว 3.2 เมตร น้ำหนักราว 150 กก. นักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญเวียดนามที่ติดตามมันมาหลายปีเชื่อว่า นี่อาจจะเป็นจระเข้พันธุ์สยามตัวสุดท้ายที่อาศัยอยู่ในธรรมชาติ ในดินแดนเวียดนาม. -- ภาพ: Tuoi Tre Online. </b>
.

ASTVผู้จัดการออนไลน์ - จระเข้น้ำจืดขนาดใหญ่ที่เชื่อว่าเป็นพันธุ์สยาม (crocodylus siamensis) ตัวสุดท้ายในเวียดนามที่พบลอยขึ้นอืดวันเสาร์ที่ผ่านมานั้น ไม่ได้ตายโดยสาเหตุธรรมชาติ หากตายเพราะถูกล่า โดยพบเส้นลวดขนาดใหญ่มัดรอบคอของมัน และยังพบท่อนเหล็กผูกยึดติดกับต้นไม้ใหญ่บนบก มีเส้นลวดลากลงหนองน้ำที่พบร่างไร้ชีวิต ซึ่งแสดงให้เห็นฝีมือของพวกนักล่า ผู้เชี่ยวชาญกล่าวในวันจันทร์ที่ 1 ต.ค.นี้

“สีเนื้อของมันเปลี่ยนไป ไม่พบเลือดในตัว หนังของมันหลุดลอกออกเป็นชิ้นๆ ซึ่งบ่งชี้ว่าจระเข้เสียชีวิตตั้งแต่ 3 วันก่อน” นายเจิ่นวันบ่าง (Tran Van Bang) ผู้เชี่ยวชาญและนักชีววิทยาแห่งสถาบันวิทยาศาสตร์-เทคโนโลยีเวียดนามแถลงเรื่องนี้ และยังเปิดเผยด้วยว่า มันเป็นจระเข้เพศเมีย มีอายุเกือบ 100 ปี

ชาวบ้านที่ออกหาปลาพบจระเข้ลำตัวยาว 3.2 เมตร น้ำหนักราว 150 กก. ลอยขึ้นอืดในหนองน้ำซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทะเลสาบเอียลาม (Ea Lam) ใน จ.ฝูเอียน (Phu Yen) ทะเลสาบดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของระบบหนองบึงอันสลับซับซ้อนในเขตอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนกั้นลำน้ำบาห่า (Ba Ha) มีผู้พบเห็นมันตั้งแต่ปี 2550 และผู้เชี่ยวชาญเชื่อกันว่า อาจจะเป็นจระเข้พันธุ์สยามตัวสุดท้ายในเวียดนาม

นี่คือสัตว์เลื้อยคลานที่ใกล้สูญพันธุ์มากที่สุดอีกชนิดหนึ่งใน “บัญชีแดง” ของ สหภาพสมาคมอนุรักษ์ธรรมชาติระหว่างประเทศหรือ IUCN (International Union for Conservation of Nature)

นายบ่างซึ่งทำหน้าที่ชันสูตรได้ล้วงลงไปในลำตัวของมัน และในที่สุด เขาก็ประกาศแบบสิ้นหวังว่า ไม่พบไข่อยู่ในท้องจระเข้ขนาดใหญ่ตัวนี้ “ถ้าหากพบไข่ในท้องก็จะพออนุมานได้ว่า เธอ (จระเข้) ผสมพันธุ์แล้ว ซึ่งหมายความว่า ยังมีจระเข้เพศผู้พันธุ์สยามอีกหนึ่งตัวอาศัยอยู่ในหนองบึงแห่งนี้”

ดร.หวูหง็อกลมง์ (Vu Ngoc Long) ผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ กล่าวว่า “อาจจะเป็นไปได้ว่า นี่คือจระเข้พันธุ์สยามตัวสุดท้ายที่พบอาศัยอยู่ในธรรมชาติในดินแดนเวียดนาม” หนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋รายงานในเว็บไซต์ข่าวภาษาเวียดนามก่อนหน้านี้

ชนชาติส่วนน้อยชาวเอเด (E De) ที่อาศัยอยู่ในคอมมูนรอบๆ ทะเลสาบเอียลาม เล่าว่า ในช่วงทศวรรษที่ 1970 ยังพบจระเข้ในบริเวณนี้มากมาย พวกนี้มักจะแอบเลื้อยขึ้นจากหนองบึงเงียบๆ เพื่อไล่งับลูกวัวไปเป็นอาหาร แต่ในปัจจุบัน ไม่มีจระเข้ให้เห็นอีกแล้ว

ชนพื้นเมืองกลุ่มนี้นับถือจระเข้เป็นเสมือนบรรพบุรุษของตน และเรียกมันว่า “ปลาใหญ่” เพราะเชื่อว่าเมื่อบรรพชนเสียชีวิตลงจะเข้าสิงในร่างจระเข้ จึงไม่มีใครกล้ารบกวนสัตว์เลื้อยคลานตัวโตพวกนี้

