.
ASTVผู้จัดการออนไลน์ - กระทรวงวัฒนธรรมเวียดนามได้ออกกฎระเบียบใหม่นำเสนอต่อรัฐบาล เพื่อเพิ่มโทษปรับรุนแรงยิ่งขึ้นสำหรับนักร้องหญิงที่ชอบแต่งวาบหวิวขึ้นเวทีโชว์เนื้อหนังอย่าตั้งใจ รวมทั้งพวกที่ไม่ได้ร้องจริง หากทำปากขมุบขมิบไปตามจังหวะกับเนื้อร้องที่เรียกว่า “ลิปซิงก์”
โทษปรับใหม่จะสูงถึง 25 ล้านด่ง (ราว 1,250 ดอลลาร์) และอาจจะถูกห้ามแสดง และวางมือจากอาชีพนี้เป็นเวลาถึง 2 ปี จากเดิมทีกำหนดโทษเพียง 6 เดือน ทั้งนี้ เป็นไปตามคำชี้แนะของรัฐบาลที่ต้องการให้กระทรวงวัฒนธรรม การกีฬาและท่องเที่ยวจัดระเบียบกิจกรรมศิลปะและแฟชั่นเสียใหม่ สื่อของทางการรายงาน
คณะกรรมการชุดหนึ่งของกระทรวงประชุมกันในวันที่ 1 มิ.ย. และมีมติเกี่ยวกับการเพิ่มโทษปรับ และโทษแบนออกมา หนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋รายงาน
การเปิดแสดงแต่ละครั้งของบรรดานักร้องศิลปิน จะต้องขออนุญาตจากสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด หรืออำเภอ แต่ส่วนใหญ่มักจะไม่ปฏิบัติตามที่ขออนุญาตเอาไว้ หันไปแต่งชุดหวือหวา ล่อแหลม และใช้วาจารุนแรงต่อหน้าสาธารณชน
ขณะเดียวกัน การ “ลิปซิงก์” ไม่ใช่สิ่งที่สร้างสรรค์ และมีแต่จะทำให้วงการตกต่ำลง หนังสือพิมพ์ซึ่งเป็นปากเสียงของศูนย์กลางยุวชนคอมมิวนิสต์โฮจิมินห์กล่าว
คณะกรรมการชุดนี้ยังมีมติที่จะขอให้สถานทีโทรทัศน์เวียดนาม และสื่ออื่นๆ ของทางการงดถ่ายทอดสด หรือแพร่ภาพนักร้องที่ละเมิดกฎกติกา
.
.
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการยังจะต้องพิจารณาเกี่ยวกับโทษปรับฐาน “ลิปซิงก์” อีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากเป็นที่ยอมรับกันว่าในปัจจุบัน เวียดนามยังไม่มีเทคโนโลยีด้านเสียงที่ทันสมัยเพียงพอในการจำกัด หรือควบคุมการลิปซิงก์
คณะกรรมการกำลังพิจารณาเช่นกันว่า ควรจะมีการออกประกาศนียบัตรให้แก่ “นางแบบ” จะดีหรือไม่ ทั้งนี้ เพื่อป้องกันมิให้ใครก็ได้ อ้างตัวเองเป็นนางแบบ หรือคนที่ประกอบอาชีพนี้ และนำไปใช้ประโยชน์ในทางที่ทำให้วงการเสื่อมเสีย
ปลายเดือน พ.ค. ทางการท้องถิ่นนครโฮจิมินห์ได้ลงโทษทูมีง (Thu Minh) นักร้องที่มีชื่อเสียง และความสามารถสูงคนหนึ่ง ฐานแต่งกายล่อแหลมไม่สวมชั้นใน สวมเสื้อแหวกด้านข้าง ทำให้ปทุมถันโผล่ให้เห็นเป็นจังหวะขณะโยกย้ายไปตามจังหวะเต้น และร้องบนเวที ไม่สอดคล้องกับวัฒนธรรมอันดีงามของสังคม
แต่นักร้องสาวถูกปรับเพียง 3.5 ล้านด่ง (175 ดอลลาร์) ซึ่งเป็นโทษแค่ “ตบไหล่เบาๆ” ไม่อาจทำให้เข็ดหลาบ หรือป้องกันมิให้เกิดขึ้นอีกได้ ในขณะที่ผู้กระทำผิดกลับชื่อเสียงโด่งดังยิ่งขึ้นหลังก่อการอื้อฉาว เตื่อยแจ๋กล่าว.
.