.
ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- เที่ยวบินฮานอย-โฮจิมินห์ในคืนวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา เกิดความโกลาหนจนต้องลงจอดฉุกเฉินที่นครด่าหนัง หลังจากเกิดความขัดข้องทางเทคนิคและหน้ากากออกซิเจนหล่นพรึบลงเอง ขณะที่ลูกเรือแจ้งให้ผู้โดยสารสวมเสื้อชูชีพโดยระบุว่าเครื่องอาจจะต้องลงกลางทะเล
ตามรายงานของหนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋ แอร์บัส A-321 เวียดนามแอร์ไลน์ส ขึ้นจากท่าอากาศยานโนยบ่าย กรุงฮานอย เมื่อเวลา 19.30 น. วันพฤหัสบดี 24 พ.ค. อีก 30 นาทีต่อมาขณะมุ่งสู่นครโฮจิมินห์ นักบินต้องลงฉุกเฉินที่ท่าอากาศยานด่าหนัง เนื่องจากเกิดความขัดข้องภายในระบบ เป็นเหตุให้หน้ากากออกซิเจนหล่นพรึบลง
ขณะกำลังบินอยู่นั้น นักบินได้รับการแจ้งเตือนจากระบบว่าความกดอากาศภายในลำกำลังเปลี่ยนแปลง แต่อีกไม่นานต่อมาระบบก็กลับทำงานเป็นปกติ เตื่อยแจ๋รายงานโดยอ้างโฆษกคนหนึ่งของเวียดนามแอร์ไลน์ส
แต่นายเจิ่นจ่อมง์เติ๋น (Tran Trong Tan) ซึ่งเป็นผู้โดยสารคนหนึ่งในเที่ยวบินชุลมุนกล่าวในเวลาต่อมาว่า ขณะที่พนักงานให้บริการกำลังเสิร์ฟอาหารมื้อเย็นอยู่นั้น นักบินได้แจ้งให้พนักงานทุกคนหยุดการปฏิบัติหน้าที่ อีกนาทีถัดมาหน้ากากออกซิเจนก็หล่นลง อุณหภูมิในห้องโดยสารเริ่มสูงขึ้นและทุกคนเริ่มอึดอัด หายใจลำบาก พนักงานบริการหญิงต้องนำท่อออกซิเจนไปช่วยเด็กๆ
นอกจากนั้นพนักงานหญิงคนหนึ่งยังบอกผ่านระบบเครื่องขยายเสียง ให้ผู้โดยสารทุกคนสวมเสื้อชูชีพ และรอฟังคำแนะนำต่อไป เธอยังกล่าวด้วยว่า “เครื่องอาจจะต้องบินลงกลางทะเล” ซึ่งทำให้บรรยากาศเริ่มโกลาหล นายเติ๋นกล่าว
อย่างไรก็ตาม แอร์บัสเที่ยวบินดังกล่าวลงจอดที่ท่าอากาศยานด่าหนังอย่างปลอดภัยในเวลาต่อมา ผู้โดยสารทั้งหมดได้ต่อเครื่องบินอีกลำหนึ่งเดินทางถึงโฮจิมินห์เวลาตี 1 วันศุกร์ 25 พ.ค.
หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวเครื่องแอร์บัสได้ตีกลับกรุงฮานอยเข้ารับการตรวจเช็ก จากนั้นก็บินให้บริการผู้โดยสารต่อไปได้ตามปกติ โฆษกของสายการบินเวียดนามกล่าวโดยไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับ “ความไม่ปกติในระบบ” ที่เกิดขึ้น.