ดร.ลมง์ยังกล่าวอีกว่า กองทุนเพื่อสัตว์ป่าโลกเคยออกประกาศก่อนหน้านี้ว่า ไม่มีจระเข้เหลืออยู่ในเขตทะเลสาบ และระบบหนองบึงในละแวกนี้มาตั้งแต่ปี 2544 แต่ 6 ปีต่อมา ชาวพื้นเมืองได้พบจระเข้ตัวนี้ โดยเห็นแต่รูจมูกของมันซึ่งบ่งชี้ว่าเป็นจระเข้ขนาดใหญ่ แม้จะไม่เคยมีใครเห็นตัวจริงก็ตาม ลักษณะของรูจมูกจากคำบอกเล่าของผู้ที่พบทำให้ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่ามันเป็นจระเข้พันธุ์สยาม
.
<bR><FONT color=#000033>เจ้าหน้าที่ชำแหละ โคตรแม่เคี่ยม เพื่อเก็บตัวอย่างชิ้นส่วนและอวัยวะต่างๆ ร่างของมันจะถูกสต๊าฟ เพื่อนำไปวางแสดงในพิพิธภัณฑ์วิทยาศาาสตร์ธรรมชาตินครโฮจิมินห์ ให้ชนรุ่นหลังได้ดู. -- ภาพ: Tuoi Tre Online.   </b>
<bR><FONT color=#000033>เจ้าหน้าที่ช่วยกันนำจระเข้น้ำจืดขนาดใหญ่ที่บวมทั้งตัวขึ้นบกเมื่อวันอาทิตย์ 30 ก.ย. เพื่อตรวจพิสูจน์ต่อไป เจ้าหน้าที่ชันสูตรกล่าวในวันจันทร์นี้ว่า มันเสียชีวิตตั้งแต่ 3 วันก่อนหน้านั้น และพบเส้นลวดมัดรอบคอด้วย. -- ภาพ: Tuoi Tre Online.</b>
.
จระเข้พันธุ์นี้เป็นสัตว์พื้นเมืองที่ครอบครองแหล่งน้ำ และลำธารในแผ่นดินใหญ่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งในไทย กัมพูชา ลาว และเวียดนาม ปัจจุบันเชื่อว่ายังมีเหลืออยู่ในธรรมชาติราว 100 ตัวเท่านั้น หลายสิบปีก่อน เคยพบในแม่น้ำ จ.ซยาลาย (Gia Lai) และ จ.กงตูม (Kon Tum) ในทะเลสาบลัก (Lak) จ.ดั๊กลัก (Dak Lak) ซึ่งอยู่ในเขตที่ราบสูงภาคกลางของเวียดนาม หรือแม้กระทั่งในเขตที่ราบปากแม่น้ำโขง ทางตอนใต้

จระเข้พันธุ์สยามที่โตเต็มที่อาจจะยาวถึง 4 เมตร และน้ำหนักหลายร้อยกิโลกรัม

“ปีที่แล้วเราได้เป็นประจักษ์พยานการเสียชีวิตของแรดนอเดียวพันธุ์ชวาตัวสุดท้ายในเวียดนาม ปีนี้เราได้เห็นการสูญหายไปของจระเข้พันธุ์สยาม พวกช้างเอเชีย เสือโคร่งอินโดจีน รวมทั้งพวกค่าง 6 สี ก็อาจจะสูญพันธุ์จากป่าเวียดนามตามกันไปในอนาคต” ดร.ลมง์กล่าว

ในปี 2548 ดร.ลมง์ไปยังทะเลสาบแห่งนี้เมื่อชาวบ้านที่อาศัยอยู่รอบๆ แจ้งว่าเห็นจระเข้ลอยตัวขึ้นมาผิวน้ำ แต่เฝ้าดูอยู่หลายวันก็ไม่พบ ระหว่างปี 2549-2552 ดร.ลมง์พร้อมกับผู้แทน IUCN ได้ออกสำรวจทั้งอาณาบริเวณ เก็บตัวอย่างรอยเท้าและอุจาระของมันซึ่งพบอยู่เพียง 2 ชิ้น และโชคดีที่ได้เห็นนัยน์ตาของจระเข้ ซึ่งเข้าใจว่าจะเป็นตัวเดียวกับที่เพิ่งจะเสียชีวิตนี้

นายเลวันเหียน (Le Van Hien) เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์สาขา และประธานคณะปกครองคอมมูนเอียลาม กล่าวว่า เมื่อต้นปีนี้เคยมีผู้บอกเล่าให้ฟังเกี่ยวกับพวกพรานจากชุมชนอื่น จับจระเข้จากทะเลสาบเอียลามไป 2 ตัว และแล่เนื้อขายให้ชาวบ้าน

“เราได้รับแจ้งว่า ชาวบ้านบางคนซื้อเนื้อ และหนังจระเข้เอาไว้ แต่เมื่อเราไปที่นั่นก็ไม่พบอะไรแล้ว” นายเหียนกล่าว.
กำลังโหลดความคิดเห็น