.
ASTVผู้จัดการออนไลน์ - สาวนักศึกษาวัย 21 ปีจากนครเกิ่นเทอ (Cần Thơ) ศูนย์กลางเขตที่ราบปากแม่น้ำโขงได้กลายเป็นมิสเวียดนามคนใหม่ เจ้าของมงกุฎเพชรกับเงินรางวัลอีกว่า 20,000 ดอลลาร์ ในการประกวดที่ทราบผลกลางดึกวันเสาร์ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา ในนครด่าหนัง (Đà Nẵng) ท่ามกลางความอื้อฉาวหลังจากกองประกวดประกาศถอดตัวเก็งคนหนึ่งให้หมดสิทธิเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนรอบตัดเชือกจะเริ่มขึ้น
ดั่งทูถาว (Đặng Thu Thảo) นักศึกษามหาวิทยาลัยตะวันตก (Tay Ho University) เจ้าของตำแหน่งเทพีแห่งแม่น้ำโขง ที่สวยเรียบ และดูเรียบร้อยไม่หวือหวา กลายเป็นสาวงามคนแรกจากภาคใต้ในรอบกว่า 14 ปี ที่ได้ครองตำแหน่งเกียรติยศในระดับชาติที่จัดประกวดสองปีต่อครั้ง ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงวัฒนธรรม การท่องเที่ยวและกีฬา
มิสเวียดนาม 2010 ดั่งหง็อกเฮิน (Đặng Ngọc Hân) เป็นผู้สวมมงกุฎให้แก่สาวสวยที่สุดของประเทศคนใหม่ ในงานที่สถานีโทรทัศน์เวียดนาาม VTV1 ถ่ายทอดสดตลอดรายการ
รองอันดับ 1 ได้แก่ ซเวืองตู๋แอง (Dương Tú Anh) สาวนักศึกษาวัย 19 ปีจากสถาบันวารศาสตร์และสื่อสารมวลชนกรุงฮานอย และรองอันดับ 2 เป็นของโด๋หว่างแอง (Đỗ Hoàng Anh) วัย 18 ปีนักศึกษามหาวิทยาลัยวัฒนธรมแห่งฮานอย
รองทั้งสองคนได้รับเสียงเชียร์จากสื่ออย่างอุ่นหนาฝาคั่งตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งคู่อยู่ในอันดับ 1 และ 2 ตัวเก็ง 10 อันดับแรก จากการจัดอันดับโดยสื่อหลายแห่ง อย่างไรก็ตาม มิสเวียดนามคนใหม่ที่สวยอย่างโดดเด่นบนเวทีประกวดในรอบสุดท้าย ตอบคำถามด้วยปฎิภาณเป็นที่ประทับใจกรรมการให้คะแนนอย่างยิ่ง
“เพราะเหตุใดผู้คนทั่วโลกจึงยังนิยมชมการประกวดสาวสาวไม่เคยเบื่อ” - เป็นคำถาม
“ก็เพราะว่าการประกวดความสวยความงามเป็นสิ่งที่ทุกคนชื่นชอบ เพราะทุกคนตั้งใจจะได้เห็นมวลบุปผาที่มีสีสันสวยงามเบ่งบาน พร้อมๆ กันยังได้เห็นความสวยงามกับการแสดงอันงดงามของดวงดาราอีกด้วย” เจ้าของมงกุฎมิสเวียดนาม 2012 ตอบ
ผู้เข้าประกวดอีกหลายคนสามารถสร้างความประทับใจ และโกยคะแนนนิยมได้มากมายจากการตอบคำถาม รวมทั้งโด๋หว่างแอง รองอันดับ 2 ซึ่งถูกถามว่า “คุณเป็นหญิงงาม คุณรู้ตัวตั้งแต่เมื่อไรว่าเป็นคนสวย?”
สาวสวยตอบโดยไม่เว้นเวลาคิดว่า “หนูรู้เรื่องนี้ก็ตอนที่มองดูคุณแม่ค่ะ คุณแม่ของหนูเป็นคนสวย หนูอยากจะเป็นเช่นคุณแม่ที่ได้ถ่ายทอดทุกสิ่งทุกอย่าง รวมทั้งความรักมาให้หนูค่ะ”
ในขณะเดียวกัน บางคำถามในปีนี้ไปเกี่ยวข้องกับการเมือง และกรณีพิพาทในทะเลจีนใต้อย่างช่วยไม่ได้
.
2
.
