เขมรประสบปัญหาภัยแล้งเกือบครึ่งประเทศ

ซินหัว - ภาวะภัยแล้งเกิดขึ้นแล้วใน 11 จังหวัด จากทั้งหมด 24 จังหวัดของกัมพูชา ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ปลูกข้าวนับหมื่นไร่ นายแก้ว วี โฆษก และประธานคณะกรรมการจัดการภัยพิบัติแห่งชาติกัมพูชาระบุ

นายแก้ว วี กล่าวกับสำนักข่าวซินหัวของจีนว่า ตามปกติ ฤดูฝนจะเริ่มขึ้นในเดือนพ.ค. และสิ้นสุดลงราวเดือน ต.ค. แต่ในปีนี้ ในบางจังหวัดฝนไม่ตกตามฤดูกาล เป็นผลให้เกิดความแห้งแล้งที่ทำลายพื้นที่ปลูกข้าวแล้วมากกว่า 30,000 ไร่ และยังกระทบพื้นที่เพาะปลูกอีกมากกว่า 630,000 ไร่

สำหรับจังหวัดที่เกิดภัยแล้ง ได้แก่ จังหวัดกำปงสะปือ ตาแก้ว สะวายเรียง กันดาล เปรเวียง กัมโป้ต พระตะบอง โพธิสัด บ้านใต้มีชัย อุดรมีชัย และพระวิหาร ซึ่งนายแก้ว วี ระบุว่า หากภัยแล้งยังเกิดขึ้นเป็นระยะเวลายาวนาน คาดว่าจะสร้างความเสียหายอีกเป็นจำนวนมาก

นายกรัฐมนตรีฮุนเซนได้ร้องขอให้หน่วยงานทุกระดับ ช่วยกู้กล้าข้าวของเกษตรกรด้วยการเร่งสูบน้ำเข้าไปยังพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ

“สภาพอากาศยากต่อการคาดการณ์ ก่อนหน้านี้ เราคาดการณ์ว่าพายุ 3 ลูก จะส่งผลต่อกัมพูชา แต่พายุกลับเปลี่ยนทิศมุ่งขึ้นเหนือ ทำให้เกิดน้ำท่วมในจีน เกาหลีใต้ และพื้นที่บางส่วนของญี่ปุ่น และคาดว่า ฤดูฝนจะลากยาวไปจนถึงต้นเดือน ธ.ค.” นายกฯ ฮุนเซน กล่าวในพิธีสำเร็จการศึกษา ที่มหาวิทยาลัยบิวด์ไบรท์

กัมพูชาเป็นประเทศเกษตรกรรม ประชากรของประเทศมากกว่า 80% เป็นเกษตรกร รายงานของกระทรวงเกษตรกัมพูชาระบุว่า ในปี 2554 กัมพูชามีผลผลิตข้าว 8.25 ล้านตัน.