เอเอฟพี - การเติบโตทางเศรษฐกิจเวียดนามชะลอตัวที่ 4.73% ใ่นช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ รัฐบาลระบุ สร้างความหวาดวิตกว่าจะเกิดภาวะเงินเฟ้อสูงรอบใหม่
สำนักงานสถิิติใหญ่เวียดนาม (GSO) ระบุว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศลดลงจาก 5.77% ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ส่วนเศรษฐกิจอยู่ในช่วงของความยากลำบาก และอุปสรรคหลายประการที่จำเป็นต้องจัดการแก้ไข โดยตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 5.5% ตลอดทั้งปี 2555 ซึ่งเป็นตัวเลขที่ปรับลดลงจาก 6.0-6.5% ที่ตั้งไว้ในช่วงเริ่มต้นปี
ผลผลิตจากภาคอุตสาหกรรมเติบโตเพียง 4.36% ในช่วงระหว่างเดือน ม.ค.-ก.ย. เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ขยายตัวถึง 7.8% ขณะเดียวกัน ภาคการเกษตรขยายตัวเล็กน้อยที่ 2.48% จาก 4.1% ในปี 2554 เนื่องจากภาวะน้ำท่วมและโรคระบาดในปศุสัตว์
GSO ระบุว่า เงินเฟ้อเริ่มขยายตัวในเดือน ก.ย. นี้ เป็นครั้งแรกในรอบ 12 เดือน ที่ 6.48% เทียบปีต่อปี
เวียดนามพยายามควบคุมเงินเฟ้อ หลังจากเคยแตะระดับสูงสุดถึง 23% ในเดือน ส.ค. ปีก่อน ส่งผลให้รัฐบาลต้องปรับเพิ่มดอกเบี้ยเพื่อพยายามป้องกันเศรษฐกิจขยายตัวอย่างควบคุมไม่ได้ ความพยายามดังกล่าวประสบผลสำเร็จ แต่ธนาคารกลางได้ปรับเปลี่ยนนโยบายในปีนี้ โดยปรับลดดอกเบี้ยลงถึง 5 ครั้ง เนื่องจากการเติบโตทางเศรษฐกิจเริ่มชะลอตัวลง
ในความพยายามที่จะจัดการกับเศรษฐกิจของประเทศ รัฐบาลได้ออกมาปฏิเสธรายงานของสื่อที่ระบุว่า รัฐบาลจำเป็นต้องใช้เงินช่วยเหลือจาก IMF เพื่อให้เศรษฐกิจมีสภาพคล่อง
นายกรัฐมนตรีเหวียน เติ๋น ยวุ๋ง ของเวียนามกล่าวว่า เวียดนามไม่จำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือทางการเงิน เนื่องจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจมหภาคในปัจจุบัน เป็นไปในทิศทางที่ดี ไม่ว่าจะดุลการชำระเงิน เงินสำรองระหว่างประเทศ และความเชื่อมั่นในตลาด.