สำหรับรองอันดับ 1 ซเวืองตู๋แอง ถูกถามเกี่ยวกับสมาคมยุวชนคอมมิวนิสต์โฮจิมินห์ หรือองค์กรเยาวชนกลางของพรรคคอมมิวนิสต์ที่เธอเป็นสมาชิกคนหนึ่ง เธอพูดถึงความเข้มแข็งของเยาวชนคอมมิวนิสต์ภายใต้ร่มธงของพรรค ซึ่งทุกคนไม่กลัวความยากลำบาก รักประเทศชาติและประชาชน หวงแหนพร้อมจะปกป้องเอกราชกับอธิปไตยของชาติ เธอภูมิใจที่ได้เป็นคนหนึ่งในองค์กรนี้
“ถ้าหากคุณได้ตำแหน่งมิสเวียดนาม และต้องเดินทางไปยังเกาะเจื่องซา (สแปร็ตลีย์) คุณจะต้องทำอย่างไรบ้าง” เป็นคำถามสำหรับฟานถิโม (Phan Thị Mơ) นักศึกษาวัย 22 ปี จากสถาบันการท่องเที่ยวนครโฮจิมินห์ และเป็นชาวใต้อีกคนหนึ่งที่เข้ารอบคัดเหลือ 5 คนสุดท้าย
สาวสวยจาก จ.เตี่ยนซยาง (Tiền Giang) ตอบอย่างไม่ลังเลว่า “หนูจะไปที่นั่นพร้อมธงแดงดาวเหลือง (ธงชาติเวียดนาม) หนูทราบดีว่าอยู่ที่นั่นทหารทุกคนยากลำบากเพียงไร หนูอยากจะนำเอาหัวใจของประชาชนบนแผ่นดินใหญ่ไปที่นั่น เพื่อให้กำลังใจแก่ทหารทุกคนค่ะ” และสิ้นคำตอบก็มีเสียงปรบมือดังกึกก้องตามมา
นอกจากนั้น ยังมีคำถามเกี่ยวกับสถานที่จัดการประกวด -- “ถ้าหากคุณไปยืนที่หาดหมีเค (Mỹ Khê) และจะต้องเขียนข้อความในกระดาษ นำใส่ขวดและปล่อยลงทะเลไป เพื่อบอกอะไรบางอย่างแก่ผู้ที่ไปพบ คุณจะเขียนข้อความว่าอย่างไร”
หวูหง็อกแอง (Vũ Ngọc Anh) วัย 22 ปี นักศึกษาสถาบันการธนาคารกรุงฮานอย ซึ่งเป็นคนหนึ่งในรอบคัดเหลือ 5 คนสุดท้าย ตอบว่า “สวัสดีค่ะ.. ไม่ว่าคุณจะเป็นใครก็ตาม พวกเราล้วนอยู่ร่วมมหาสมุทรเดียวกัน โปรดช่วยกันรักษาทะเลสีครามให้สวยงามอยู่กับพวกเราตลอดไปด้วยนะคะ”
ก่อนหน้านั้นเวลาประมาณ 15.00 น. กองประกวดที่มีหนังสือพิมพ์เตี่ยนฟอง (Tiền Phong) เป็นผู้นำได้ประกาศให้เวืองทูเฟือง (Vương Thu Phương ) สาวนักศึกษามหาวิทยาลัยนานาชาติห่มง์บ่าง นครโฮจิมินห์ ผู้สมัครที่เป็นตัวเก็งในระดับต้นๆ คนหนึ่ง หมดสิทธิเข้าประกวดในรอบสุดท้าย เนื่องจาก “กระทำผิดกฎระเบียบกระทรวงวัฒนธรรม” โดยไม่ได้อธิบายในรายละเอียด
แต่การ “ปลดกลางอากาศ” ดังกล่าวมีขึ้นหลังมีผู้นำเอาภาพๆ หนึ่งขึ้นเผยแพร่ในเว็บไซต์ภาษาเวียดนามบางแห่ง ระบุว่า เป็นภาพงานวิวาห์ของสาวสวยเมื่อปี 2553 โดยไม่มีคำอธิบายเช่นกัน ถึงแม้ว่าสาวตัวเก็งรายนี้จะให้สัมภาษณ์เมื่อ 2 วันก่อน ปฏิเสธภาพกับข่าวลืออย่างสิ้นเชิง และกองประกวดยืนยันในวันเดียวกันว่า เธอมีคุณสมบัติครบทุกประการก็ตาม
เวืองทูเฟือง ยังเป็นเจ้าของมงกุฎมิสซูเปอร์โมเดลเวียดนามเมื่อปีที่แล้ว (Miss Supermodel Vietnam 2011) อีกด้วย การประกวดรอบสุดท้ายจัดขึ้นที่เมืองด่าลัท (Đà Lạt) จ.เลิมโด่ง (Lâm Đồng) ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวตากอากาศยอดนิยมมานานกว่า 100 ปี ในเขตที่ราบสูงภาคกลางของประเทศ
ตามรายงานของสำนักข่าวการศึกษา GDVN เวียดนาม ทูเฟืองยังคงปฏิเสธเรื่องนี้ในคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา และยังคงร้องไห้ไม่หยุด เธอกล่าวว่า คืนนี้ทั้งครอบครัว ทั้งคุณพ่อคุณแม่ เพื่อนๆ อีกจำนวนมาก อยู่ในนครด่าหนังกันพร้อมหน้า เพื่อให้กำลังใจเธอ
รูปภาพดังกล่าวกลายเป็นประเด็นที่รวบกวนจิตใจของผู้คนตลอดมา สื่อหลายสำนักตั้งคำถามว่า ถ้าหากสาวงามคนนี้ได้สวมมงกุฎมิสเวียดนาม และกลับกลายเป็นว่า เหตุการณ์ในรูปภาพเป็นเรื่องจริงจะทำอย่างไร
ปีนี้ปีของสาวชาวใต้ GDVN เวียดนาม
3
4
5
6
7
8
.
