เอเอฟพี - นางอองซานซูจี ผู้นำสนับสนุนประชาธิปไตยของพม่า จะเดินทางถึงกรุงปารีส ของฝรั่งเศส เป็นประเทศสุดท้ายในการตระเวนเยือนยุโรปครั้งประวัติศาสตร์ของนางในวันนี้ (26 มิ.ย.)
เจ้าของรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพ อายุ 67 ปี ที่จะเดินทางถึงฝรั่งเศสในวันนี้ มีกำหนดเข้าคำนับ และหารือกับประธานาธิบดีฟรังซัวส์ ออลลองด์ และเจ้าหน้าที่อาวุโส หลังได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นทั้ งในสวิตเซอร์แลนด์ ไอร์แลนด์ นอร์เวย์ และอังกฤษ
“ฝรั่งเศสขอแสดงความชื่นชมต่อการต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนของนางอองซานซูจี และฝรั่งเศสจะให้การสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตยของพม่า” โฆษกกระทรวงการต่างประเทศฝรั่งเศส กล่าว
นางอองซานซูจี จะเดินทางถึงกรุงปารีสด้วยรถไฟจากกรุงลอนดอน ในบ่ายวันอังคาร (26) และจะมุ่งหน้าไปยังพระราชวังเอลีเซ่ เพื่อร่วมมื้อค่ำ และแถลงข่าวกับประธานาธิบดีอองลองด์
ระหว่างการเยือนฝรั่งเศสนาน 3 วัน นางอองซานซูจีมีกำหนดที่จะเข้าพบกับรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศฝรั่งเศส ผู้ว่าฯ การกรุงปารีส ประธานสภาของทั้งสองสภา สมาชิกชุมชมชาวพม่าในฝรั่งเศส และผู้สนับสนุนจากกลุ่มสิทธิมนุษยชน
นายปิแอร์ มาติอาล หัวหน้าสมาคมอองซานซูจีฝรั่งเศสที่สนับสนุนนางอองซานซูจี กล่าวว่า นางอองซานซูจีจะใช้โอกาสในการเยือนฝรั่งเศสครั้งนี้เรียกร้องให้รัฐบาลฝรั่งเศส และนักธุรกิจให้การสนับสนุนกระบวนการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบอบประชาธิปไตยของพม่า
“นางอองซานซูจีจะเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ให้ความช่วยเหลืออย่างเป็นรูปธรรม การลงทุนในวิถีทางที่เหมาะสม และยุติธรรม เพื่อช่วยพม่าฟื้นฟูประเทศ หลังอยู่ภายใต้ความเลวร้ายทางเศรษฐกิจ และการเมืองนานหลายปี” นายปิแอร์ มาติอาล กล่าว พร้อมเพิ่มเติมว่า การเยือนครั้งนี้จะยังช่วยให้ซูจีได้ขอบคุณต่อบรรดาผู้ที่ช่วยเหลือนางในช่วงปีของความยากลำบากเหล่านี้
นายมาติอาลยังเรียกร้องให้ทางการฝรั่งเศสให้คำมั่นว่าจะช่วยเหลือทั้งทางการเงิน และให้กำลังใจต่อกลุ่มสนับสนุนประชาธิปไตยอิสระที่ดำเนินการอยู่ในประเทศ
นางอองซานซูจีได้รับการปล่อยตัวเป็นอิสระจากการควบคุมตัวภายในบ้านพักนานเกือบ 2 ทศวรรศ เมื่อเดือน พ.ย. 2553 และกลายเป็นสมาชิกสภาเมื่อต้นปี อันเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงไปสู่ระบอบประชาธิปไตยในพม่า
นางซูจีได้เริ่มตระเวนเยือนประเทศในยุโรปเมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ที่สวิตเซอร์แลนด์ และจะเดินทางถึงฝรั่งเศสจากอังกฤษ ประเทศที่เธอเคยศึกษาเล่าเรียน และใช้ชีวิตอยู่นานหลายปีจนกระทั่งนางเดินทางกลับไปต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตยในพม่า และในวันที่ 16 มิ.ย. นางอองซานซูจีได้กล่าวสุนทรพจน์ในพิธีรับรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพ ที่กรุงออสโล พร้อมให้คำมั่นว่าจะมุ่งมั่นต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยต่อไป.
