เอเอฟพี - ชาวพม่าหลายร้อยคนรวมตัวประท้วงต่อต้านเหมืองทองแดงที่มีชาวจีนร่วมเป็นเจ้าของ พร้อมปฏิญาณว่า จะต่อต้านโครงการเหมืองต่อไป แม้ว่าผู้ประท้วงจะถูกจับ หรือมีคำสั่งให้กลุ่มประท้วงย้ายไปที่อื่น
ชาวบ้านในเมืองมอญยอ เขตสะกาย ทางภาคเหนือของประเทศ รวมตัวประท้วงต่อเนื่องหลายสัปดาห์ กล่าวหาว่าเหมืองแห่งนี้ยึดที่ดินของชาวบ้าน และยังเกรงว่าเหมืองจะสร้างมลพิษสิ่งแวดล้อม
“สิ่งสำคัญคือพวกเราต้องการให้ยุติโครงการเหมืองทองแดง นี่เป็นการทำลายชีวิตของชาวบ้านที่อาศัยพึ่งพาที่ดินผืนนี้มาตั้งแต่พวกเขาเกิด” นายฮัน วิน อ่อง นักเคลื่อนไหวที่ช่วยเหลือชาวบ้านกล่าว พร้อมระบุว่า ประชาชนราว 300-600 คน ได้เข้าร่วมการประท้วงโครงการเหมืองทองแดงแห่งนี้ ที่พื้นที่ราว 20,000 ไร่ ยึดเอาไปจากเกษตรกรท้องถิ่น โดยไม่มีการปรึกษา และในบางกรณีไม่มีการจ่ายค่าชดเชย
ประชาชนใน 4 หมู่บ้าน ต้องย้ายออกจากพื้นที่เพื่อเปิดทางให้แก่โครงการที่จะกระทบประชาชนรวมทั้งหมด 26 หมู่บ้าน
นักเคลื่อนไหวกล่าวว่า ชาวบ้านประมาณ 70 คน รวมตัวกันที่วัดในเมืองมอญยอ และปฏิเสธที่จะออกจากพื้นที่ แม้จะเลยกำหนดเวลาที่เจ้าหน้าที่ให้ย้ายการประท้วงไปที่อื่นแล้วก็ตาม
นายเฮ็ง ซอ วิน จากสหภาพนักศึกษาพม่าในมอญยอ กล่าวว่า ผู้ชุมนุมประท้วงเหล่านี้รอการมาถึงของคณะผู้แทนจากกลุ่มเรียกร้องประชาธิปไตยปี 88 ที่จะเดินทางมาจากนครย่างกุ้ง
เมื่อวันจันทร์ (10) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวชาวบ้าน 12 คน ที่พิธีสวดมนต์ในวัดมอญยอ และมีหญิงท้องถิ่น 3 คน ยังคงอยู่ในความควบคุมจนถึงเวลานี้
นักเคลื่อนไหวได้ออกคำร้องขอชุดหนึ่งต่อทางการ เรียกร้องให้ปล่อยตัวหญิงทั้ง 3 คน ที่ถูกจับตัวไว้โดยทันที และร้องขอให้มีการเจรจาต่อรองเกี่ยวกับการทำเหมืองทองแดงในพื้นที่ โดยต้องการให้เจ้าหน้าที่หยุดกิจการเหมือง จนกว่าจะบรรลุข้อตกลง
เหมืองทองแดงแห่งนี้เป็นการร่วมทุนระหว่าง บริษัทเมียนมาร์อีโคโนมิคโฮลดิ้งของทหาร และบริษัทวานเป่าของจีน เป็นประเด็นโต้แย้งมานานหลายเดือนหลังสื่อท้องถิ่นรายงานการทุจริตที่เชื่อมโยงกับโครงการ และกระทรวงเหมืองแร่พม่ากำลังฟ้องร้องหนังสือพิมพ์ว๊อยส์วีคลี่ย์เกี่ยวกับรายงานดังกล่าว
รัฐบาลของประธานาธิบดีเต็งเส่งผ่านกฎหมายอนุญาตให้ประชาชนจัดการประท้วงได้อย่างสงบตั้งแต่ต้นปี โดยที่ผู้ชุมนุมประท้วงต้องขออนุญาตล่วงหน้า 5 วัน และเมื่อปีก่อน ผู้นำพม่ามีคำสั่งระงับการก่อสร้างเขื่อนยักษ์ที่จีนให้การสนับสนุน ตอบสนองเสียงร้องเรียนของประชาชน.