แต่นอกเหนือจากเรื่องนี้แล้ว การประกวดมิสเวียดนามปีนี้เป็นไปอย่างราบรื่นทุกอย่าง รวมทั้งสถานที่ประกวดอันสวยงามคือ รีสอร์ตด่าหนังสปอร์ตคอมเพล็กซ์ ริมหาดหมีเค (Mỹ Khê ) หาดทรายสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ ตลอดจนเวทีที่ออกแบบรูปโค้งครึ่งวงกลม แบ่งเวทีรูปดอกบัวเป็น 3 ชั้น โดยใช้ “ธาตุทั้ง 5” เป็นแรงบันดาลใจ GDVN เวียดนามกล่าว
คณะกรรมการยังให้คะแนนสาวงามอีก 5 คน ให้เป็นเจ้าของรางวัลคู่ขนาน คือ สาวสวยในชุดว่ายน้ำริมหาด เป็นของนีงหว่างเงิน (Ninh Hoàng Ngân--211) สาวแก้มบุ๋มมีลักยิ้มวัย 22 ปี พนักงานธนาคารจากนครโฮจิมินห์ สาวสวยแสดงความสามารถได้ประทับใจที่สุดเป็นของ เหวียนถิซวนจาง (Nguyễn Thị Xuân Trang --610)
รางวัลสาวหุ่นสวยที่สุ ดเป็นของหวูหง็อกแอง (Vũ Ngọc Anh --396) วัย 22 ปี นักศึกษาจากสถาบันการธนาคารกรุงฮานอยอีกคนหนึ่ง อีกสองรางวัลคือ สาวผิวสวยเป็นของ (Nguyễn Thị Hà --890) นักศึกษา MBA วัย 24 ปีที่สถาบัน IBUS Hoa Ky กรุงฮานอย และรางวัลสาวผมสวยเป็นของฟานถิโม
การประกวดมิสเวียดนามจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 2531 โดยหนังสือพิมพ์เตี่ยนฟอง (หรือ “ผู้บุกเบิก”) และได้จัดต่อมาทุกๆ 2 ปี โดยใช้ชื่อ “มิสเตี่ยนฟอง” หรือสาวงามขวัญใจหนังสือพิมพ์เตี่ยนฟอง จนกระทั่งปี 2547 จึงใช้ขื่อ “มิสเวียดนาม” เป็นครั้งแรก
สาวชาวใต้ที่ได้เป็นเจ้าของมงกุฎก่อนหน้านี้คือ เหวีนถิหง็อกแค๊ง (Nguyễn Thị Ngọc Khánh) วัีย 22 ปีชาวโฮจิมินห์ ในการประกวดปี 2541 หลังจากนั้น ตำแหน่งได้หมุนเวียนตกเป็นของสาวงามจากภาคเหนือโดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวฮานอยเป็นส่วนใหญ่
มีเพียงครั้งเดียวที่ตำแหน่งเกียรติยศนี้ตกเป็นของสาวชาวภาคกลาง คือ เจิ่นถิถวี่ซวุง (Trần Thị Thuỳ Dung) มิสเวียดนาม 2008 ซึ่งเป็นชาวด่าหนัง แต่ “น้องเอ๊าะ” ถูกถอดมงกุฎหลังการประกวดได้ไม่นาน เมื่อกระทรวงวัฒนธรรมพบว่า สาวสวยวัย 18 ปี ยังเรียนไม่จบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย
มิสเวียดนามเป็นเวทีที่สงวนเอาไว้ให้แก่หญิงสาวที่เกิด และเติบโตในแผ่นดินแม่เท่านั้น ผู้เข้าประกวดทุกคนจะต้องสวยตามธรรมชาติ ไม่มีการเสริมแต่งส่วนใดของร่างกายทั้งสิ้น แม้กระทั่งปลายจมูก.